โปรแกรม 7 วัน 5 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International
วันที่ 1 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - เซนได (สนามบินเซนได) (TG626 23.59-08.00+1)
20.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรรภูมิ อาคาร 1 ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.59 น.
ออกเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG626 (บริการอาหารเช้าและน้ำดื่มบนเครื่อง)
คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรรภูมิ อาคาร 1 ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.59 น.
ออกเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG626 (บริการอาหารเช้าและน้ำดื่มบนเครื่อง)
วันที่ 2 เซนได (สนามบินเซนได) - เมืองซาโอะ – เทือกเขาซาโอะ (นั่งกระเช้าไฟฟ้าชมสโนว์มอนสเตอร์) - หมู่บ้านสุนัข
08.00 น.
เดินทางถึง สนามบินเซนได ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.)
ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขาซาโอะ เป็นหนึ่งเทือกเขาที่สวยงามที่สุดแหล่งหนึ่งของเมืองยามากาตะ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านน้ำพุร้อนและสกีรีสอร์ท ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติสองข้างทางที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว นำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Ropeway) เพื่อชื่นชมความมหัศจรรย์ของสายลมจากไซบีเรียที่พัดพาหิมะมาปกคลุมต้นสนจำนวนมาก เกาะเป็นผลึกน้ำแข็งก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนปีศาจในชุดขาวจึงทำให้ถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็น “SNOW MONSTER” หรือ “ ปีศาจหิมะ ” ให้ทุกท่านได้อิสระเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป SNOW MONSTER
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในประเทศญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ระดับชาวบ้านมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกมีวิญญาณของเทพอินาริโอคามิ หรือเทพเจ้าของศาสนาพุทธชินโตอยู่ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของการเกษตร(ข้าว, ใบชา) และความเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก และป้อนอาหารสุนัขจิ้งจอก พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Dake Hotel หรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
เดินทางถึง สนามบินเซนได ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.)
ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขาซาโอะ เป็นหนึ่งเทือกเขาที่สวยงามที่สุดแหล่งหนึ่งของเมืองยามากาตะ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านน้ำพุร้อนและสกีรีสอร์ท ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติสองข้างทางที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว นำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Ropeway) เพื่อชื่นชมความมหัศจรรย์ของสายลมจากไซบีเรียที่พัดพาหิมะมาปกคลุมต้นสนจำนวนมาก เกาะเป็นผลึกน้ำแข็งก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนปีศาจในชุดขาวจึงทำให้ถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็น “SNOW MONSTER” หรือ “ ปีศาจหิมะ ” ให้ทุกท่านได้อิสระเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป SNOW MONSTER
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในประเทศญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ระดับชาวบ้านมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกมีวิญญาณของเทพอินาริโอคามิ หรือเทพเจ้าของศาสนาพุทธชินโตอยู่ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของการเกษตร(ข้าว, ใบชา) และความเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก และป้อนอาหารสุนัขจิ้งจอก พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Dake Hotel หรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่ 3 ฟูกุชิมะ - ทะเลสาบอินะวะชิโระ - ปราสาทสึรุกะ - หมู่บ้าน โออูจิ จูคุ - หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จังหวัดฟุกุชิมะ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคโทโฮะคุ เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในญี่ปุ่น ที่นี่ยังคงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารอร่อย รวมถึงเซ็นธรรมชาติที่น่าสัมผัส
ทะเลสาบอินะวะชิโระ (Lake Inawashiro) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองอินะวะชิโระ ใจกลางของจังหวัดฟุกุชิมะ ทะเลสาบอินะวะชิโระเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้น้ำมีลักษณะของธาตุที่เป็นกรดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ใต้น้ำได้ ทำให้น้ำใสจนได้รับขนานนามว่า “ทะเลสาบแห่งกระจกสวรรค์” โดยเฉพาะฤดูหนาวที่เราจะได้เห็นภาพทิวเขาหิมะสลับซับซ้อนปรากฏบนผิวน้ำใส อีกทั้งสามารถพบเห็นฝูงหงส์นับร้อยตัวที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ตั้งแต่พฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี
ชม ปราสาทสึรุกะ หรือ ปราสาทนกกระเรียน ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 มีทั้งหมด 5 ชั้น เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบันปราสาทสึรุกะได้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยปรายปกคลุมตัวปราสาท ยิ่งสวยงามเกินบรรยาย ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมซากุระกว่า 1,000 ต้นในสวนของปราสาท ซึ่งถือเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
หมู่บ้านโออูจิ จูคุ เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบมุงหลัง ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2183 เป็นบ้านพักในสมัยเอโดะที่ตั้งอยู่ในถนนสายสำคัญ ที่ใช้เชื่อมระหว่างเมืองไอสุวาคามัสสึ กับเมืองนิคโก้ ซึ่งปัจจุบันดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหารที่มีของท้องถิ่นขึ้นชื่อ “โซบะต้นหอม” ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทาน นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ โดยวัดตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก ให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัด
หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ หน้าผาหินที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโอคาวะ โดยเชื่อกันว่า หน้าผาหินแห่งนี้มีอายุหลายล้านปี และถูกธรรมชาติกัดเซาะในระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้หน้าผาแห่งนี้มีรูปร่าง หน้าตาที่แปลกประหลาดคล้ายๆกับเจดีย์หินขนาดยักษ์ ที่นี่มีสะพานแขวน เรียกว่า สะพานฟูจิมิบาชิ ให้เดินชมวิวแม่น้ำสีเขียวมรกตสวยงาม แถมยังได้ดูร่องหินของหน้าผา และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในระยะใกล้ๆอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมที่ทุกท่านไม่ควรพลาด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Fukushima Hotel หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จังหวัดฟุกุชิมะ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคโทโฮะคุ เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในญี่ปุ่น ที่นี่ยังคงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารอร่อย รวมถึงเซ็นธรรมชาติที่น่าสัมผัส
ทะเลสาบอินะวะชิโระ (Lake Inawashiro) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองอินะวะชิโระ ใจกลางของจังหวัดฟุกุชิมะ ทะเลสาบอินะวะชิโระเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้น้ำมีลักษณะของธาตุที่เป็นกรดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ใต้น้ำได้ ทำให้น้ำใสจนได้รับขนานนามว่า “ทะเลสาบแห่งกระจกสวรรค์” โดยเฉพาะฤดูหนาวที่เราจะได้เห็นภาพทิวเขาหิมะสลับซับซ้อนปรากฏบนผิวน้ำใส อีกทั้งสามารถพบเห็นฝูงหงส์นับร้อยตัวที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ตั้งแต่พฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี
ชม ปราสาทสึรุกะ หรือ ปราสาทนกกระเรียน ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 มีทั้งหมด 5 ชั้น เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบันปราสาทสึรุกะได้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยปรายปกคลุมตัวปราสาท ยิ่งสวยงามเกินบรรยาย ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมซากุระกว่า 1,000 ต้นในสวนของปราสาท ซึ่งถือเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
หมู่บ้านโออูจิ จูคุ เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบมุงหลัง ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2183 เป็นบ้านพักในสมัยเอโดะที่ตั้งอยู่ในถนนสายสำคัญ ที่ใช้เชื่อมระหว่างเมืองไอสุวาคามัสสึ กับเมืองนิคโก้ ซึ่งปัจจุบันดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหารที่มีของท้องถิ่นขึ้นชื่อ “โซบะต้นหอม” ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทาน นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ โดยวัดตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก ให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัด
หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ หน้าผาหินที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโอคาวะ โดยเชื่อกันว่า หน้าผาหินแห่งนี้มีอายุหลายล้านปี และถูกธรรมชาติกัดเซาะในระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้หน้าผาแห่งนี้มีรูปร่าง หน้าตาที่แปลกประหลาดคล้ายๆกับเจดีย์หินขนาดยักษ์ ที่นี่มีสะพานแขวน เรียกว่า สะพานฟูจิมิบาชิ ให้เดินชมวิวแม่น้ำสีเขียวมรกตสวยงาม แถมยังได้ดูร่องหินของหน้าผา และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในระยะใกล้ๆอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมที่ทุกท่านไม่ควรพลาด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Fukushima Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 สถานีรถไฟแมว - เมืองยามากาตะ – เก็บสตรอว์เบอร์รี - พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ คาโมะ -โกดังซังเคียว (Sankyo
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
สถานี อะชิโนมากิ ออนเซ็น (Ashinomaki-Onsen Station) ชมความน่ารักของนายสถานีแมวหรือ “เลิฟ” แมวผู้ดูแลและคอยต้อนรับแขกประจำสถานีแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในสถานียังเป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งเอาใจคนรักแมว รวมถึงมีร้านขายของที่ระลึกมากมายที่บรรดาคนรักเจ้าเลิฟ หรือทาสแมวต้องยอมควักตังค์ซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน
เมืองยามากาตะ(Yamagata) มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในแถบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทิศใต้ของภูมิภาคโทโฮคุ เมืองหลัก คือ เมืองยามากาตะ มีชื่อเสียงของผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะเชอร์รี่ แหล่งน้ำพุร้อน และความงามของธรรมชาติ
เก็บสตรอว์เบอร์รี สดๆจากต้นมาทานได้แบบไม่อั้น ยิ่งลูกไหนแดงรสชาติก็จะหวานอร่อยฉ่ำถูกใจแน่นอน (ท่านสามารถเก็บสตรอว์เบอร์รีได้นานถึง 30 นาที)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ (Kamo Aquarium) ตั้งอยู่ที่ยามากาตะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีตู้แมงกะพรุนยักษ์ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 5 เมตร และได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ค ว่าเป็นที่จัดแสดงแมงกะพรุนที่มากที่สุดอันดับ 1 ของโลก และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ยังจัดโซนให้ความความรู้เกี่ยวกับแมงกะพรุน เพื่อให้คนที่เข้าชมได้เข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์และถิ่นที่อยู่ของพวกมันมากยิ่งขึ้น เวลาที่แมงกะพรุนจำนวนมากว่ายน้ำกวัดแกว่ง พากันส่องแสงในที่มืด สร้างภาพที่สวยงาม ชวนฝัน เหมือนต้องมนต์สะกด พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆอีกมากมาย นอกจากจะได้ตื่นตาตื่นใจกับน้องๆ แมงกระพรุนแล้ว ที่นี้ยังมีร้านอาหารที่นำกะพรุนมาแปรรูปเป็นอาหารคาวหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นราเมงแมงกะพรุนและไอศกรีมแมงกะพรุนแสนอร่อย รวมถึงร้านขายของที่ระลึกให้ท่านได้ชื้อของฝากกลับบ้านได้อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมที่ทุกท่านไม่ควรพลาดเป็นเด็ดขาด
โกดังซังเคียว (Sankyo Soko) ที่เมืองซากาตะ ซึ่งเป็นเมืองท่าริมทะเล โกดังแห่งนี้เป็นหนึ่งในฉากที่โอชินจากเด็กสาวที่ยากจนต้องจากบ้านมาทำงานที่นี่ โกดังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1893 เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บข้าวที่จะส่งไปยังเมืองท่าอื่นๆในญี่ปุ่น ปัจจุบันก็ยังใช้เป็นที่เก็บข้าว และทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์การค้าข้าวของเมือง และศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจะได้มาชม โกดังเก็บข้าวโบราณที่สร้างจากไม้ มีความเก่าแก่สวยงาม ฤดูหนาวเท่านจะได้สัมผัสหิมะขาวโพลน พร้อมกับได้ชมโกดังไม้สวยๆ ที่สร้างเรียงติดกันเป็นทิวแถวมองไปไกลแบบสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่งดงามคลาสสิกจับตาเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่ยังมีสินค้าอย่างข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อหา รวมถึงมีสินค้าน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาโอชิน และของที่ระลึกต่างๆ ที่ชวนให้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก YUnohama Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
สถานี อะชิโนมากิ ออนเซ็น (Ashinomaki-Onsen Station) ชมความน่ารักของนายสถานีแมวหรือ “เลิฟ” แมวผู้ดูแลและคอยต้อนรับแขกประจำสถานีแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในสถานียังเป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งเอาใจคนรักแมว รวมถึงมีร้านขายของที่ระลึกมากมายที่บรรดาคนรักเจ้าเลิฟ หรือทาสแมวต้องยอมควักตังค์ซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน
เมืองยามากาตะ(Yamagata) มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในแถบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทิศใต้ของภูมิภาคโทโฮคุ เมืองหลัก คือ เมืองยามากาตะ มีชื่อเสียงของผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะเชอร์รี่ แหล่งน้ำพุร้อน และความงามของธรรมชาติ
เก็บสตรอว์เบอร์รี สดๆจากต้นมาทานได้แบบไม่อั้น ยิ่งลูกไหนแดงรสชาติก็จะหวานอร่อยฉ่ำถูกใจแน่นอน (ท่านสามารถเก็บสตรอว์เบอร์รีได้นานถึง 30 นาที)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ (Kamo Aquarium) ตั้งอยู่ที่ยามากาตะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีตู้แมงกะพรุนยักษ์ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 5 เมตร และได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ค ว่าเป็นที่จัดแสดงแมงกะพรุนที่มากที่สุดอันดับ 1 ของโลก และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ยังจัดโซนให้ความความรู้เกี่ยวกับแมงกะพรุน เพื่อให้คนที่เข้าชมได้เข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์และถิ่นที่อยู่ของพวกมันมากยิ่งขึ้น เวลาที่แมงกะพรุนจำนวนมากว่ายน้ำกวัดแกว่ง พากันส่องแสงในที่มืด สร้างภาพที่สวยงาม ชวนฝัน เหมือนต้องมนต์สะกด พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆอีกมากมาย นอกจากจะได้ตื่นตาตื่นใจกับน้องๆ แมงกระพรุนแล้ว ที่นี้ยังมีร้านอาหารที่นำกะพรุนมาแปรรูปเป็นอาหารคาวหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นราเมงแมงกะพรุนและไอศกรีมแมงกะพรุนแสนอร่อย รวมถึงร้านขายของที่ระลึกให้ท่านได้ชื้อของฝากกลับบ้านได้อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมที่ทุกท่านไม่ควรพลาดเป็นเด็ดขาด
โกดังซังเคียว (Sankyo Soko) ที่เมืองซากาตะ ซึ่งเป็นเมืองท่าริมทะเล โกดังแห่งนี้เป็นหนึ่งในฉากที่โอชินจากเด็กสาวที่ยากจนต้องจากบ้านมาทำงานที่นี่ โกดังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1893 เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บข้าวที่จะส่งไปยังเมืองท่าอื่นๆในญี่ปุ่น ปัจจุบันก็ยังใช้เป็นที่เก็บข้าว และทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์การค้าข้าวของเมือง และศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจะได้มาชม โกดังเก็บข้าวโบราณที่สร้างจากไม้ มีความเก่าแก่สวยงาม ฤดูหนาวเท่านจะได้สัมผัสหิมะขาวโพลน พร้อมกับได้ชมโกดังไม้สวยๆ ที่สร้างเรียงติดกันเป็นทิวแถวมองไปไกลแบบสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่งดงามคลาสสิกจับตาเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่ยังมีสินค้าอย่างข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อหา รวมถึงมีสินค้าน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาโอชิน และของที่ระลึกต่างๆ ที่ชวนให้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก YUnohama Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันที่ 5 จังหวัดยามากาตะ - ล่องเรือแม่น้ำโมกามิ - กินซัง ออนเซ็น
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ล่องเรือแม่น้ำโมกามิ (Mogami River Boat Ride) แม่น้ำสายหลักของ จ.ยามากาตะ ท่านจะได้ชมบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยแปลกตา ต้นไม้และภูเขารอบข้างถูกปกคุลมไปด้วยหิมะราวกับดินแดนในฝัน ซึ่งการล่องเรือแม่น้ำโมกามิล่องได้ทุกฤดู แต่จะมีความแตกต่างกันไป ในช่วงฤดูหนาวจะมีการติดตั้งเครื่องทำความร้อนภายในเรือหรือเตาโคทัตสึที่เป็นโตะขนาดใหญ่ ขณะร่องเรือจะให้ความอบอุ่น พร้อมชมชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางของแม่น้ำโมกากิอันงดงาม (ละครโอชินก็ได้มาถ่ายทำฉากที่โอชินล่องเรือที่แม่น้ำโมกามิแห่งนี้)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) หมู่บ้านออนเซ็นที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนดั้งเดิมชวนให้คิดถึงให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน โดยอบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นช่วงต้นศตวรรษที่ 20 บรรยากาศของหมู่บ้านที่เรียงรายไปด้วย เรียวกังไม้เลียบแม่น้ำยังคงมีให้เห็นกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพลิดเพลินกับการชมอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ กินซังออนเซ็นมีคุณสมบัติเป็นออนเซ็นกำมะถันใสไม่มีสีและมีรสเค็มเล็กน้อย โดยว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผลโดนบาด, บาดแผลไฟไหม้, โรคผิวหนังเรื้อรัง, โรคเรื้อรังยอดฮิตของผู้หญิง และโรคหลอดเลือดแข็ง (ไม่รวมค่าแช่ออนเซ็น 500-3,000 เยน)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Kaminoyama Hotel หรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ล่องเรือแม่น้ำโมกามิ (Mogami River Boat Ride) แม่น้ำสายหลักของ จ.ยามากาตะ ท่านจะได้ชมบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยแปลกตา ต้นไม้และภูเขารอบข้างถูกปกคุลมไปด้วยหิมะราวกับดินแดนในฝัน ซึ่งการล่องเรือแม่น้ำโมกามิล่องได้ทุกฤดู แต่จะมีความแตกต่างกันไป ในช่วงฤดูหนาวจะมีการติดตั้งเครื่องทำความร้อนภายในเรือหรือเตาโคทัตสึที่เป็นโตะขนาดใหญ่ ขณะร่องเรือจะให้ความอบอุ่น พร้อมชมชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางของแม่น้ำโมกากิอันงดงาม (ละครโอชินก็ได้มาถ่ายทำฉากที่โอชินล่องเรือที่แม่น้ำโมกามิแห่งนี้)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) หมู่บ้านออนเซ็นที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนดั้งเดิมชวนให้คิดถึงให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน โดยอบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นช่วงต้นศตวรรษที่ 20 บรรยากาศของหมู่บ้านที่เรียงรายไปด้วย เรียวกังไม้เลียบแม่น้ำยังคงมีให้เห็นกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพลิดเพลินกับการชมอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ กินซังออนเซ็นมีคุณสมบัติเป็นออนเซ็นกำมะถันใสไม่มีสีและมีรสเค็มเล็กน้อย โดยว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผลโดนบาด, บาดแผลไฟไหม้, โรคผิวหนังเรื้อรัง, โรคเรื้อรังยอดฮิตของผู้หญิง และโรคหลอดเลือดแข็ง (ไม่รวมค่าแช่ออนเซ็น 500-3,000 เยน)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Kaminoyama Hotel หรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่ 6 เมืองมัตสึชิมะ - ชมอ่าวมัตสึชิมะ - วัดโกไดโดะ - เซนได - ช้อปปิ้งอิออน นาโทริ - ช้อปปิ้งย่านอิจิบันโจ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เมืองมัตสึชิมะ(Matsushima) ตั้งอยู่นอกเมืองเซนได จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดคืออ่าวมัตสึชิมะ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เมืองที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยอดีต และในปัจจุบันยังคงความงามนั้นเอาไว้ ในปีค.ศ. 2013 เป็นเมืองท่องเที่ยวริมอ่าวมัตสึชิมะ ที่มีเกาะน้อยใหญ่มากมาย ด้วยเกาะน้อยใหญ่พวกนี้ช่วยลดแรงกระแทกของคลื่นยักษ์ ทำให้มัตสึชิมะได้รับผลกระทบจากสึนามิ ปี 2011 ไม่มากเท่ากับเมืองริมทะเลอื่นๆในแถบนี้ และเป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมด้วย
ชมอ่าวมัตสึชิมะ ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น อ่าวนี้ยังได้รับรางวัล “อ่าวที่งดงามที่สุดในโลก” รองจากอ่าวของมหาวิหารมงต์ ชาน มิเชล ที่ประเทศฝรั่งเศส และอ่าวซานฟรานซิสโก ของประเทศอเมริกา และเปนอ่าวแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลนี้ ที่นี่จึงเป็นสถานีที่ซึ่งควรแวะไปเที่ยวชมมากที่สุดแห่งหนึ่งเมื่อท่านเดินทางมาถึงเมืองเซ็นได
วัดโกไดโดะ (Godaido Temple) เป็นวัดขนาดเล็ก ติดกับท่าเรือมัตสึชิมะ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึชิมะ สร้างขึ้นในปี 807 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 5 องค์ ซึ่งก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่ก่อตั้งวัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) โดยรูปปั้นจะถูกนำมาให้ประชาชนได้ชมกันทุกๆ 33 ปี (ครั้งสุดท้ายที่นำออกมาจัดแสดงคือปี 2006)
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ช้อปปิ้ง อิออน นาโทริ ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade , ร้านขายเครื่องกีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่
ย่านอิจิบันโจ เป็นแหล่งช้อปปิ้งในใจกลางเมืองเซนได ที่ประกอบด้วยถนนช้อปปิ้งหลายสาย จึงได้ชื่อว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ตลอดสองข้างทางของถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เช่น ของแบรนด์เนมต่างๆ ร้านขายสินค้าแฟชั่นพวกเสื้อผ้า รองเท้าเครื่อง ประดับ ร้านขายยา ร้านขายสินค้า 100 เยน ตลอดจนร้านอาหาร ในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาอย่างยิ่งช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะมีการจัดแสดงไฟไว้ตลอดเส้นทาง รวมทั้งมีการตั้งต้นคริสต์มาสและประดับไฟเอาไว้ตามจุดต่างๆ พร้อมด้วยเสียงเพลงที่เข้ากับบรรยากาศ
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก SENDAI HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เมืองมัตสึชิมะ(Matsushima) ตั้งอยู่นอกเมืองเซนได จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดคืออ่าวมัตสึชิมะ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เมืองที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยอดีต และในปัจจุบันยังคงความงามนั้นเอาไว้ ในปีค.ศ. 2013 เป็นเมืองท่องเที่ยวริมอ่าวมัตสึชิมะ ที่มีเกาะน้อยใหญ่มากมาย ด้วยเกาะน้อยใหญ่พวกนี้ช่วยลดแรงกระแทกของคลื่นยักษ์ ทำให้มัตสึชิมะได้รับผลกระทบจากสึนามิ ปี 2011 ไม่มากเท่ากับเมืองริมทะเลอื่นๆในแถบนี้ และเป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมด้วย
ชมอ่าวมัตสึชิมะ ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น อ่าวนี้ยังได้รับรางวัล “อ่าวที่งดงามที่สุดในโลก” รองจากอ่าวของมหาวิหารมงต์ ชาน มิเชล ที่ประเทศฝรั่งเศส และอ่าวซานฟรานซิสโก ของประเทศอเมริกา และเปนอ่าวแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลนี้ ที่นี่จึงเป็นสถานีที่ซึ่งควรแวะไปเที่ยวชมมากที่สุดแห่งหนึ่งเมื่อท่านเดินทางมาถึงเมืองเซ็นได
วัดโกไดโดะ (Godaido Temple) เป็นวัดขนาดเล็ก ติดกับท่าเรือมัตสึชิมะ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึชิมะ สร้างขึ้นในปี 807 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 5 องค์ ซึ่งก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่ก่อตั้งวัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) โดยรูปปั้นจะถูกนำมาให้ประชาชนได้ชมกันทุกๆ 33 ปี (ครั้งสุดท้ายที่นำออกมาจัดแสดงคือปี 2006)
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ช้อปปิ้ง อิออน นาโทริ ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade , ร้านขายเครื่องกีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่
ย่านอิจิบันโจ เป็นแหล่งช้อปปิ้งในใจกลางเมืองเซนได ที่ประกอบด้วยถนนช้อปปิ้งหลายสาย จึงได้ชื่อว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ตลอดสองข้างทางของถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เช่น ของแบรนด์เนมต่างๆ ร้านขายสินค้าแฟชั่นพวกเสื้อผ้า รองเท้าเครื่อง ประดับ ร้านขายยา ร้านขายสินค้า 100 เยน ตลอดจนร้านอาหาร ในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาอย่างยิ่งช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะมีการจัดแสดงไฟไว้ตลอดเส้นทาง รวมทั้งมีการตั้งต้นคริสต์มาสและประดับไฟเอาไว้ตามจุดต่างๆ พร้อมด้วยเสียงเพลงที่เข้ากับบรรยากาศ
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก SENDAI HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 เซนได (สนามบินเซนได) - กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (TG627 11.15-16.05)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินเซนได
ถึง สนามบินเซนได ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ
11.15 น.
นำท่านกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG627 (บริการอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง)
16.05 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินเซนได
ถึง สนามบินเซนได ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ
11.15 น.
นำท่านกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG627 (บริการอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง)
16.05 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ