08.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ สายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์ (VZ) เค้าท์เตอร์ ...ประตู ...โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเตรียมเอกสารการเดินทางสำหรับทุกท่านและนำท่านโหลดสัมภาระ
10.50 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง โดยสายการบิน THAI VIETJET AIR เที่ยวบินที่ VZ960
12.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ของเมืองดานัง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วนำท่านรับสัมภาระ (เวลาประเทศเวียดนามกับประเทศไทยจะเป็นเวลาเดียวกัน)

เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร (1)
จากนั้น นำท่านสู่ เมืองดานัง ตั้งอยู่ในโซนภาคกลางของประเทศเวียดนาม ทิศเหนือติดกับเมืองเว้ ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดกับจังหวัดกว่างนาม ส่วนทิศตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้ เมืองดานัง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองฮานอยไปทางทิศใต้ 764 กิโลเมตร และห่างจากเมือง โฮจิมินห์ ไปทางทิศเหนือ 964 กิโลเมตร เมืองเว้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศเวียดนาม เมืองดานังเป็นเมืองที่มีหาดทรายขาว และมีภูเขาหินอ่อน สลับซับซ้อนและยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญ เหตุเพราะในแถบนี้มีหมู่บ้านชาวประมงจำนวนมากจึงทำให้เกิดเป็นเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญเมืองตากอากาศ บานาฮิลล์ ตั้งห่างจากเมืองดานังประมาณออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 40-50 นาที บานาฮิลล์เป็นหล่งท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยได้เกิดแนวคิดการสร้างบ้านพักและโรงแรมจากชาวฝรั่งเศส สมัยอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังจากจบสงครามฝรั่งเศสได้พ่ายแพ้ และได้เดินทางกลับประเทศไป ทำให้บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้าง และได้กลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศอีกครั้งในปี 2009 พร้อมกับได้มีการสร้างกระเช้าลอยฟ้าที่มีความสูงถึง 5,801 จากระดับน้ำทะเล
หลังรับประทานอาหารให้ทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งตำนานและ จินตนาการของการผจญภัยที่ สวนสนุก The Fantasy Park (รวมค่าเครื่องเล่นบนสวนสนุก ยกเว้น พิพิธภัณฑ์สามมิติและบ้านผีสิงที่ไม่รวมให้ในรายการ) เครื่องเล่นที่เป็นสวนสนุกของบานาฮิลล์ให้ท่านได้เล่นเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบมีให้ท่านเลือกหลากหลายสถานี อาทิ เช่น โรงภาพยนต์ 4D โลกของไดโนเสาร์ รถไฟเหาะแมงมุมที่ชวนให้ทุกท่านระทึกขวัญไปกับเครื่องเล่น นอกจากนี้ยังมีร้านช้อปปิ้งให้ท่านได้ เลือกซื้อของที่ระลึกภายในสวนสนุกอีกด้วย และยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกให้ท่านได้ลองพิสูจน์อีกมากมายจากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินชมสะพาน Golden Bridge ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่พึ่งเปิดให้ นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมได้ไม่นานมานี้ อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพและชมวิวทิศทัศน์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนบานาฮิลล์ (2)
ที่พัก โรงแรม Mercure French Village Bana Hills บนเขาบานาฮิลล์
โรงแรมบน บานาฮิลล์ ไม่มีห้องพักสำหรับ 3 ท่าน หากท่านต้องการพักห้องละ 3 ท่าน ต้องใช้ห้อง Family Bunk และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 150 บาท

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
หลังรับประทานอาหารนำทำท่านเดินทางนั่งกระเช้าเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองลังโกนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลังโก นำท่านชมวิวทิวทัศน์และนำคณะสัมผัสกับธรรมชาติของเมืองแห่งนี้ เมืองลังโก (Langco) เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอฝูหลก จังหวัดเถื่อเทียนเว้ ประเทศเวียดนาม ลังโก หมายถึง“หมู่บ้านนก” เป็นเมืองผ่านและเมืองพักในเส้นทาง ดานัง-เว้ (เมืองมรดกโลก) ตั้งอยู่ห่างจากตัวดานังประมาณ 40 กม. ห่างจากเว้ประมาณ 60 กม. ระหว่างทางทุกท่านจะได้เห็นรถลอดอุโมงค์หายเวินจากดานังมาก็จะมาแวะรับประทานอาหารกันที่นี่ เพราะลังโคเป็นเมืองริมทะเลที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทะเลอร่อยสดใหม่ ทะเลสาบลังโกมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่สวยงาม ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเลี้ยงหอย จับปลา ทำการประมงพื้นบ้าน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู Seafood สไตล์เวียดนาม (4)
หลังรับประทานอาหารนำท่านเดินทางสักการะ วัดเทียนมู่ ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของริมแม่น้ำหอมของประเทศเวียดนาม ทางไปสุสานของพระเจ้ามิงห์หม่าง วัดแห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือ เจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นเป็นตัวแทนของชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า ส่วนทางฝั่งซ้ายและขวาเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกและระฆังสำริดขนาดใหญ่หนักถึง 2,000 กิโลกรัม ถัดมาทางด้านหลังของเจดีย์เป็นประตูทางเข้าสู่บริเวณภายในวัด มีรูปปั้นเทพเจ้า 6 องค์ คอยยืนเฝ้าปกป้องไม่ให้ความชั่วร้ายเข้ามาเยือนและวัดแห่งนี้เองมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองในช่วงยุคหลังของเวียตนาม เมื่อพระภิกษุทิกกวางหยุก เจ้าอาวาสของวัดเทียนมู่ได้ใช้รถออสตินสีฟ้าคันเล็กเป็นพาหนะไปเผาตัวเองที่กลางกรุงไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้ในปัจจุบัน ในช่วงสายของวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2506 เพื่อประท้วงการบังคับให้ประชาชนไปนับถือศาสนาคริสต์และการฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐบาลโงดินห์เดียมที่เป็นคาทอลิก รวมทั้งใช้ความรุนแรง นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังไดโน้ย (Dai Noi) สร้างตามความเชื่อแบบจีน โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งจำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน และการก่อสร้างพระตำหนักต่างๆรวมถึงกำแพงโดยรอบของพระราชวังทั้งหมด ได้นำอิฐมาจากประเทศฝรั่งเศสโดยการขนส่งจากทางเรือคำว่าพระราชวังต้องห้าม กล่าวว่าภายในพระตำหนักชั้นในสุด จะเป็นเขตพระราชฐานสำหรับราชวงศ์เท่านั้น ห้ามบุคคลที่ไม่ใช่เครือญาติของกษัตริย์เข้าไปเด็ดขาด หรือหากเข้าไปแล้วก็จะไม่มีสิทธิ์ออกมาภายนอกได้ คนทั่วไปจึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่าพระราชวังต้องห้าม เหมือนกับที่คนจีนเรียกพระราชกู้กงว่าพระราชวังต้องห้ามเช่นเดียวกัน พระราชวังไดโน้ย มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน (คล้ายกับพระราชวังสวนจิตรลดา) มีกำแพงอิฐขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น กำแพงชั้นนอกมีความยาวตลอดแนว 11 กิโลเมตร หรือยาวด้านละ 2.5 กิโลเมตร สูง 6 เมตร หนา 2 เมตร มี 11 ประตู มี 24 ป้อมปราการ มีเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร และพระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนมาทุกพระองค์ ตั้งแต่จักรพรรดิยาลอง องค์ที่ 1 จนถึงจักรกรพรรดิเบ่าได๋ กษัตริย์องค์สุดท้าย องค์ที่ 13 ซึ่งทรงสละอำนาจให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโงดินห์เดียม เมื่อปี พ.ศ. 2488 (ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 ของราชวงศ์จักรี) หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองเว้ เมืองเว้เป็นเมืองเก่าของเวียดนามในสมัยที่ปกครองด้วยกษัตริย์ (เวียดนามและชาติตะวันตกจะใช้คำว่า Emperor หรือจักรพรรดิ) และกษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนทุกพระองค์ ตั้งแต่องค์ที่ 1 ถึงองค์ที่ 13 จะประทับอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้ เป็นเวลานานถึง 150 ปี เว้จึงมีชื่อว่าเป็นเมืองของกษัตริย์ และเป็นที่มาของต้นแบบทางวัฒนธรรมของเวียดนาม เช่น อาหารเวียดนาม และ ชุด อ่าวหญ๋าย หรือชุดประจำชาติของสตรีเวียดนาม ช่วงเย็นพาท่านเดินช้อปปิ้ง ตลาดดองบา เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจำพวกเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าปัก สร้อย กำไล ผักและผลไม้สด โดยรอบนอกจะเป็นสินค้าของที่ระลึก

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (5)
จากนั้นนำท่านล่องเรือแม่น้ำหอม พร้อมชมการแสดงดนตรี
พักที่ โรงแรม Gold Hue Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
หลังรับประทานอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดานัง ระหว่างทางนำท่านแวะพักผ่อนชมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากเยื้อไม้ไผ่ ซึ่งเป็นนวรรตกรรมใหม่ประเทศฝรั่งเศสที่มีขบวนการเอาไม้ไผ่มาเผา ผ่านขบวนการต่างๆเพื่อจะออกมาเป็นด้ายไม้ไผ่และใช้ผลิตออกมาเป็นสินค้าต่างๆที่มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศํยจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองดานัง ดานัง เป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ช่วงกลางค่อนไปทางใต้ คือริมชายฝั่งทะเลจีนใต้และที่ราบสูงตอนกลาง จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของเวียดนาม ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งขนาดและความสำคัญ รวมถึงเป็น 1 ใน 5 เขตการปกครองส่วนท้องถิ่นในเวียดนาม นอกจากนี้ดานังก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ต่างชาติให้มาเยือนได้ดังนี้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
หลังจากรับประทานอาหารนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน ที่นี้นับเป็นหนึ่งในงานหัตกกรมศิลปะของประเทศเวียดนามภายในท่านจะได้พบกับงานเกะสลักที่ล้วนประดิษฐ์ด้วยมือจากช่างหลากหลายแขนง และอิสระให้ท่านได้เลือกชมงานหัตศิลป์ภายในตามอัธยาศัย จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมือง ฮอยอัน เมืองฮอยอันเป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว่างนาม ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ห่างจากดานัง ประมาณ 25 กม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเวียดนาม ในปี ค.ศ. 1999 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่างๆภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกั๊มทาน นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเมืองฮอยอัน ภายในจะเป็นสวนมะพร้าวและมีแม่น้ำล้อมรอบ ในช่วงสมัยสงครามนั้นจะเป็นที่พักของเหล่าทหารหาญ ในปัจจุบันอาชีพหลักของคนที่นี่จะประกอบอาชีพการทำประมงเป็นหลัก ในระหว่างที่ให้ท่านทำทำกิจกรรม ล่องเรือกระด้ง นั้นท่านจะได้รับชมวัฒนธรรมอันสวยงามของชาวบ้าน และระหว่างที่ล่องเรือกระด้งอยู่นั้นชาวบ้านที่นี้ก็จะมีการขับร้องเพลงพื้นเมือง และนำไม้พายเรือมาเคาะเพื่อประกอบเป็นจังหวะดนตรี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดฟุ๊กเกี๋ยน เป็นวัดของชาวสมาคมชาวจีนถิ่นใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน สถานที่วัดฟุ๊กเกี๋ยนแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่พบปะของผู้คนหลายๆรุ่น วัดแห่งนี้มีจุดเด่นคืองานไม้แกะสลัก ส่วนใหญ่สลักลวดลายออกไปทางวัฒนธรรมของประเทศจีน ทุกท่านที่มาวัดฟุ๊กเกี๋ยนแห่งนี้ส่วนใหญ่มาทำบุญในเรื่องของการต่ออายุโดยพิธีสมัยโบราณโดยการนำธูปที่ขดเป็นก้นหอยมาจุดทิ้งไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่าน จากนั้นนำท่านชม บ้านโบราณ Old House of Tan Sky ซึ่งบ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านหลังเดิมของชาวเวียดนามที่มีฐานะดีในสมัยนั้น บ้านโบราณแห่งนี้มีความเก่าแก่และมีอายุมากกว่า 200 ปี ปัจจุบันได้บำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดี และยังเป็นที่อยู่อาศัยของทายาทรุ่นที่ 7 ของตระกูลอีกด้วย ในส่วนของการออกแบบนั้นตัวอาคารเป็นการผสมผสานระหว่างอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมของประเทศจีน ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่น และยังคงความดั้งเดิมของเวียดนามไว้ ด้านหน้าและด้านหลังของบ้านหลังนี้จะติดกับถนนด้านหลังจะอยู่ใกล้กับแม่น้ำทูโบนท่านสามารถถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพบรรยายกาศของที่นี้ได้ นำท่านชม สะพานญี่ปุ่น สะพานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขั้นจากชุมชนชาวญี่ปุ่น เมื่อ 400 กว่าปีมาแล้ว กลางสะพานมีศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเพื่อสวดให้กับวิญญาณของมังกร ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อที่ว่ามังกรนั้นอยู่ใต้พิภพ ส่วนตัวมังกรนั้นอยู่ที่ประเทศอินเดียและหางนั้นอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนลำตัวนั้นอยู่ที่เวียดนาม เมื่อใดที่มังกรเกิดการพลิกตัวจะทำให้ปรากฎการ์ณน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว ชาวญี่ปุ่นจึงช่วยกันสร้างสะพานนี้ขึ้นมาโดยตอกเสาเข็มลงกลางลำตัวเพื่อกำจัดมังกรไม่ให้เกิดภัยพิบัติขึ้นอีก จากนั้นนำท่านชม ศาลกวนอู ซึ่งอยู่บนสะพานญี่ปุ่น ละแวกนั้นจะมีชาวบ้านนำสินค้าต่างๆออกมาเรียงรายไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก เพื่อเป็นของฝาก ส่วนใหญ่สินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปจะเป็นของจำพวก กระเป๋า และ โคมไฟพื้นเมือง เป็นต้น ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดานัง

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ เมนูกุ้งมังกร (8)
นำท่านชม สะพานมังกร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ควรพลาด สะพานมังกรเปรียบเสมือนเป็นสะพานแห่งความสำเร็จของประเทศเวียดนาม ซึ่งมีความยาวของสะพานถึง 666 เมตร ความกว้างเกือบเท่ากับถนนถึง 6 เลนส์ และเชื่อมต่อกันสองฝากของแม่น้ำฮัน สะพานมังกรนี้ออกแบบและสร้าง ออกมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูประเทศและฟื้นฟูในด้านของเศรษฐกิจ และได้มีการเปิดใช้สะพานแห่งนี้ในปี2013 ที่ผ่านมา ด้วยสถาปัตยกรรมที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นประเทศเวียดนามและบวกกับเทคโนโลยีที่ร่วมสมัย ตัวสะพานจึงออกมาในรูปแบบที่สวยงาม
โดยในเวลากลางคืนจะมีการประดับไฟ LED หลากสีสันกว่า 1,000 หลอด อย่างสวยงามตระการตา ทำให้สะพานแห่งนี้โดดเด่น
ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์สะพานแห่งนี้มีการโชว์มังกรพ่นไฟ พ่นน้ำอย่างอลังการ ในเวลา 21.00 น.
พักที่ โรงแรม GRAND JEEP HOTEL ระดับ 3ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)
จากนั้นนำท่านแวะสักการะ วัดลินห์อึ๋ง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองดานัง ภายในวิหารแห่งนี้เป็น สถานที่บูชาเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าองค์ต่างๆ ตามความเชื่อของชาวบ้านแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นปูนของเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ซึ่งมีความสูงถึง 67 เมตร ซึ่งตั้งอยู่บนฐานดอกบัวกว้างถึง35 เมตร มีความเชื่อที่ว่าคอยปกปักรักษาและคุ้มครองชาวประมงยามที่ออกไปหาปลานอกชายฝั่ง วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านได้ให้ความเคารพและเข้ามาสักการะเป็นจำนวนมาก
นำท่านเดินเที่ยวช้อปปิ้งใน ตลาดฮาน ซึ่งในตลาดมีสินค้าให้ท่านได้เลือกซื้อหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า , กระเป๋า , รองเท้า , เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , รวมถึงของหวานช๊อคโกแลตต่างๆ
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติดานัง
13.15 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน THAI VIETJET AIR เที่ยวบินที่ VZ961
14.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

* ท่านใดมีไฟล์ทบินภายในประเทศต่อ โปรดแจ้งให้บริษัทฯทราบในวันจองทัวร์ *
** ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง **
(ลูกค้าควรเตรียมกระเป๋าใบเล็กแยกไปเพื่อสะดวกในการพกติดตัวขั้นที่พักบนบาน่าฮิลล์)