โปรแกรม 10 วัน 7 คืน : เดินทางโดยสายการบินEmirates
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – ดูไบ
17.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.05 น.
ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 373
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.05 น.
ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 373
วันที่ 2 ดูไบ – มิลาน – มหาวิหารดูโอโม – ปาร์มา
00.50 น.
เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
03.35 น.
ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 101
08.15 น.
ถึงสนามบินมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นำท่านชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินสู่เมืองปาร์มา (Parma) เมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตแฮม และเป็นต้นกำเนิดของปาร์มาแฮมและพาร์เมซานชีส ที่โด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ผ่านชมอาคารมหาวิทยาลัย ปาร์มาและสโมสรฟุตบอลปาร์มา นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองปาร์มา (Duomo di Parma) ซึ่งเป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิก อุทิศให้กับการสันนิษฐานของพระแม่มารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตกแต่งด้วยลวดลายอันสวยงาม
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์มาแฮม)
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SAN MARCRO หรือเทียบเท่า
เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
03.35 น.
ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 101
08.15 น.
ถึงสนามบินมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นำท่านชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินสู่เมืองปาร์มา (Parma) เมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตแฮม และเป็นต้นกำเนิดของปาร์มาแฮมและพาร์เมซานชีส ที่โด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ผ่านชมอาคารมหาวิทยาลัย ปาร์มาและสโมสรฟุตบอลปาร์มา นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองปาร์มา (Duomo di Parma) ซึ่งเป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิก อุทิศให้กับการสันนิษฐานของพระแม่มารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตกแต่งด้วยลวดลายอันสวยงาม
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์มาแฮม)
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SAN MARCRO หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ปาร์มา – Outlet – เวโรนา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ Fidenza Village Outlet ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น Armani, Boggi Milano, Calvin Klein, Coach, Diesel, Dolce&Gabbana, Fabiana Filippi, Guess, GrandVision by Avanzi, Massimo Rebecchi, Michael Kors, New Balance, Paul Smith, Samsonite, Timberland, Versace, และอื่นๆอีกมากมาย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวโรนา (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเวนิส ของแคว้นเวเนโต้ และเมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี คศ.2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า แต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต จากนั้นนำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงาม จัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรม เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับบ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN CTC VERONA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ Fidenza Village Outlet ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น Armani, Boggi Milano, Calvin Klein, Coach, Diesel, Dolce&Gabbana, Fabiana Filippi, Guess, GrandVision by Avanzi, Massimo Rebecchi, Michael Kors, New Balance, Paul Smith, Samsonite, Timberland, Versace, และอื่นๆอีกมากมาย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวโรนา (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเวนิส ของแคว้นเวเนโต้ และเมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี คศ.2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า แต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต จากนั้นนำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงาม จัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรม เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับบ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN CTC VERONA หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 เวโรนา – เกาะเวนิส – เวนิส เมสเตร้
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) เพื่อล่องเรือผ่านชมความงดงามของเกาะเวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก" มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเดินเที่ยวชมเกาะอันสุดแสนโรแมนติกตามอัธยาศัย เช่น เดินเล่นชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โคที่สวยงาม, ช้อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำ หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1720 หรือ นั่งเรือกอนโดล่า ล่องชมคลองเวนิส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (สปาเก็ตตี้หมึกดำ)
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ALEXANDER หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) เพื่อล่องเรือผ่านชมความงดงามของเกาะเวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก" มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเดินเที่ยวชมเกาะอันสุดแสนโรแมนติกตามอัธยาศัย เช่น เดินเล่นชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โคที่สวยงาม, ช้อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำ หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1720 หรือ นั่งเรือกอนโดล่า ล่องชมคลองเวนิส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (สปาเก็ตตี้หมึกดำ)
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ALEXANDER หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 เวนิส เมสเตร้ – โรวินจ์ – ริเจก้า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโรวินจ์ (Rovinj) เมืองสวยชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน จึงทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองมีกลิ่นอายและความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก จึงได้สมญาว่า "เวนิสแห่งโครเอเชีย" นำท่านถ่ายรูปคู่กับโบสถ์เซนต์อาเฟเหมี่ย (St. Euphemia) โบสถ์สไตล์บารอกที่ตั้งอยู่ใจกลางเขตเมืองเก่าของเมืองโรวินจ์ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1736 และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเข้าชมเมือง ริเจก้า (Rijeka) เมืองริมทะเลที่สวยงาม ถือเป็นเมืองท่าโครเอเชีย และเป็นประตูสู่หมู่เกาะของโครเอเชีย Korzo ทางเดินเล่นหลักเรียงรายรอบไปด้วยอาคารยุคเบิร์กส์ มีโรงละครแห่งชาติ Zajc Croatian มีภาพวาดเพดานโดย Gustav Klimt ปราสาทยอดเขา Trsat Castle ซึ่งมีศาลทางศาสนามีทิวทัศน์อันกว้างไกลของเกาะ Kvarner Bay
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BONAVIA PLAVA LAGUNA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโรวินจ์ (Rovinj) เมืองสวยชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน จึงทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองมีกลิ่นอายและความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก จึงได้สมญาว่า "เวนิสแห่งโครเอเชีย" นำท่านถ่ายรูปคู่กับโบสถ์เซนต์อาเฟเหมี่ย (St. Euphemia) โบสถ์สไตล์บารอกที่ตั้งอยู่ใจกลางเขตเมืองเก่าของเมืองโรวินจ์ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1736 และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
จากนั้นนำท่านเข้าชมเมือง ริเจก้า (Rijeka) เมืองริมทะเลที่สวยงาม ถือเป็นเมืองท่าโครเอเชีย และเป็นประตูสู่หมู่เกาะของโครเอเชีย Korzo ทางเดินเล่นหลักเรียงรายรอบไปด้วยอาคารยุคเบิร์กส์ มีโรงละครแห่งชาติ Zajc Croatian มีภาพวาดเพดานโดย Gustav Klimt ปราสาทยอดเขา Trsat Castle ซึ่งมีศาลทางศาสนามีทิวทัศน์อันกว้างไกลของเกาะ Kvarner Bay
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BONAVIA PLAVA LAGUNA หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 ริเจก้า – อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ – ซาเกรบ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่ (Plitvice National Park) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ อุทยานนี้มีพื้นที่ประมาณ 29,482 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 295 ตารางกิโลเมตร โดย 223 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ป่าและพื้นน้ำครอบคลุมประมาณ 2.17 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเธอร์คอยซ์ถึง 16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างกัน นำท่านเข้าชมความงามของอุทยาน Lower Lake โดยล่องเรือข้ามทะเลสาบ Jezero Kozjak ***ในกรณีที่ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งจนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทคืนเงินท่านละ 5 ยูโร*** ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนล่างขึ้นสู่ทะเลสาบชั้นบนของอุทยาน เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและความอลังการของ Lower Lake ที่ประกอบด้วยทะเลสาบ Milanovac, Gavanovac และ Kaluderovac เป็นต้น นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน ชม Veliki Slip จุดชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานมีความสูงถึง 70 เมตร
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางมาที่เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลอาเดรียติก และภูมิภาคแพนโนเนีย ทำให้สามารถติดต่อและคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคยุโรปกลางกับทะเลอาเดรียติกได้อย่างดีมากการ และเป็นศูนย์กลางการขนส่ง อุตสาหกรรม และสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเมืองนี้ก็เป็นพื้นฐานที่ทำให้ซาเกรบเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ซาเกรบยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร และเป็นที่ตั้งของกระทรวง หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วยปัจจุบันชาวโครเอเชีย มีวิถีชีวิตเหมือนกับชาวยุโรปที่เจริญโดยทั่วไป ทั้งการคมนาคมภายในกรุงซาเกร็บก็สะดวกสบาย และนิยมใช้รถรางเป็นพาหนะทั่วทั้งเมือง
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก LAGUNA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่ (Plitvice National Park) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ อุทยานนี้มีพื้นที่ประมาณ 29,482 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 295 ตารางกิโลเมตร โดย 223 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ป่าและพื้นน้ำครอบคลุมประมาณ 2.17 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเธอร์คอยซ์ถึง 16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างกัน นำท่านเข้าชมความงามของอุทยาน Lower Lake โดยล่องเรือข้ามทะเลสาบ Jezero Kozjak ***ในกรณีที่ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งจนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทคืนเงินท่านละ 5 ยูโร*** ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนล่างขึ้นสู่ทะเลสาบชั้นบนของอุทยาน เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและความอลังการของ Lower Lake ที่ประกอบด้วยทะเลสาบ Milanovac, Gavanovac และ Kaluderovac เป็นต้น นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน ชม Veliki Slip จุดชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานมีความสูงถึง 70 เมตร
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางมาที่เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลอาเดรียติก และภูมิภาคแพนโนเนีย ทำให้สามารถติดต่อและคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคยุโรปกลางกับทะเลอาเดรียติกได้อย่างดีมากการ และเป็นศูนย์กลางการขนส่ง อุตสาหกรรม และสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเมืองนี้ก็เป็นพื้นฐานที่ทำให้ซาเกรบเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ซาเกรบยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร และเป็นที่ตั้งของกระทรวง หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วยปัจจุบันชาวโครเอเชีย มีวิถีชีวิตเหมือนกับชาวยุโรปที่เจริญโดยทั่วไป ทั้งการคมนาคมภายในกรุงซาเกร็บก็สะดวกสบาย และนิยมใช้รถรางเป็นพาหนะทั่วทั้งเมือง
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก LAGUNA หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 เบลด – ล่องเรือทะเลสาบ - กราซ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเบลด (Bled) ประเทศสโลวีเนีย (Slovenia) เมืองแห่งโบสถ์กลางทะเลสาบ สุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียน แอลป์ (Julian Alps) ทะเลสาบ เบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์ นำท่านนั่งเรือสู่เกาะกลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์พระแม่มารี (Assumption of Mary ) ของเหล่านักแสวงบุญ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชมโบสถ์และหอคอยกลางทะเลสาบ จากท่าเรือจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 99 ขั้น ซึ่งประเพณีท้องถิ่นคู่สมรสฝ่ายชายจะต้องอุ้มฝ่ายหญิงขึ้นบันได 11 ขั้นนี้
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองกราซ (Graz) เมืองสวยของประเทศออสเตรีย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมแห่งยุโรป และเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ของประเทศออสเตรีย ในอดีตเมืองกราซเป็นเมืองหน้าด่านที่มีป้อมปราการอันแข็งแกร่งไว้ป้องกันการรุกรานจากพวกเติร์ก กราซตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เมอร์ เป็นศูนย์กลางของสถาปัตยกรรมต่างๆจากทุกสมัย ทั้งโกธิค เรอเนส์ซองส์ และบารอก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยกราซ มหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1585 และต่อมาเมืองกราซได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1999
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PLUS PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเบลด (Bled) ประเทศสโลวีเนีย (Slovenia) เมืองแห่งโบสถ์กลางทะเลสาบ สุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียน แอลป์ (Julian Alps) ทะเลสาบ เบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์ นำท่านนั่งเรือสู่เกาะกลางทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์พระแม่มารี (Assumption of Mary ) ของเหล่านักแสวงบุญ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชมโบสถ์และหอคอยกลางทะเลสาบ จากท่าเรือจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 99 ขั้น ซึ่งประเพณีท้องถิ่นคู่สมรสฝ่ายชายจะต้องอุ้มฝ่ายหญิงขึ้นบันได 11 ขั้นนี้
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองกราซ (Graz) เมืองสวยของประเทศออสเตรีย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมแห่งยุโรป และเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ของประเทศออสเตรีย ในอดีตเมืองกราซเป็นเมืองหน้าด่านที่มีป้อมปราการอันแข็งแกร่งไว้ป้องกันการรุกรานจากพวกเติร์ก กราซตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เมอร์ เป็นศูนย์กลางของสถาปัตยกรรมต่างๆจากทุกสมัย ทั้งโกธิค เรอเนส์ซองส์ และบารอก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยกราซ มหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1585 และต่อมาเมืองกราซได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1999
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PLUS PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 8 กราซ – ฮัลสตัท – เวียนนา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้แห่งออสเตรีย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL AM SACHSENGANG หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้แห่งออสเตรีย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL AM SACHSENGANG หรือเทียบเท่า
วันที่ 9 เวียนนา – ช้อปปิ้ง - OUTLET – สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) จากนั้นนำผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1955 ผ่านชมพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf อิสระช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
22.45 น.
ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 126
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) จากนั้นนำผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1955 ผ่านชมพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf อิสระช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
22.45 น.
ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 126
วันที่ 10 ดูไบ – กรุงเทพฯ
06.20 น.
เดินทางถึงดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
18.55 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
เดินทางถึงดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
18.55 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ