
โปรแกรม 3 วัน 2 คืน : เดินทางโดยรถบัส
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – คลองโคลน – เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธุ์ อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
05.30 น. ทุกท่านพร้อมกันที่ จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกให้ท่านทางด้านกระเป๋าเดินทาง และทำการตรวจคัดกรอง Covid19 ด้วยวิธี ATK (Antigen Test Kit)
06.00 น. คณะออกเดินทางโดยรถโค๊ชปรับอากาศสู่ เพชรบุรี นำท่านสัมผัสเส้นทาง Thailand Riviera : เลียบเลาะชายทะเล สายคลองโคน หาดเจ้าสำราญ ประจวบคีรีขันธุ์ สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตของทำนาเกลือ แสงอาทิตย์ยามเช้า เลียบเลาะเส้นทางชายทะเลสวย ๆ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) เพื่อความสะดวก ระหว่างทาง บริการอาหารเช้าแบบปิกนิก มัคคุเทศก์แนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยว
07.30 น. นำท่านสัมผัส ชุมชนยี่สาร ชุมชนโบราณร่วมสมัยกับการเกิดกรุงศรีอยุธยา มีการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภูมิปัญญาบ้านเขายี่สาร ชีวิตวัฒนธรรมของผู้คน ชม วัดเขายี่สาร วัดเก่าแก่ที่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และมีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระวิหารบนยอดเขาที่มีลักษณะเป็นรูปเรือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยซึ่งเป็นองค์ประธานของวัด รวมทั้งหลวงพ่อปากแดง พระพุทธรูปปางมารวิชัยอันเป็นงานช่างฝีมือชาวขอม พระมณฑปและบานประตูสลักไม้ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลายซึ่งเป็นงานประณีตศิลป์ขั้นสูง ถ้ำพระนอน อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีนิ้วพระบาทเก้านิ้ว
09.00 น. นำท่านสัมผัสความงดงามของ วิหารเรือเภตรานิพพานัง ณ วัดนอกปากทะเล อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นวิหารรูปทรงเรือสำเภาขนาดใหญ่มีความแปลกใหม่และวิจิตรตระการตา วิหารเรือซึ่งมีต้นแบบมาจากสำเภาทองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีความกว้าง 8 เมตร ยาว 32 เมตร สูง 38 สื่อถึงความหมายประดุจว่าเป็นพาหนะในการนำพาพุทธศาสนิกชนข้ามวัฏสงสารไปสู่นิพพานด้วยการปฏิบัติธรรม ตัววิหารเป็นที่รวบรวมศิลปะหลายแขนง ทั้งงานปูนปั้นที่เป็นเลิศของเพชรบุรี โดยใช้ลายตามังกรแบบจีนเข้ามาผสมผสานบานหน้าต่างเป็นงานแกะสลักไม้ตะเคียน รอบวิหารรายล้อมด้วยปร ะติมากรรมปูนปั้นจากวร รณกรรมเรื่องสังข์ทอง
10.00 น. นำท่านผ่อนคลายร่างกาย ณ สปากังหันทอง เพชรบุรี สปาและแหล่งผลิตเกลือสปาที่มาจากเกลือทะเลที่ดีที่สุดของเมืองไทย ซึ่งมีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วให้ท่านได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากสปากังหันทอง กลับไปเป็นของฝากคนทางบ้าน จากนั้นเดินทางสู่ร้านอาหาร ระหว่างทางแวะ ถ่ายรูปสวย ๆ ณ บ้านร่องใหญ่
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารบ้านปูเป็น2 (สาขาแหลมผักเบี้ย)
บ่าย หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เขาเต่า นำชม ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าบ้านเขาเต่า อันเนื่องมาจาก พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมโรงทอผ้าต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทยตามพระราชดำริ” เขาเต่า อ.หัวหิน โดยการ ใช้กี่กระตุก เดิมชื่อว่า ศูนย์ฝึกอบรมทอผ้าบ้านเขาเต่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เอกลักษณ์ของผ้าฝ้ายที่นี่คือ ผ้าขาวม้า 9 เส้น,ผ้าฝ้ายลายดอกเกตุ,ผ้าฝ้ายลายเต่าและอีกหลายลายให้ทุกท่านได้เลือกซื้อ ผ้าฝ้าย 100 % ไม่เจือสารเคมี ผ่านกรรมวิธีเฉพาะของที่นี่เพียงแห่งเดียว สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ วัดตาลเจ็ดยอด นำท่านกราบสักการะเกจิอาจารย์ องค์ใหญ่ สมเด็จพระพุทธาจารย์โต หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อสด ขอพรเพื่อความสิริมงคล จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรมหาดทอง ประจวบคีรีขันธุ์ หรือเทียบเท่าที่พักระดับมาตราฐาน พักห้องละ 2-3 ท่าน จัดเก็บสัมภาระเข้าห้องพัก
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารเฉี่ยวโอชา สาขา2 อ่าวน้อย / ครัวหัวบ้านเพชรในรู
19.00 น. หลังอา หารเดินทางกลับเข้าที่พัก อิสระ กับการพักผ่อน หรือจะท่องราตรีเดินเลาะริมหาดไป สะพานสราญวิถี เดินเที่ยวถนนคนเดินทางเมืองประจวบฯ (เปิดทุกวันศุกร์ - เสาร์)
06.00 น. คณะออกเดินทางโดยรถโค๊ชปรับอากาศสู่ เพชรบุรี นำท่านสัมผัสเส้นทาง Thailand Riviera : เลียบเลาะชายทะเล สายคลองโคน หาดเจ้าสำราญ ประจวบคีรีขันธุ์ สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตของทำนาเกลือ แสงอาทิตย์ยามเช้า เลียบเลาะเส้นทางชายทะเลสวย ๆ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) เพื่อความสะดวก ระหว่างทาง บริการอาหารเช้าแบบปิกนิก มัคคุเทศก์แนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยว
07.30 น. นำท่านสัมผัส ชุมชนยี่สาร ชุมชนโบราณร่วมสมัยกับการเกิดกรุงศรีอยุธยา มีการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภูมิปัญญาบ้านเขายี่สาร ชีวิตวัฒนธรรมของผู้คน ชม วัดเขายี่สาร วัดเก่าแก่ที่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และมีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระวิหารบนยอดเขาที่มีลักษณะเป็นรูปเรือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยซึ่งเป็นองค์ประธานของวัด รวมทั้งหลวงพ่อปากแดง พระพุทธรูปปางมารวิชัยอันเป็นงานช่างฝีมือชาวขอม พระมณฑปและบานประตูสลักไม้ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลายซึ่งเป็นงานประณีตศิลป์ขั้นสูง ถ้ำพระนอน อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีนิ้วพระบาทเก้านิ้ว
09.00 น. นำท่านสัมผัสความงดงามของ วิหารเรือเภตรานิพพานัง ณ วัดนอกปากทะเล อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นวิหารรูปทรงเรือสำเภาขนาดใหญ่มีความแปลกใหม่และวิจิตรตระการตา วิหารเรือซึ่งมีต้นแบบมาจากสำเภาทองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีความกว้าง 8 เมตร ยาว 32 เมตร สูง 38 สื่อถึงความหมายประดุจว่าเป็นพาหนะในการนำพาพุทธศาสนิกชนข้ามวัฏสงสารไปสู่นิพพานด้วยการปฏิบัติธรรม ตัววิหารเป็นที่รวบรวมศิลปะหลายแขนง ทั้งงานปูนปั้นที่เป็นเลิศของเพชรบุรี โดยใช้ลายตามังกรแบบจีนเข้ามาผสมผสานบานหน้าต่างเป็นงานแกะสลักไม้ตะเคียน รอบวิหารรายล้อมด้วยปร ะติมากรรมปูนปั้นจากวร รณกรรมเรื่องสังข์ทอง
10.00 น. นำท่านผ่อนคลายร่างกาย ณ สปากังหันทอง เพชรบุรี สปาและแหล่งผลิตเกลือสปาที่มาจากเกลือทะเลที่ดีที่สุดของเมืองไทย ซึ่งมีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วให้ท่านได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากสปากังหันทอง กลับไปเป็นของฝากคนทางบ้าน จากนั้นเดินทางสู่ร้านอาหาร ระหว่างทางแวะ ถ่ายรูปสวย ๆ ณ บ้านร่องใหญ่
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารบ้านปูเป็น2 (สาขาแหลมผักเบี้ย)
บ่าย หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เขาเต่า นำชม ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าบ้านเขาเต่า อันเนื่องมาจาก พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมโรงทอผ้าต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทยตามพระราชดำริ” เขาเต่า อ.หัวหิน โดยการ ใช้กี่กระตุก เดิมชื่อว่า ศูนย์ฝึกอบรมทอผ้าบ้านเขาเต่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เอกลักษณ์ของผ้าฝ้ายที่นี่คือ ผ้าขาวม้า 9 เส้น,ผ้าฝ้ายลายดอกเกตุ,ผ้าฝ้ายลายเต่าและอีกหลายลายให้ทุกท่านได้เลือกซื้อ ผ้าฝ้าย 100 % ไม่เจือสารเคมี ผ่านกรรมวิธีเฉพาะของที่นี่เพียงแห่งเดียว สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ วัดตาลเจ็ดยอด นำท่านกราบสักการะเกจิอาจารย์ องค์ใหญ่ สมเด็จพระพุทธาจารย์โต หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อสด ขอพรเพื่อความสิริมงคล จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรมหาดทอง ประจวบคีรีขันธุ์ หรือเทียบเท่าที่พักระดับมาตราฐาน พักห้องละ 2-3 ท่าน จัดเก็บสัมภาระเข้าห้องพัก
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารเฉี่ยวโอชา สาขา2 อ่าวน้อย / ครัวหัวบ้านเพชรในรู
19.00 น. หลังอา หารเดินทางกลับเข้าที่พัก อิสระ กับการพักผ่อน หรือจะท่องราตรีเดินเลาะริมหาดไป สะพานสราญวิถี เดินเที่ยวถนนคนเดินทางเมืองประจวบฯ (เปิดทุกวันศุกร์ - เสาร์)
วันที่ 2 ประจวบฯ – เกาะทะลุ เกาะสิงห์ เกาะสังข์ อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
07.00 น. บริการอาหารเข้า ณ ห้องอาหารของที่พัก
08.00 น. ออกเดินทางสู่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบ เพื่อลงเรือชมความงามของทะเลประจวบ
09.00 น. นำท่านลงเรือเดินทางสู่ เกาะทะลุ เกาะที่มีรูโหว่ตรงทางเหนือของเกาะ เชิญท่านสัมผัสโลกใต้ทะเล ชมประการังรูปแบบต่างๆ ชมฝูงปลาทะเลมากมายหลายชนิด
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ บนเรือ
บ่าย ดำน้ำชมปะการังที่ เกาะสิงห์ เกาะสังข์ ชมดอกไม้ทะเลที่มีความสมบูรณ์ และปลาทะเล เช่น ปลาการ์ตูน,ปลากระเบน หากโชคดี เราอาจได้เจอพี่ใหญ่ใจดี ฉลามวาฬ ที่ว่ายเข้ามาหากิน ฯลฯ นำท่านเพลิดเพลินกับโลกใต้ทะเลจนถึงเวลาที่เหมาะสม
15.00 น. เดินทางกลับท่าเรือ (มีห้องอาบน้ำบริการ) จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก
16.30 น. ถึงที่พักอิสระพักผ่อน
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารเฉี่ยวโอชา สาขา2 อ่าวน้อย / ครัวหัวบ้านเพชรในรู
19.00 น. หลังอาหารเดินทางกลับเข้าที่พัก อิสระกับการพักผ่อนในค่ำคืนอันแสนสุข
08.00 น. ออกเดินทางสู่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบ เพื่อลงเรือชมความงามของทะเลประจวบ
09.00 น. นำท่านลงเรือเดินทางสู่ เกาะทะลุ เกาะที่มีรูโหว่ตรงทางเหนือของเกาะ เชิญท่านสัมผัสโลกใต้ทะเล ชมประการังรูปแบบต่างๆ ชมฝูงปลาทะเลมากมายหลายชนิด
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ บนเรือ
บ่าย ดำน้ำชมปะการังที่ เกาะสิงห์ เกาะสังข์ ชมดอกไม้ทะเลที่มีความสมบูรณ์ และปลาทะเล เช่น ปลาการ์ตูน,ปลากระเบน หากโชคดี เราอาจได้เจอพี่ใหญ่ใจดี ฉลามวาฬ ที่ว่ายเข้ามาหากิน ฯลฯ นำท่านเพลิดเพลินกับโลกใต้ทะเลจนถึงเวลาที่เหมาะสม
15.00 น. เดินทางกลับท่าเรือ (มีห้องอาบน้ำบริการ) จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก
16.30 น. ถึงที่พักอิสระพักผ่อน
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารเฉี่ยวโอชา สาขา2 อ่าวน้อย / ครัวหัวบ้านเพชรในรู
19.00 น. หลังอาหารเดินทางกลับเข้าที่พัก อิสระกับการพักผ่อนในค่ำคืนอันแสนสุข
วันที่ 3 ประจวบ - บางสะพาน - ด่านสิงขร – กรุงเทพฯ อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
07.00 น. บริการอาหารเข้า ณ ห้องอาหารของที่พัก
08.00 น. หลังอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแล้วจัดเก็บสัมภาระเช็คเอาท์ออกเดินทางสุ่ “ชุมชนอ่าวน้อย” ชุมชนที่รวมเสน่ห์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของ 3 เชื้อชาติ ไทย มอญ พม่า ผ่านวิถีชีวิตกันเรียบง่ายเป็นเอกลักษณ์ อย่างภาษา การแต่งกาย ไปจนถึงเมนูอาหาร นำท่านสัมผัสวัดที่สวยงาม ชมอุโบสถไม้สักทั้งหลัง กราบสักการะ พระนอนในถ้ำ ณ วัดอ่าวน้อย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ด่านสิงขร สถานที่ท่องเที่ยวที่แคบสุดในสยามเป็นทางที่พวกพ่อค้า และนักเดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศใช้เป็นทางลัดระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับอ่าวไทย ปัจจุบันบริเวณชายแดนไทย – พม่า มีตลาดนัดไทย – สิงขร ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่ขายสินค้าพื้นเมืองทั้งของคนไทยและพม่า เช่น เครื่องใช้ที่ทำมาจากไม้ต่างๆฌเช่น ฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องครัวไม้ โต๊และเก้าอี้ไม้ เครื่องประดับ ของต่างๆที่ทำด้วยไม้ ที่ด่านสิงขรจะราคาถูกมาก และยังมีกล้วยไม้ต่างๆ ให้เลือกอีกมากมาย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเฉี่ยวโอชา 3 เมืองประจวบฯ
บ่าย หลังอาหารเดินทางเข้าสู่เมืองเพชรบุรี นำท่านเดินสัมผัสบรรยากาศสุดชิว จิบบรรยากาศย้อนยุค @ กาแฟบ้านร้อยปี เพชรบุรี ร้านกาแฟสุดเก๋ตกแต่งแบบโบราณสไตล์วินเทจ ภายในร้านตกแต่งด้วยของสะสมโบราณเก่าแก่สมัยรุ่นคุณปู่ คุณย่าที่หาชมได้ยาก ตัวร้านเป็นบ้านไม้แบบโบราณ 2 ชั้น อายุร่วม 100 ปี ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์เปิดโล่ง เป็นร้านกาแฟขายทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งที่เก็บข้าวของเก่าแก่ ( อิสระเครื่องดื่ม ) แล้วนำท่านเดินทางไปชม เขาอีบิด สวิตเซอร์แลนด์เมืองเพชร จุดเช็คอินถ่ายภาพสุดคูล ด้วยภาพของต้นสนสีเขียวโดดเด่นเรียงรายริมสระน้ำ มีวิวภูเขาหินปูนของเขาอีบิดรูปทรงแปลกตาเป็นฉากหลัง รวมทั้งก้อนหินน้อยใหญ่หลายขนาด กระจัดกระจายอยู่ใกล้สระน้ำ กลายเป็นจุดถ่ายถ่ายภาพสวยงาม บรรยากาศคล้ายกับสวิตเซอร์แลนด์ สถานที่ถ่ายรูปสวยใกล้กรุงได้ฟีลเมืองนอก ถ่ายภาพได้แบบคูล แต่งตัวให้ปัง แล้วเก็บภาพ เช็คอิน อัพฟีตโซเชียล ให้สะใจ สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่จุดหมายปลายทาง ระหว่างทางแวะให้ท่านได้ซื้อของฝากเมืองเพชร กลับไปฝากคนทางบ้าน
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านแดงอาหารทะเล (เจ้าเก่า)
19.00 น. หลังอาหารเดินทางกลับสู่จุดหมายปลายทาง
22.30 น. (โดยประมาณ) เดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ ส่งอำลาท่านสู่ จุดหมายโดยสวัสดิ์ภาพ อย่าลืมพบกันโปรแกรมถัดไป
08.00 น. หลังอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแล้วจัดเก็บสัมภาระเช็คเอาท์ออกเดินทางสุ่ “ชุมชนอ่าวน้อย” ชุมชนที่รวมเสน่ห์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของ 3 เชื้อชาติ ไทย มอญ พม่า ผ่านวิถีชีวิตกันเรียบง่ายเป็นเอกลักษณ์ อย่างภาษา การแต่งกาย ไปจนถึงเมนูอาหาร นำท่านสัมผัสวัดที่สวยงาม ชมอุโบสถไม้สักทั้งหลัง กราบสักการะ พระนอนในถ้ำ ณ วัดอ่าวน้อย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ด่านสิงขร สถานที่ท่องเที่ยวที่แคบสุดในสยามเป็นทางที่พวกพ่อค้า และนักเดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศใช้เป็นทางลัดระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับอ่าวไทย ปัจจุบันบริเวณชายแดนไทย – พม่า มีตลาดนัดไทย – สิงขร ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่ขายสินค้าพื้นเมืองทั้งของคนไทยและพม่า เช่น เครื่องใช้ที่ทำมาจากไม้ต่างๆฌเช่น ฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องครัวไม้ โต๊และเก้าอี้ไม้ เครื่องประดับ ของต่างๆที่ทำด้วยไม้ ที่ด่านสิงขรจะราคาถูกมาก และยังมีกล้วยไม้ต่างๆ ให้เลือกอีกมากมาย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเฉี่ยวโอชา 3 เมืองประจวบฯ
บ่าย หลังอาหารเดินทางเข้าสู่เมืองเพชรบุรี นำท่านเดินสัมผัสบรรยากาศสุดชิว จิบบรรยากาศย้อนยุค @ กาแฟบ้านร้อยปี เพชรบุรี ร้านกาแฟสุดเก๋ตกแต่งแบบโบราณสไตล์วินเทจ ภายในร้านตกแต่งด้วยของสะสมโบราณเก่าแก่สมัยรุ่นคุณปู่ คุณย่าที่หาชมได้ยาก ตัวร้านเป็นบ้านไม้แบบโบราณ 2 ชั้น อายุร่วม 100 ปี ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์เปิดโล่ง เป็นร้านกาแฟขายทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งที่เก็บข้าวของเก่าแก่ ( อิสระเครื่องดื่ม ) แล้วนำท่านเดินทางไปชม เขาอีบิด สวิตเซอร์แลนด์เมืองเพชร จุดเช็คอินถ่ายภาพสุดคูล ด้วยภาพของต้นสนสีเขียวโดดเด่นเรียงรายริมสระน้ำ มีวิวภูเขาหินปูนของเขาอีบิดรูปทรงแปลกตาเป็นฉากหลัง รวมทั้งก้อนหินน้อยใหญ่หลายขนาด กระจัดกระจายอยู่ใกล้สระน้ำ กลายเป็นจุดถ่ายถ่ายภาพสวยงาม บรรยากาศคล้ายกับสวิตเซอร์แลนด์ สถานที่ถ่ายรูปสวยใกล้กรุงได้ฟีลเมืองนอก ถ่ายภาพได้แบบคูล แต่งตัวให้ปัง แล้วเก็บภาพ เช็คอิน อัพฟีตโซเชียล ให้สะใจ สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่จุดหมายปลายทาง ระหว่างทางแวะให้ท่านได้ซื้อของฝากเมืองเพชร กลับไปฝากคนทางบ้าน
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านแดงอาหารทะเล (เจ้าเก่า)
19.00 น. หลังอาหารเดินทางกลับสู่จุดหมายปลายทาง
22.30 น. (โดยประมาณ) เดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ ส่งอำลาท่านสู่ จุดหมายโดยสวัสดิ์ภาพ อย่าลืมพบกันโปรแกรมถัดไป