สถานที่ทัวร์:
ระยะเวลา:
6 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Thai Airasia X

Hokkaido6 วัน 4 คืน

฿0

ดอนเมือง-ชิโตเซะ

ออกจากดอนเมือง
23.55 น.
ถึงชิโตเซะ
08.40 น

ซิโตเซะ-ดอนเมือง

ออกจากซิโตเซะ
09.55 น.
ถึงดอนเมือง
15.10 น.

โปรแกรม 6 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airasia X

20.00 น. นัดพบกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ประตู 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดสัมภาระ [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้ ] 23.55 น. ออกเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ620 (บริการอาหารร้อนบนเครื่อง)

08.40 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้] อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park) ตั้งอยู่ห่างจาก Hakodateไปทางทิศเหนือเพียง 20 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะกลางทะเลสาบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจพื้นที่ได้ทั้งหมด โดยเส้นทางตามเกาะแก่งต่างๆที่เชื่อมต่อด้วยสะพานเล็กๆ ใช้เวลาในการสำรวจประมาณ 15-60 นาที ในอุทยานมีให้เช่าจักรยาน(มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500 เยน/ชั่วโมง 1,000 เยน/วัน) สำหรับปั่นไปรอบๆทะเลสาบโอนุมะ กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของเกาะ เมื่อครั้งอดีตได้เป็นเมืองท่าที่มีการค้าขายกับชาวต่างชาติฝั่งตะวันตก ซึ่งทำให้วัฒนธรรมตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทในเมือง ซึ่งเราจะพบเห็นได้จากโบสถ์คริสต์ ร้านอาหาร อาคารบ้านเรือนเก่าแบบตะวันตกที่ตั้งอยู่ริมเนินเขา อาคารอิฐแดงโกดังเก่าริมท่าเรือ ถนนหนทางที่กว้าง รถรางเก่าและทางเดินเท้าที่ปูด้วยหิน ประกอบกับเพลงที่เปิดทางเสียงตามสายให้ได้ยินทั่วเมือง เสริมบรรยากาศให้ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่สวยที่สุดแสนโรแมนติก ป้อมดาวห้าแฉกโกะเรียวคะคุ (Fort Goryokaku ) เป็นป้อมรูปดาวห้าแฉกที่สร้างเป็นอนุสรณ์สถานแก่ผู้ที่เสียสละต่อสู้เพื่อเกาะฮอกไกโด สร้างขึ้นในปี 1864 โดยตระกูลโทกุงาวะ และเป็นสไตล์ตะวันตก ใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 7 ปี เพื่อใช้การป้องกันการรุกรานจากต่างชาติในช่วงที่สหรัฐต้องการบีบให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ แต่พอมาถึงช่วงปฏิรูปสมัยเมจิ ที่ได้มีการฟื้นฟูอำนาจของจักรพรรดิขึ้นมาใหม่ที่นี่จึงใช้เป็นที่หลบภัยและ ศูนย์บัญชาการรบ ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงช่วงสงครามในระหว่างปี 1868-1869 และยังมีหอคอยที่สูง 60 เมตร โกดังอิฐแดง หรือ โกดังคานะโมริ (Kanamori Soko) สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของฮาโกะดาเตะ โกดังเก็บสินค้าของเมือง แม้อาคารที่เห็นจะเป็นอาคารใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนอาคารหลังเก่า ซึ่งถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่เผาทำลายไปเมื่อปี 1907 แต่ยังคงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม แล้วนำท่านสู่ ซีฟู๊ด มาร์เก็ต แหล่งซื้อหาของฝากจำพวกอาหารทะเล ซึ่งเป็นอาหารเลื่องชื่อของฮาโกะดาเตะ นั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ (ใช้เวลา 20 นาที) ขึ้นไปจุดชมวิวที่จะเห็นทัศนียภาพที่สวยที่สุดที่ถือเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามของญี่ปุ่น อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย ณ บริเวณโกดังอิฐแดง ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HAKODATE HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) มีพื้นที่ประมาณ 4 ช่วงตึก เปิดเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ตอนเช้าตีห้าถึงเที่ยงตรง ในตลาดจะจำหน่ายอาหารทะเลสด เช่น ปูยักษ์ ไข่ปลาแซลม่อน และหอยเม่นทะเล พร้อมทั้งผลไม้ต่างๆ บริเวณใกล้เคียงมีร้านอาหารหลายร้านที่ใช้วัตถุดิบแบบสดใหม่จากตลาดแห่งนี้อีกด้วย ย่านโมโตมาจิ ( Motomachi District ) ซึ่งเป็นเขตประวัติศาสตร์ของเมืองฮาโกดาเตะที่ได้รวมไว้ในรูปของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ซึ่งได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่สมัยญี่ปุ่นเปิดประเทศทำการค้ากับต่างชาติในปี 1854 และเป็นผลทำให้พ่อค้าจาก รัสเซีย จีน และ ชาติตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาติดต่อค้าขายกันมากอีกทั้งยังมีการตั้งรกรากถิ่นฐานกันในนี้อีกด้วยโดยมีสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจ อาทิ ศาลาประชาคมหลังเก่า (Old Public Hall) เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปซึ่งเคยถูกใช้เป็นที่ทำการของคณะผู้ปกครองเมืองตั้งแต่ปี 1900 และ โบสถ์รัสเซีย (Russian Orthodox Church)โบสถ์ที่ทำให้นึกย้อนถึงอดีตอันรุ่งเรืองของเมื่องท่าสำคัญ กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร เมืองโนโบริเบทสึ เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้น เพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณที่มีควันร้อนๆ พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับเป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือนดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึกห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชมภูเขาไฟโชวะซินซัง (Showa Shinzan) ซึ่งมีอนุเสาวรีย์บุรุษไปรษณีย์ผู้ค้นพบความเคลื่อนไหวและการเกิดขึ้นมาใหม่ของภูเขาไฟเกิดใหม่ประมาณปี ค.ศ.1944 -1945 ภูเขาไฟน้องใหม่ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของผิวโลกในปี1946ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง2ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะ ดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ” พร้อมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก ชมฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆไปจนถึงหมีตัวโตน้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคนท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของน้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี เดินทางสู่งเมืองซัปโปโร่ ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ (Tanukikoji) เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ1กิโลเมตรส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน Donkiที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจหรือถ้าเดินจนหมดแรงที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย แหล่งช้อปปิ้ง ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T MARK SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม เมืองบิเอะ (Biei) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางเกาะฮอกไกโด ที่ได้ชื่อว่า “Small Town Of The Most Beautiful Hills” ความเล็กที่แสนน่ารักของเมืองนี้อยู่ที่ภาพวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาวิวระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทองตัดสลับกับไร่ข้าวโพดและมันฝรั่งสีเขียวสดโดยมีสีฟ้าครามของท้องฟ้าตัดเป็นฉากหลังสลับเนิน นำท่านเดินทางสู่ สระอะโออิเคะ หรือ บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond ) ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Bieigawa ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบิเอะ ตั้งชื่อตามสีของน้ำที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ โดยเพิ่งเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนภูเขาไฟ Tokachi ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี 1988 ไหลเข้าสู่เมือง ไฮไลท์!!! ชมน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ หมู่บ้านราเมง (Ramen Village) ซึ่งเมืองแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์การทำราเมนมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีน้ำซุปแบบฉบับของตัวเอง โดยหมู่บ้านราเมน ถือกำเนิดมาในปี 1996 เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสรสชาตแบบดั้งเดิมของร้านราเมนที่มีชื่อเสียงทั้ง 8 ร้านได้อย่างเต็มที่ อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ หมู่บ้านราเมง เดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ ไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่เรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคฮอคไกโด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามหลังคาของฮอกไกโด (The Roof of Hokkaido) โดยในปี 1934 และตื่นตาตื่นใจกับฤดุใบไม้เปลี่ยนสี ทั่วทั้งบริเวณอุทยานจะเต็มไปด้วยต้นไม้ที่กำลังพากันเปลี่ยนสีสัน (โดยปกติใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาะฮอกไกโดจะเปลี่ยนสีประมาณช่วงต้นเดือนตุลาคม-กลางพฤศจิกายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) น้ำตกกิงกะและน้ำตกริวเซ เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของธรรมชาติของน้ำตกที่จัดได้ว่าเป็นวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดติดหนึ่งในร้อยของญี่ปุ่น น้ำตกทั้งสองแห่งนี้มีต้นน้ำอยู่ในเขตภูเขาโซอุนเคียว สามารถสัมผัสความแรงของสายน้ำที่ไหลรวมกันกลายมาเป็นแม่น้ำอิชิคาริได้หลังจากฤดูหนาว ส่วนในช่วงฤดูหนาวน้ำตกทั้งสองแห่งนี้จะแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง กระเช้าคุโรดาเกะ นำท่านชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดแสนโรแมนติกนับได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโดขนาดตัวกระเช้าสามารถบรรจุผู้โดยสารได้มากถึง 101 ที่นั่งและใช้เวลาเดินทางไปถึงด้านบนสุดประมาณ 7 นาที นับว่าเป็นเส้นทางชมใบไม้แดงที่ไม่ควรพลาดสำหรับเส้นทางฮอกไกโด พาท่านสัมผัสกับความงามไปพร้อมความตื่นเต้นกับกระเช้าลอยฟ้าห้อยขา เพื่อให้ท่านได้ชมธรรมชาติบรรศของใบไม้เปลี่ยนสีแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด (กระเช้าลอยฟ้าอาจหยุดให้บริการในวันที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีเหตุการณ์สุดวิสัยทั้งนี้ทางบริษัทขออนุญาตปรับเปลี่ยนรายการเพื่อความเหมาะสม) อิออน มอลล์ อาซาฮีคาว่า (Aeon mall Asahikawa) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิกาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ อิออน มอลล์ อาซาฮีคาว่า ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม เดินทางสู่ เนินแห่งพระพุทธเจ้า หรือ Hill of the Buddha ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโร่ ที่ถูกออกแบบโดย Mr.Tadao ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น พระพุทธรูปมีความสูงถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1500 ตัน ล้อบรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู ฤดูร้อนรายล้อมไปด้วยดอกลาเวนเดอร์ ฤดูหนาวก้อจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของหิมะที่ขาวโพลน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเรียกได้ว่าเป็น Unseen Hokkaido เลยทีเดียว ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร่ ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน แวะซื้อของฝากที่ โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Shiroi Koibito Park) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมี ช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี้คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทาน หรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ 15.10 น. เดินทางสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร ชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย ชม นาฬิกาไอน้ำโบราณ สไตล์อังกฤษที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำ มีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนที่แคนาดา พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ มีชื่อเสียงทางด้านการเป่าแก้วมายาวนาน โดยในอดีตนั้นจุดประสงค์ของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันนี้เป้าหมายของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นของใช้หรือของที่ระลึกแทน ซึ่งโรงเป่าแก้วคิตาอิชิเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุด โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ท่ามกลางโรงเป่าแก้วที่มีอยู่มากมาย และผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโรงงานแห่งนี้ก็คือโคมไฟแก้วและลูกบอลแก้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสอนวิธีการเป่าแก้วให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย แหล่งช้อปปิ้ง MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซ่ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัด ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร –พิเศษสุดๆกับเมนูปูสุดอร่อย 3 ชนิด แบบไม่อั้น ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T MARK SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม [หรือ SET BOX] นำท่านเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเซะ ถึง สนามบินชิโตเซะ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ 09.55 น. นำท่านกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ621 บริการอาหารเช้าและน้ำดื่มบนเครื่อง 15.10 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา