โปรแกรม 7 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
21.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2 กรุงเทพฯ – ซูริค – เบิร์น – เจนีวา – โลซานน์
00.35 น.
ออกเดินทางสู่สวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 970
06.55 น.
เดินทางถึงสนามบินซูริค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั่วโมงในวันที่ 29 มีนาคม 2563) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเที่ยวเมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวาจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก DE LA PAIX หรือเทียบเท่า
ออกเดินทางสู่สวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 970
06.55 น.
เดินทางถึงสนามบินซูริค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั่วโมงในวันที่ 29 มีนาคม 2563) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเที่ยวเมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวาจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก DE LA PAIX หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 โลซานน์ – เซอร์แมต – ยอดเขาซุนเนกก้า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเที่ยวเมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งนับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ นำท่านสู่เมืองแทซ (Teasch) เผื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟเดินทางต่อสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีของโลก เซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถไฟ หรือ Funicular ที่วิ่งผ่านอุโมงค์เจาะทะลุภูเขาสู่เขาซุนเนกกา (Sunnegga) ที่มีความสูงเพียง 2,228 เมตร แต่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่สวยงามมากๆ โดยบริเวณบนยอดเขานี้ยังประกอบไปด้วยทะเลสาบทั้ง 5 โดยจะนำท่านเดินเท้าไปชม 1 ใน 5 ทะเลสาบที่มีกล่าวได้ว่ามีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดของการชมวิวยอดเขายอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น นั้นคือ ทะเลสาบไลเซ (Leisee Lake) ที่ตั้งบนความสูง 2,232 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนน้ำในทะเลสาบที่ใสราวกับกระจก จะสะท้อนภาพของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นบนผิวน้ำที่สวยงามยิ่งนัก (ถ้าในช่วงฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นพื้นน้ำแข็ง) นำท่านเดินทางกลับลงมาที่เมืองเซอร์แมท เชิญท่านอิสระกับการเดินเที่ยวชมเมือง หรือเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก DERBY หรือเทียบเท่า *** ในกรณีที่ห้องพักในเมืองเซอร์แมทเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นำพาท่านไปเดินเล่นที่เมืองเซอร์แมทและย้ายไปพักที่เมืองข้างเคียงแทน***
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเที่ยวเมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งนับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ นำท่านสู่เมืองแทซ (Teasch) เผื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟเดินทางต่อสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีของโลก เซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถไฟ หรือ Funicular ที่วิ่งผ่านอุโมงค์เจาะทะลุภูเขาสู่เขาซุนเนกกา (Sunnegga) ที่มีความสูงเพียง 2,228 เมตร แต่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่สวยงามมากๆ โดยบริเวณบนยอดเขานี้ยังประกอบไปด้วยทะเลสาบทั้ง 5 โดยจะนำท่านเดินเท้าไปชม 1 ใน 5 ทะเลสาบที่มีกล่าวได้ว่ามีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดของการชมวิวยอดเขายอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น นั้นคือ ทะเลสาบไลเซ (Leisee Lake) ที่ตั้งบนความสูง 2,232 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนน้ำในทะเลสาบที่ใสราวกับกระจก จะสะท้อนภาพของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นบนผิวน้ำที่สวยงามยิ่งนัก (ถ้าในช่วงฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นพื้นน้ำแข็ง) นำท่านเดินทางกลับลงมาที่เมืองเซอร์แมท เชิญท่านอิสระกับการเดินเที่ยวชมเมือง หรือเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก DERBY หรือเทียบเท่า *** ในกรณีที่ห้องพักในเมืองเซอร์แมทเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นำพาท่านไปเดินเล่นที่เมืองเซอร์แมทและย้ายไปพักที่เมืองข้างเคียงแทน***
วันที่ 4 เซอร์แมท – แทซ – มองเทรอซ์ – เวเว่ย์ – อินเทอร์ลาเคน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทชิลยอง (ด้านนอก) (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” (Pearls of the Swiss Riviera) ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล แล้วนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ มีภาพของยอดเขาจูงเฟราเป็นฉากหลัง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ชีสฟองดูว์)
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CITY OBERLAND หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทชิลยอง (ด้านนอก) (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” (Pearls of the Swiss Riviera) ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล แล้วนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ มีภาพของยอดเขาจูงเฟราเป็นฉากหลัง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ชีสฟองดูว์)
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CITY OBERLAND หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 อินเทอร์ลาเคน – ยอดเขาจุงเฟรา – มิลาน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินสู่สถานีรถไฟอินเทอร์ลาเคนออกซ์ (Interlaken Ost) เพื่อที่จะเปลี่ยนสถานีที่เมือง กรุน-กรินเดอวาลด์ (Grund - Grindelwald) ขึ้นสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เเละเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำคณะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จนถึง สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน(Milan) นำท่าน ชมเมืองมิลาน เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอิตาลี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น นำท่านถ่ายรูป โบสถ์ดูโอโม่ (Duomo di Milano) จากภายนอกแห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1386 และที่น่าทึ่งของโบสถ์ ก็คือการตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคาร มีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ขวามือของโบสถ์มีอาคารทรงกากบาทหลังหนึ่ง และหลังคามุงด้วยกระเบื้องโปร่งใส เรียกกันว่า“อาเขต” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์ วิคเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ปฐมกษัตริย์ของอิตาลีในการรวมชาติ นำท่านช, อาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 (Monument of Vittorio Emanuele II) ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของเมืองมิลาน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินสู่สถานีรถไฟอินเทอร์ลาเคนออกซ์ (Interlaken Ost) เพื่อที่จะเปลี่ยนสถานีที่เมือง กรุน-กรินเดอวาลด์ (Grund - Grindelwald) ขึ้นสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เเละเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำคณะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จนถึง สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน(Milan) นำท่าน ชมเมืองมิลาน เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอิตาลี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น นำท่านถ่ายรูป โบสถ์ดูโอโม่ (Duomo di Milano) จากภายนอกแห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1386 และที่น่าทึ่งของโบสถ์ ก็คือการตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคาร มีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ขวามือของโบสถ์มีอาคารทรงกากบาทหลังหนึ่ง และหลังคามุงด้วยกระเบื้องโปร่งใส เรียกกันว่า“อาเขต” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์ วิคเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ปฐมกษัตริย์ของอิตาลีในการรวมชาติ นำท่านช, อาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 (Monument of Vittorio Emanuele II) ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของเมืองมิลาน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 มิลาน – สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
10.00 น.
นำท่านเดินทางสู่สนามบินมิลานมัลเปนซา เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
13.05 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ TG 941
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
10.00 น.
นำท่านเดินทางสู่สนามบินมิลานมัลเปนซา เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
13.05 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ TG 941
วันที่ 7 กรุงเทพฯ
05.55 น.
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ