ROMANTIC ROUTE OF PORTUGAL & SPAIN 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK)

สถานที่ทัวร์:
ยุโรป Europe โปรตุเกส สเปน Portugal-Spain
ระยะเวลา:
10 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Turkish Airlines

ROMANTIC ROUTE OF PORTUGAL & SPAIN 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK)10 วัน 7 คืน

฿0

BKK-IST

ออกจากBKK
21:45
ถึงIST
04:00

IST-OPO

ออกจากIST
09.10
ถึงOPO
11.15

โปรแกรม 10 วัน 7 คืน : เดินทางโดยสายการบินTurkish Airlines

20.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 10 เคาน์เตอร์ U ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
23.00 น.
ออกเดินทางสู่บาร์เซโลน่า โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ TK 69
***คณะเดินทางวันที่ 4 – 13 มี.ค. 63 ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ TK 69 เวลา 23.30 น. ถึงอิสตันบูล เวลา 06.25 น.***
***คณะเดินทางวันที่ 10 มี.ค. – 19 มี.ค. 63 ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ TK 65 เวลา 22.35 น. ถึงอิสตันบูล เวลา 05.45 น.***
***คณะเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 63 เป็นต้นไป ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ TK 65 เวลา 21.45 น. ถึงอิสตันบูล เวลา 04.10 น.***

05.20 น.
เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.15 น.
ออกเดินทางสู่ปอร์โต้ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 1451
***คณะเดินทางวันที่ 4 – 13 มี.ค. 63 ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ TK 1449 เวลา 09.10 น.ถึงปอร์โต้ เวลา 11.15 น.***
***คณะเดินทางวันที่ 10 – 19 มี.ค. 63 ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ TK 1451 เวลา 12.35 น. ถึงปอร์โต้ เวลา 14.45 น.***
11.10 น.
ถึงสนามบินฟรานซิสโก้ ซา คาเนียร์โร เมืองปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 29 มีนาคม 2563) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองปอร์โต้ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศโปรตุเกสตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ หรือ ปอร์โต้ไวน์ด้วยและนอกจากนั้นเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1996 อีกด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านชมย่านจัตุรัสกลางเมือง Praça dos Liberdade ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง ชมสถานีรถไฟ São Bento ซึ่งภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีที่มีลวดลายสีน้ำเงิน ที่เล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกส แวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Sé de Porto ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง อายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ João ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกส สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง จากนั้นเดินทางสู่เมืองโกอิมบรา (Coimbra) อีกเมืองหนึ่งที่สำคัญของโปรตุเกส
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก TRYP หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองฟาติมา (Fatima) ซึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญของคริสต์ศาสนิกชน นำท่านชมโบสถ์แม่พระฟาติมา (The Lady of Fatima Basilica) ซึ่งเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ก่อสร้างในปี 1928 - 1953 ชมรูปปั้นพระแม่มารี ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งในหลายเส้นทางของคริสต์ศาสนิกชนในการแสวงบุญ ที่มีความเชื่อว่าพระแม่มารีได้เคยปรากฏตัวให้เด็กน้อย 3 คนได้เห็นเป็นครั้งแรกที่แอบหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้บอกกับเด็กทั้งสามคนถึงเหตุผลที่พระองค์ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้ลูเซีย ได้บันทึกไว้ถึงคำทำนายและคำสอนของพระแม่มารี ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่ลูเซียได้บันทึกไว้ก็ล้วนเป็นความจริงที่ปรากฏขึ้นมาภายหลัง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นเดินทางสู่เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมือง เป็นอีกเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส นำท่านเข้าชมพระราชวังเปนา (Pena National Palace) พระราชวังฤดูร้อนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้าหนึ่งเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส ( 7 Wonders of Portugal) ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตเป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ ศตวรรษที่ 14 โดยตัวปราสาทถูกสร้างต่อเติมหลายยุคสมัย เดิมเริ่มแรกตั้งแต่สมัยยุคกลางเป็นพียงโบสถ์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1493 King John II และ Queen Leonor สร้างต่อเติมจากโบสถ์ให้ใหญ่ขึ้นเป็นอารามเพื่อรำลึกถึงนักบุญ St.Jerome โดยภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส และในอดีตอารามแห่งนี้ได้ถูกฟ้าผ่าหลายต่อหลังครั้ง รวมทั้งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 1755 และพาท่านเดินทาง ชมแหลมโรกา (Capo Da Roca) จุดที่เป็นปลายด้านตะวันตกสุดของทวีปยุโรป ซึ่งท่านสามารถซื้อใบประกาศนียบัตร (Certificate) เป็นที่ระลึกในการมาเยือน ณ ที่แห่งนี้ จากนั้นเดินทางสู่เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมือง เป็นอีกเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส นำท่านเดินทางต่อไปยังกรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงประเทศโปรตุเกส นครเก่าแก่นครหนึ่งในยุโรป ทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลาง ทางการเมือง การค้า อุตสาหกรรม พร้อมทั้งยังเป็นอุทยานนครที่เขียวชอุ่มร่มรื่น


อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก RAMADA LISBON หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านถ่ายภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ แวะถ่ายรูปกับหอคอยเบเล็ง (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางไปยังเมืองฟารู (Faro) เมืองท่าที่สำคัญของโปรตุเกสโดยเมืองนี้เป็นเขตที่อยู่ทางใต้สุดของโปรตุเกส มีความสำคัญเพราะเป็นเมืองท่าที่ติดกับสเปน เมืองนี้เป็นเมืองริมทะเลตากอากาศอันโด่งดังของประเทศและเป็นที่นิยมที่นักท่องเที่ยวมักมาพักผ่อน ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับป้ายเมืองฟารูสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงของเมือง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก FARO หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองเซบีย่า (Seville) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปน ชมปลาซา เดเอสปาญา (Plaza De Espana) ที่สร้างขึ้นเมือปี ค.ศ. 1982 เป็นกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมซึ่งรวมความเป็นสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่เรียงต่อกันเป็นแนวยาวสวยงามยิ่งนัก แต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามรอบบริเวณ นำท่านถ่ายรูปกับหอคอยฆีรัลดา (Giralda Tower) หอศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นโดยชาวมุสลิม เป็นตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของชาวมุสลิม


อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านชมภายนอกและถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองเซบีย่า (Seville Cathedral) เริ่มสร้างใน ค.ศ.1042 และสร้างเสร็จ ค.ศ.1519 ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพเขียน เครื่องใช้ในศาสนพิธี ที่ทำมาจากทองคำและเงินล้วนแล้วแต่ประเมินค่ามิได้ ตอนกลางโบสถ์เป็นที่ตั้งของสุสานคริสโตเฟอร์โคลัมบัส ซึ่งสร้างอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ เป็นหีบศพหินอ่อนที่ตั้งอยู่บนบ่าของรูปสลักชายหนุ่ม 4 คน ซึ่งเป็นผู้แทนของราชอาณาจักรของกษัตริย์คาทอลิกทั้ง 2 พระองค์อันได้แก่คัสตีล เลออน อาราก็อนและนาวาร์เร จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอร์โดบา(Cordoba) เมืองที่สวยงามในแบบมูเดฆาร์และเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในยุคที่มัวร์ปกครอง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก AYRE CORDOBA หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่มาลากา (Malaga) เป็นเมืองท่าในแคว้นปกครองตนเองอันดาลูเซียทางภาคใต้ของประเทศสเปน ริมชายฝั่งโกสตาเดลโซล (Costa del Sol) ซึ่งเป็นชายฝั่งหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นบ้านเกิดของจิตรกรชื่อก้องโลกอย่างปิกัสโซ่ หรือชื่อเต็มๆคือ Pablo Picasso อีกด้วย เรียกได้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่มีความคึกคักมากเมืองหนึ่งของสเปน เพราะมีท่าเรือพาณิชย์ และเป็นที่จอดเรือเดินสมุทรมากมายเพราะอยู่ห่างจากช่องแคบยิบรอลต้าประมาณ 100 กิโลเมตร ในอดีตมาลากาเป็นหนึ่งในหัวเมืองที่สำคัญมากที่สุดของยุโรป ซึ่งก่อตั้งโดยชาวฟินิเชียน ต่อมาโรมันเข้ามาครอบครองหลังจากนั้นถูกพวกแขกมัวร์ยึดไปแล้ว จึงกลับมาสู่การครอบครองโดยชาวคริสต์ จะเห็นได้ว่าสถาปัตยกรรมของเมืองนี้นั้นมีเสน่ห์โดดเด่นผสมผสานทั้งแบบอาหรับ และตะวันตกได้อย่างสวยงาม เป็นตั้งของป้อมอัลคาซาบา(Alcazaba) ที่สร้างโดยผู้ปกครองชาวมัวร์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 8 บนซากปรักหักพังของป้อมปราการโรมัน และได้ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 11 โดยสุลต่านแห่งกรานาดา ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สองแห่ง คือ พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ และพิพิธภัณฑ์โบราณคดี นำท่านชม Roman Theater หรือ โรงละครโรมันแห่งมาลากา สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 1 เป็นอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองและเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโรมันที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งในแคว้นอันดาลูเซีย นำท่านถ่ายรูปด้านหน้าคู่กับมหาวิหารแห่งมาลากา (Malaga Cathedral) ที่สง่างาม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบเรอเนซองส์และบาโรก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 บริเวณนี้แต่เดิมนั้นเคยเป็นที่ตั้งของมัสยิดมาก่อน แรกสร้างนั้น นำท่านเดินชมบริเวณจัตุรัสปิกัสโซ่ (Picasso Square) ตรงกลางจัตุรัสคืออนุสาวรีย์ Torrijos และมีรูปปั้นปิกัสโซ่อยู่ทางด้านข้างของ “Natal House” ซึ่งเป็นสถานที่กำเนิดของปิกัสโซ่ จัตุรัสแห่งนี้ล้อมรอบด้วยคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองกรานาด้า ตั้งอยู่เชิงเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada Mountains) ตรงบริเวณที่แม่น้ำดาร์โร (Darro) และแม่น้ำเฮนิล (Genil) มาบรรจบกัน ส่วนตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 738 เมตร จากระดับน้ำทะเล จังหวัดกรานาดาอยู่ในแคว้นปกครองตนเองอันดาลูเซียของประเทศสเปน กรานาดาเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แต่ที่โดดเด่นและมีเสน่ห์มากที่สุดคือ พระราชวังอาลัมบลา (AL ALHAMBRA) นับว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ ถูกสร้างขึ้นด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมศิลปะของแขกมัวร์ และยังนับว่าเป็นพระราชวังสถาปัตยกรรมของแขกมัวร์เพียงแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในทวีปยุโรปอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปด้านหน้ากับโบสถ์กรานาดา (Cathedral of Santa Maria de la Encarnacion) โบสถ์แห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกแห่งสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ของสเปน เป็นที่รู้จักเพราะมีหอสวดมนต์อันงดงาม วิหารนี้สร้างขึ้นตามพระบัญชาของพระนางเจ้าอิซาเบลลาหลังการต่อสู้ทางการทหาร Conquest of Granada ที่ทำให้สิ้นสุดการปกครองของแขกมัวร์ที่ปกครองมายาวนานถึง 800 ปี การก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้เริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ในบริเวณที่เคยเป็นสถานที่ตั้งมัสยิดหลักของเมืองมาก่อน


อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก URBAN DREAM GRANADA หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองมูร์เซีย (Murcia) เป็นเมืองหลวงของแคว้นมูร์เซีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 7 ของประเทศ นำท่านเดินชมจัตุรัส Plaza de las Flores เป็นจัตุรัสที่มีร้านอาหารร้านกาแฟอยู่รายรอบ ซึ่งชาวเมืองส่วนใหญ่และนักท่องเที่ยวมากมายมักใช้เป็นสถานที่จิบกาแฟพักผ่อนชมอาคารบ้านเรือนสไตล์อาร์ตนูโว
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองวาเลนเซีย (Valencia) เมืองหลวงของแคว้นบาเลนเซีย แคว้นปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสเปน และยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคือ สโมสรฟุตบอลวาเลนเซีย ชมย่านใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลาง, ที่ทำการไปรษณีย์, ร้านค้า, สนามสู้วัวกระทิง นำท่านชมย่านใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลาง, ที่ทำการไปรษณีย์, ร้านค้า, สนามสู้วัวกระทิง นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารวาเลนเซีย หรือ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งวาเลนเซีย (Catedral de Santa Maria de Valencia) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่า สร้างขึ้นในสไตล์ผสมผสานอาทิ โกธิก, นีโอคลาสสิก, บาร็อค และอื่นๆ ด้านข้างจะเป็น หอระฆังเอล มิกูเลต (El Miguelete) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1381 และสิ้นสุดในปี 1429 และติดกันเป็นโบสถ์แม่พระ นักบุญอุปถัมภ์ประจำเมือง ตลอดสองข้างทางมีภัตตาคาร, บาร์, ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกมากมาย จากนั้นนำชมเขตเมืองใหม่ที่ตั้งของท่าเรือเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมือง ประกอบไปด้วย โรงภาพยนตร์, โรงศิลปะการแสดง, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุทยานสมุทรภูมิศาสตร์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL ALBUFERA หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งทะเล กอสตา เดล อะซาร์ (Costa del Azahar) หรือ ชายฝั่งดอกส้มบาน ตั้งชื่อตามสวนส้มที่ปลูกทั่วที่ราบชายฝั่งและส่งกลิ่นหอม หวานในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแถบเมดิเตอร์เรเนียน จนเข้าสู่เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) นครใหญ่แห่งคาตาลันยา และเมืองสำคัญอันดับ 2 ของสเปน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชมภายนอกโบสถ์ซากราดา แฟมิเลีย (La Sagrada Familia) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์สัญลักษณ์ของเมือง โดยฝีมือการออกแบบของ อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เรียกว่า โมเดิร์นนิสโม เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นอาร์ตนูโว ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1882 แม้กระทั้งจนถึงปัจจุบันก็ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ถึงกระนั้นองค์การยูเนสโก ก็ได้จัดให้เป็นมรดกโลก โดยมหาวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมโดดเด่นแปลกตาไม่เหมือนที่ใดในโลกและนำท่านชมภายนอกปาร์ค กูเอล (Parque Guell) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่โชว์ผลงานอันโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของอันตอนี เกาดี สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่ถูกล้อมรอบด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ ด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมงานกระเบื้องที่เน้นรูปทรงธรรมชาติในสีสันที่ตัดกัน ดูโดดเด่น แปลกตา และเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก


อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก AC HOTEL SANT CUGAT หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมือง เพื่อนำท่านขึ้นสู่จุดชมวิวของเมืองที่เนินเขา Montjuïc เป็นเนินเขาในบาร์เซโลน่าที่มีทัศนียภาพอันงดงามทางด้านตะวันออกของเนินเขายังมีหน้าผาสูงชันซึ่งทำหน้าที่เป็นดั่งกำแพงเมือง ส่วนด้านบนเป็นที่ตั้งของป้อมปราการหลายแห่ง จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง สนามฟุตบอลของสโมสรบาร์เซโลน่า สนามคัมป์นู (Camp Nou) ที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีความจุผู้เข้าชมได้ถึงเกือบ 99,000 คน มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายรูปด้านนอก พร้อมทั้งเลือกซื้อของที่ MEGA STORE ของทีมบาร์เซโลน่า ให้ท่านได้ถ่ายรูปด้านนอกคู่กับสนามบอลที่มีชื่อเสียงมากสุดแห่งหนึ่งของโลก


อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ La Roca Village Outlet เชิญท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย อาทิ Armani, Burberry, Calvin Klein, Coach, Escada, Gucci, Guess, Hugo Boss, Kipling, L’Occitane, Levi’s, Lacoste, Loewe, Michael Kors, Nike, Polo, Puma, Ray-Ban, Samsonite, Superdry, Swarovski, Tag Heuer, Tommy Hilfiger, The North Face, Timberland, Tumi, Versace, Zegna ฯลฯ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
19.00 น.
ออกเดินทางสู่อิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 1856
***คณะเดินทางระหว่างวันที่ 4 มี.ค. – 13 มี.ค และ 10 มี.ค. – 19 มี.ค. 63 ออกเดินทางเวลา 18.10 น. และถึงอิสตันบูล เวลา 23.50 น.***
23.30 น.
ถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

01.25 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68
***คณะเดินทางระหว่างวันที่ 4 มี.ค. – 13 มี.ค และ 10 มี.ค. – 19 มี.ค. 63 ออกเดินทางเวลา 01.50 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 15.10 น.***
15.00 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา