GERMANY AND POLAND เยอรมนี และ โปแลนด์ 7 DAYS 4 NIGHTS โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (LH)

สถานที่ทัวร์:
ยุโรป Europe เยอรมนี โปแลนด์ Germany-Poland
ระยะเวลา:
7 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Lufthansa

GERMANY AND POLAND เยอรมนี และ โปแลนด์ 7 DAYS 4 NIGHTS โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (LH)7 วัน 4 คืน

฿0

BKK-FRA

ออกจากBKK
23.00
ถึงFRA
06.00+1

KRK-FRA

ออกจากKRK
18.55
ถึงFRA
20.30

โปรแกรม 7 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินLufthansa

20.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินลุฟท์ฮันซ่าโดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.50 น.
ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 773
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือน เม.ย.63 จะออกเดินทางเวลา 23.00 น. และไปถึงแฟรงก์เฟิร์ตเวลา 06.00 น.***

06.00 น.
ถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั่วโมงในวันที่ 29 มีนาคม 2563) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำเที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองวูซ์บวร์ก (Würzburg) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบริเวณฟรังโคเนียที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐบาวาเรียในประเทศเยอรมนีเป็นอีกแหล่งของการเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน ซึ่งบรรดาสถาปัตยกรรมในเมืองนี้ล้วนเป็นสไตล์บาร็อค จึงได้รับสมญานามว่าเป็น Baroque City นอกจากนั้นยังถือเป็นเมืองแห่งบิชอบ (Bishop) เพราะในอดีตนั้นได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายศาสนามาโดยตลอด ดั้งเดิมถูกค้นพบโดยคณะมิชันนารีชาวไอริชตั้งแต่ปี 868 ต่อมาในปี 742 ก็มาถึงสมัยของเซนต์บอนนิเฟซ (St. Boniface) จนกระทั่งในปี 1030 เมืองนี้ก็ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งบิชอปออฟวูซ์บวร์ก (Bishops of Würzburg) จนกระทั่งในปี 1631 ก็ตกอยู่ในอำนาจกษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน (Gustav Adolf of Sweden) และในปี1814 ก็ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นบาวาเรีย นำท่านชมพระราชวังวูร์ซบวร์ก (Würzburg Residenz) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ และยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก เป็นวังสไตล์บาร็อคของปริ๊นซ์ บิชอป โดยเป็นผลงานของออกแบบของสถาปนิกโนเนมนามว่า Blthasar Neumann ในปี 1720 – 1744 เพื่อสร้างให้กับสมเด็จพระสังฆราช โจฮันน์ ฟิลิปป์ ฟรานซ์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับใช้เวลาในการก่อสร้างโดยรวมจนเสร็จสมบูรณ์กว่า 60 ปี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่นำท่านเดินทางสู่เมืองโรเธนเบิร์ก (Rothengurg) หรือชื่อเต็มคือ โรเธนเบิร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ ROTHENBURG OB DER TAUBER อดีตเมืองโบราณจากยุคกลางแห่งแคว้นบาวาเรีย ที่ยังคงเอกลักษณ์ของกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรอเนสซองส์ในรูปแบบเยอรมันขนานแท้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกและสมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากรอดพ้นจากสงครามโลกมาได้ นำท่านชมย่านเมืองเก่าของโรเธนเบิร์ก (Marktplazt) ถ่ายรูปกับศาลาว่าการ Ratstrinkstube สไตล์โกธิคเรอเนสซองค์ ให้เวลาลัดเลาะแนวกำแพงเมืองที่โอบล้อมบ้านเรือนที่ก่อด้วยอิฐสีสันต่างๆและมุงด้วยหลังคาสีส้มซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์แห่งการสร้างบ้านในยุคกลางของเยอรมัน เดินทางต่อสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี และเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นกองบัญชาการทางการทหารเพื่อต่อสู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และตัวเมืองโดนกลุ่มสัมพันธ์มิตรถล่มเสียหายเกือบทั่วทั้งเมือง แต่ชาวเมืองก็ได้ร่วมมือกันบูรณะให้กลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์แม่พระ (Frauenkirche) เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึงสิบปี ที่นี่มีจุดเด่นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากก็คือ บริเวณยอดแหลมของโบสถ์ที่เป็นหอนาฬิกา โดยความพิเศษก็คือ เมื่อเวลาเที่ยงตรงปุ๊บ เหล่าตุ๊กตาก็จะออกมาเต้นระบำให้เราชม จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับน้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน (Schoner Brunnen) หรือ Beautiful Fountain สูง 19 เมตร สีทองอร่าม ซึ่งประกอบไปด้วยรูปปั้นของเจ้าอิเล็คเตอร์ 40 องค์ นักบุญ ชาวยิว และรูปประดับอื่นๆ ถือได้ว่าเป็นน้ำพุที่อลังการมากที่สุดในเยอรมนี นักท่องเที่ยวที่มานี่ส่วนใหญ่ก็จะมาขอพรกัน วิธีการก็คือ ให้หมุนแหวนทองตรงน้ำพุเป็นจำนวน 3 รอบ โดยระหว่างที่หมุนแหวนก็ให้อธิษฐานสิ่งที่ต้องการไปด้วย มีเวลาให้ท่านได้อิสระเดินเล่นในย่านเมืองเก่าที่สวยงาม รวมทั้งเลือกซื้อของที่ระลึก หรือ สินค้าแฟชั่นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE CONGRESS หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) นำท่านชมเมืองแบมเบิร์ก ส่วนที่เป็นเขตเมืองเก่าของเมืองแบมแบร์กได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก เนื่องจากเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในเยอรมนี ที่รอดพ้นจากการที่ถูกบอมบ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตึกรามบ้านช่องในเขต 2 เมืองเก่าจึง “เก่าจริง” มิได้สร้างหรือซ่อมแซมใหม่ให้ดู “เหมือนเก่า” นำท่านชมมหาวิหารแบมเบิร์ก หรือชื่อเป็นทางการว่า มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (The Imperial Cathedral of St. Peter’s and St. George’s) มีความสาคัญเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่ง แบมแบร์ก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่สอง จากนั้นชมศาลากลางหลังเก่าของเมืองที่สร้างคล่อมทับแม่น้ำเรกนิตซ์
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
เดินทางต่อสู่เมืองเดรสเดน (Dresden) ได้รับสมญานามว่าเป็น “ฟลอเร้นซ์แห่งแม่น้ำเอลเบ้” ว่ากันว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดในประเทศเยอรมนี เมืองนี้ได้กลับมามีบทบาทในฐานะเมืองหลวงของแซกโซนี่อีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1990 หลังจากมีการรวมประเทศ เมืองได้ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างมีขั้นตอนอันสืบเนื่องมาจากผลแห่งการทำลายล้างของสงครามโลกครั้งที่สอง


อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก WYNDHAM GARDEN DESDEN หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเที่ยวชมเมืองเดรสเดน ชม โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche) อดีตฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 ที่ทิ้งร่องรอยของการทำลายล้างในสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน ผ่านชมเซมเพอร์โอเปร่าเฮ้าส์ (The Semper Opera House) ที่มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี ผ่านชมพระราชวังสวิงกอร์ (Zwinger Palace) ผลงานชิ้นเอกรูปแบบบาร็อคบนฝั่งแม่น้ำเอลเบ้ ที่ตกแต่งอย่างงดงามด้วยน้ำพุและรูปปั้น
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวรอตสวัฟ (Wroclaw) เมืองมีความหลากหลายและการเปี่ยมล้นด้วยวัฒนธรรมของประวัติศาสตร์ในเมืองนี้ เป็นดังสะพานเชื่อม ที่เชื่อมระหว่างคนในแต่ละรุ่น แต่ละวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เป็นแบบเมืองที่ทันสมัยของเมืองใหญ่ ที่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ชีวิตที่เต็มด้วยวัฒนธรรมและการศึกษา นำท่านชมความงามของเมืองที่เรียกได้ว่า Colorful city เมืองที่มีอาคารหลากสีสัน โดดเด่นสวยงาม เป็นเมืองเรียกได้ว่ามีชีวิตชีวาแห่งหนึ่งของโปแลนด์ และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 8 เมืองที่มีสีสันมากที่สุดในโลก (8 Colorful cities in the world) ผ่านชมอาคารหลากสีสันในจัตุรัสเมืองเก่า, ศาลาว่าการ (City Hall) และโบสถ์ประจำเมือง ผ่านชมมหาวิทยาลัยวรอตสวัฟ (University of Wroclaw) มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงประจำเมือง ซึ่งบุคคลากรชั้นนำของโลก ที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 10 คนด้วยกันในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาได้เคยศึกษาอยู่ที่นี่ ในยุคศตวรรษที่ 18 มหาวิทยาลัยแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานพยาบาล, โกดัง, และที่คุมขังเชลย ในช่วงสมัยยุคสงครามกับรัสเซีย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE WROCLAW CENTRUM หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองเชสโตโซว่า (Czestochowa) เป็นเมืองศูนย์กลางของผู้แสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป คริสต์ศาสนิกชนกว่า 4-5 ล้านคน เพื่อเข้าบูชาเพื่อขอพรจากแบล็คมาดอนน่า (Black Madonna) ณ อารามจัสนา กอร่า (Jasna Góra Monastery) รูปพระแม่มาเรียสีดำ ศูนย์รวมจิตใจของชาวคาทอลิก กล่าวกันว่าสีที่ใช้วาดมานานกว่า 600 ปีทำให้รูปพระแม่เป็นสีดำ ที่รอยบากที่พระพักตร์ ซึ่งพวกต่อต้านศาสนาต้องการทำลาย อารามแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกทำลาย ในสงครามต่างๆอย่างน่าอัศจรรย์ จนกลายเป็นปาฎิหารย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz concentration camps) เป็นค่ายกักกันและค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันแห่งนี้สะท้อนความน่าสยดสยองและความทารุณโหดร้ายของสงคราม ซึ่งเริ่มจากเยอรมันเข้ายึดโปแลนด์ได้ในปลายปี 1939 และหาค่ายกักกันเชลยศึกต่างๆ จนมาพบสถานที่ที่รัฐบาลโปแลนด์ต้องการก่อสร้างเป็นสถานที่คุมขังนักโทษทางการเมือง จึงได้ดัดแปลงตามความต้องการของนาซีและเริ่มต้นใช้ปีค.ศ.1940 เป็นต้นมา ท่านจะได้เห็นภาพถ่ายต่าง ๆ ของค่ายกักกัน รวมทั้งของจริงที่มีการเก็บรักษาภายในตึกต่างๆ ถึง 20 อาคาร และท่านจะได้เห็นของใช้ต่างๆของเชลยชาวยิวที่ถูกหลอกให้มาอยู่ ที่นี่ อาทิ กระเป๋าเดินทาง รองเท้า แปรงสีฟัน หวี และเส้นผมที่ว่ากันว่ามี น้ำหนักรวมกว่า 7 ตัน และชมห้องอาบน้ำ ห้องที่พวกนาซีใช้สำหรับกำจัดเชลยโดยใช้แก๊สพิษสังหารหมู่ กล่าวกันว่าสถานที่นี้มีคนตาย กว่า 1.5 ล้านคน โดนเกือบทั้งหมดเป็นชาวยิว นำท่านเดินทางสู่เมืองคราคูฟ (Krakow) โดยเมืองคราคูฟนั้นเป็น บ้านเกิดองค์ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 อดีตเมืองหลวงของโปแลนด์ในปีค.ศ. 1978 คราคูฟก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีอาคารบ้านเรือนที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมทุกยุคทุกสมันตั้งแต่ โรมาเนสก์ กอธิค เรอเนสซองส์ บาร็อก ร็อคโคโค จนถึงนีโอคลาสสิค และอาร์ตนูโว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL KRAKOW CITY WEST หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านสู่เหมืองเกลือเวียลีซก้า (Wieliczka Salt Mine) ตั้งอยู่ที่เมืองวิลิชก้า เหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดของโปแลนด์แห่งนี้มีประวัติการทำเหมืองยาวนานกว่า 1,000 ปี ถือเป็นเหมืองใต้ดินที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านลงลิฟท์สู่ใต้ดินของเหมืองเกลือ ที่มีขนาดใหญ่มาก แบ่งเป็น 9 ชั้น ลึกลงจากพื้นดินถึง 327 เมตร ยาวกว่า 300 กิโลเมตร ภายในเหมืองห้องซึ่งสร้างและแกะสลักจากเกลือทั้งหมด โดยสมัยก่อนเกลือมีค่าดุจทองคำ เพราะใช้ในการถนอมอาหาร ชมความงามของทะเลเกลือใต้พื้นดิน ซึ่งท่านไม่เคยได้เห็นที่ใดมาก่อน โดยเหมืองเกลือในเมืองวีลิซกา องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 1988 อีกด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำนำท่านเดินทางกลับเมืองคราคูฟ นำท่านชมป้อมปราการ Barbacan อายุกว่า 600 ปีชมจัตุรัสใจกลางเมือง ทีเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ และอาคารที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซ็นต์แมรี่ (Church of St. Mary)โบสถ์ชื่อดังของคราคูฟ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 โดดเด่นด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สูงถึง 81 เมตร ให้เวลาท่านได้อิสระตามอัธยาศัยเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก หรือ แฟชั่นจากห้างสรรพสินค้าซูเคียนนีส(Sukiennice) ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
15.00 น.
นำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
18.20 น.
ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 1369
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือน เม.ย.63 เดินทางถึงเวลา 18.55 น. และไปถึงแฟรงก์เฟิร์ตเวลา 20.30 น.***
20.00 น.
เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
22.00 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 772

14.40 น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา