Switzerland Rapperswill-Jona and Gruyeres The Roses and Cheese city 7 วัน 4 คืน โดยสายการบินเอมิเรต

สถานที่ทัวร์:
ยุโรป Europe BIG DEAL BIG DEAL
ระยะเวลา:
7 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Emirates

Switzerland Rapperswill-Jona and Gruyeres The Roses and Cheese city 7 วัน 4 คืน โดยสายการบินเอมิเรต7 วัน 4 คืน

฿0

BKK-DXB

ออกจากBKK
01.35
ถึงDXB
04.45

DXB-ZRH

ออกจากDXB
08:40
ถึงZRH
13:20

โปรแกรม 7 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินEmirates

22.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

01.15 น.
ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385
***สำหรับคณะที่ออกเดินทางระหว่างวันที่ 01 – 07 ก.ค. 63 จะออกเดินทาง เวลา 01.35 น. และเดินทางถึงดูไบ เวลา 04.45 น.***
04.45 น.
ถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
08.40 น.
ออกเดินทางสู่ซูริค โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 087
13.20 น.
เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่เมืองสไตน์ ฮัม ไรน์ (Stein am Rhein) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมือง เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์มาก และยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโบราณยุคกลางไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด นำท่านเดิมชมอาคารบ้านเรือนย่านเมืองเก่าที่มีลักษณะเด่นคือ บางบ้านมีมุขหน้าต่างยื่นออกมาและมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังปูนเปียก (Fresco) บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่เขียนเล่าเรื่องราวของชนชั้นกลางและวิถีชีวิตการทำเกษตรกรรมในยุคศตวรรษที่ 19 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปคู่กับโบสถ์เซนต์ จอร์จ โบสถ์แรกของเมือง และเป็นอาคารแรกที่เป็นทางการของเมืองอีกด้วยและปัจจุบันได้กลายเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) ชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสวยงามและตื่นตาตื่นใจ เกิดจาก แม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป


นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์กัลเลน (St.Gallen) เมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์โดยชื่อเมืองนั้นได้มาจากนักบุญที่มาเผยแพร่ศาสนาเมื่อสมัยศตวรรษที่ 7 ซึ่งเมืองนี้นั้นเป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์คาธอลิคในยุคสมัยยุโรปกลางก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นศูนย์กลางการค้าผ้าและการเย็บปักถักร้อยแทนในยุคหลัง นำท่านเข้าชมมหาวิหารเซนต์กัลเลน (Convent of St. Gall) อันศักดิ์สิทธิ์ ภายนอกนั้นโดดเด่นด้วยหอคอยคู่ ตัววิหารนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบบาโรค (Baroque) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย และจากนั้นนำท่านเข้าชมหอสมุดโบราณ(Abbey Library หรือ Stifsbibliotek) โดยห้องสมุดนี้นับว่าเป็นห้องสมุดที่เก่าแก่ อาจจะเรียกได้ว่ารวยและเก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง (Abbey Library is one of the richest and oldest in the world) ภายห้องโถงของห้องสมุดตกแต่งด้วยงานไม้แกะสลัก หินอ่อน และภาพวาดปูนเปียก ภาพเขียนเฟรสโก้ที่ออกแบบและเขียนโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงชาวอิตาลี ไมเคิล แองเจโล อันวิจิตรงดงามบนเพดานของโดมหลังคา เป็นที่เก็บรวบรวมถึงหนังสือต่างๆและเอกสารสำคัญ มากกว่า 170,000 เล่ม และห้องสมุดนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983 (หากไม่สามารถเข้าชมมหาวิหารและห้องสมุดได้ ทางบริษัทขอคืนเงินท่านล่ะ 10 CHF)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก NEWSTAR HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


ท่านเดินทางสู่เมืองรัพเพอร์สวิล - โจนา (Rapperswil-Jona) โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ในมลรัฐเซนท์กัลเลน ในอดีตทั้งรัพเพอร์สวิล และ โจนา นั้นเป็นเมืองที่อยู่แยกกัน จนกระทั่งรวมกันเมือปี 2007 และได้กลายเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของมลรัฐเซนต์กัลเลน มีเนินเขาใจกลางตัวเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่า (Rapperswil Castle) ซึ่งถูกสร้างขึ้นราวๆ ค.ศ.1220 โดยท่านเคาท์แห่งเมือง Rapperswil โดยปราสาทแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง และยังกลายเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยงาม มองเห็นทะเลสาบซูริค อาคารบ้านเรือนทั่วทั้งเมือง และที่สำคัญชาวเมืองนี้จะให้ความสำคัญกับการปลูกดอกกุหลาบมาก เป็นแหล่งเพาะปลูกกุหลาบมากกว่า 600 สายพันธุ์ มากกว่า 15,000 ดอกที่เบ่งบานอยู่ทั่วเมือง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนประมาณเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี จนได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งกุหลาบ (Town of roses)" จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองวิทซ์เนา (Vitznau) เพื่อนั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา(Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ชมวิวแบบพาโนรามาที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบ Luzern และ Zug โดยสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง “อย่าลืมฉัน” และ “รัตนาวดี” อีกด้วย


อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
ให้อิสระท่านตามอัธยาศัยบนยอดเข้าริกิ จากนั้นนำท่านลงจากเขาโดยการนั่งกระเช้าเพื่อสัมผัสบรรยากาศของทิวทัศน์ที่สวยงามอีกเส้นทางหนึ่ง ออกเดินทางสู่เมืองซุก (ZUG) เมืองแห่งศูนย์กลางการคมนาคมของประเทศ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนที่ราบเชิงเขาริมทะเลสาบ ที่มีแม่น้ำ Lorze ไหลผ่านทำให้เมืองนี้ได้รับการกล่าวขานว่ามีทัศนียภาพที่งามดั่งเทพนิยาย นำท่านชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่นของหลังคาสีน้ำเงินขาวโดดเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตรอเบอร์รี, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SWISSEVER HOTEL ZUG หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


เดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อกโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น


อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200 - 300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL HACIENDA หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองกรุยแยร์ (Gruyères) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่กลางหุบเขาทางฝั่งตะวันตกของสวิส มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ตั้งแต่สมัยยุคกลาง เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านการทำชีสกรุยแยร์ โดยมีโรงงานชีสชื่อดัง La Maison du Gruyeres ตั้งอยู่ตรงสถานีรถไฟ อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติอันงดงามในเมืองเล็กๆ แห่งนี้
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ฟองดูร์ชีส)
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองแทซ (Teasch) เพื่อเดินทางสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ทยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเดินทางโดยรถไฟ หรือ Funicular ที่วิ่งผ่านอุโมงค์เจาะทะลุภูเขาสู่เขาซุนเนกกา (Sunnegga) ที่มีความสูงเพียง 2,228 เมตร แต่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่สวยงามมากๆ โดยบริเวณบนยอดเขานี้ยังประกอบไปด้วยทะเลสาบทั้ง 5 โดยจะนำท่านเดินเท้าไปชม 1 ใน 5 ทะเลสาบที่มีกล่าวได้ว่ามีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดของการชมวิวยอดเขายอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น นั้นคือ ทะเลสาบไลเซ (Leisee Lake) ที่ตั้งบนความสูง 2,232 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนน้ำในทะเลสาบที่ใสราวกับกระจก จะสะท้อนภาพของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นบนผิวน้ำที่สวยงามยิ่งนัก (ถ้าในช่วงฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นพื้นน้ำแข็ง) นำท่านเดินทางกลับลงมาที่เมืองเซอร์แมท เชิญท่านอิสระกับการเดินเที่ยวชมเมือง หรือเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย (คณะเดินทาง 20-26 พ.ค. 63 เนื่องจากเขาซุนเนกกาปิด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นำท่านเดินเล่นในเมืองเซอร์แมทแทน)


อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL ELITE TASCH หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ทางด้านนอก ปราสาทแห่งนี้ เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ นำท่านเดินทางสู่เมืองเจนีวา (Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับน้ำพุเจทโด ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
21.40 น.
เดินทางสู่เมืองดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 084

06.10 น.
เดินทางถึงดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
***สำหรับคณะที่ออกเดินทางเดือน มิ.ย. เป็นต้นไปจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 19.15 น.***
18.55 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา