โปรแกรม 7 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินLufthansa
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
20.50 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 4 เคาน์เตอร์ G สายการบิน ลุฟท์ฮันซ่า โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.50 น.
ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 773
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายนจะออกเดินทางเวลา 23.00 น. และไปถึงแฟรงก์เฟิร์ตเวลา 06.00 น. ***
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 4 เคาน์เตอร์ G สายการบิน ลุฟท์ฮันซ่า โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.50 น.
ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 773
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายนจะออกเดินทางเวลา 23.00 น. และไปถึงแฟรงก์เฟิร์ตเวลา 06.00 น. ***
วันที่ 2 แฟรงก์เฟิร์ต – จัตุรัสโรเมอร์ – โคโลญ – ดุสเซลดอร์ฟ
06.00 น.
ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำเที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) เมืองสำคัญริมแม่น้ำไรน์ และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเยอรมนี ศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญ 4711 อันลือชื่อ นำเที่ยวชมตัวเมืองโคโลญ เมืองเก่าสมัยโรมันเรืองอำนาจ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1248 แต่มีเหตุทำให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้างส่งผลให้ต้องใช้เวลาสร้างกว่าหกร้อยปีจึงเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้จึงแล้วเสร็จในปี 1880 มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นหอคอยแฝดสูงถึง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร จุดประสงค์เพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี จากนั้นเดินทางสู่เมืองดุซเซลดอร์ฟ (Dusseldorf) เป็นเมืองหลวงของในรัฐนอร์ทไรน์ เวสต์ฟาเลีย (North Rhein-Westphalia) นำท่านถ่ายรูปกับ Der Neue Zollhof ซึ่งออกแบบโดย แฟรงก์ โอเวน เกห์รี ผู้ที่เคยได้รับรับรางวัลพริตซ์เกอร์ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในสายวิชาชีพ และรางวัลอื่นๆอีกมาก นำท่านชม Stadttor เป็นหนึ่งอาคารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง ได้รับการออกแบบให้ดูแล้วเหมือนประตู อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก NH DUSSELDORF CITY หรือเทียบเท่า
ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำเที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) เมืองสำคัญริมแม่น้ำไรน์ และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเยอรมนี ศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญ 4711 อันลือชื่อ นำเที่ยวชมตัวเมืองโคโลญ เมืองเก่าสมัยโรมันเรืองอำนาจ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1248 แต่มีเหตุทำให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้างส่งผลให้ต้องใช้เวลาสร้างกว่าหกร้อยปีจึงเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้จึงแล้วเสร็จในปี 1880 มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นหอคอยแฝดสูงถึง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร จุดประสงค์เพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี จากนั้นเดินทางสู่เมืองดุซเซลดอร์ฟ (Dusseldorf) เป็นเมืองหลวงของในรัฐนอร์ทไรน์ เวสต์ฟาเลีย (North Rhein-Westphalia) นำท่านถ่ายรูปกับ Der Neue Zollhof ซึ่งออกแบบโดย แฟรงก์ โอเวน เกห์รี ผู้ที่เคยได้รับรับรางวัลพริตซ์เกอร์ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในสายวิชาชีพ และรางวัลอื่นๆอีกมาก นำท่านชม Stadttor เป็นหนึ่งอาคารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง ได้รับการออกแบบให้ดูแล้วเหมือนประตู อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก NH DUSSELDORF CITY หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ดุสเซลดอร์ฟ – มุนสเตอร์ – เฮมลิน – ฮันโนเวอร์
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองมุนสเตอร์(MUNSTER) เป็นเมืองอิสระ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศเยอรมนี เมืองมุนสเตอร์เป็นหนึ่งในเมืองมหาวิทยาลัยที่ ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองจักรยาน เพราะผู้คนมากมายจะใช้จักรยานเป็นยานพาหนะในการเดินทาง
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง ฮันโนเวอร์ (Hannover) นั้นนับว่าเป็นอีกเมืองใหญ่ของเยอรมันที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเเละมีฐานะเป็นเมืองหลวงของเเคว้นโลเวอร์ เซกโซนี่ โดยนับว่าเป็นอีกเมืองใหญ่ที่ไม่ได้รับความเสียหายมากมายนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เเละเป็นเมืองเเห่งศูนย์กลางของวัฒนธรรมเยอรมันใหม่หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ลง จนกลางมาเป็นเมืองเเห่งศูนย์กลางทางการค้าของเยอรมัน เเละมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจมาหมายหลายเเห่ง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก WYNDHAM HANNOVER ATRIUM หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองมุนสเตอร์(MUNSTER) เป็นเมืองอิสระ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศเยอรมนี เมืองมุนสเตอร์เป็นหนึ่งในเมืองมหาวิทยาลัยที่ ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองจักรยาน เพราะผู้คนมากมายจะใช้จักรยานเป็นยานพาหนะในการเดินทาง
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง ฮันโนเวอร์ (Hannover) นั้นนับว่าเป็นอีกเมืองใหญ่ของเยอรมันที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเเละมีฐานะเป็นเมืองหลวงของเเคว้นโลเวอร์ เซกโซนี่ โดยนับว่าเป็นอีกเมืองใหญ่ที่ไม่ได้รับความเสียหายมากมายนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เเละเป็นเมืองเเห่งศูนย์กลางของวัฒนธรรมเยอรมันใหม่หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ลง จนกลางมาเป็นเมืองเเห่งศูนย์กลางทางการค้าของเยอรมัน เเละมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจมาหมายหลายเเห่ง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก WYNDHAM HANNOVER ATRIUM หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ฮันโนเวอร์ – ลือเบกค์ – ฮัมบวร์ค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางเข้าสู่เมืองลือเบกค์ (Lubeck) เยอรมัน มีฐานะเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในทะเลบอลติก ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ ประเทศเยอรมัน ในรัฐ ชเลสวิก-โฮลชไตน์ โดยในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของกลุ่มฮันเซียติคมาก่อน และแม้ว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ลือเบกค์จะโดนทำลายด้วยการทิ้งระเบิดจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ปัจจุบันที่นี่กลับเป็น ที่เที่ยวเยอรมัน จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่แสวงหาความสงบและสถาปัตยกรรมในยุคกลางไปซะอย่างนั้น โดยมีทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เช่นมหาวิหารที่สวยงาม ศาลากลางจังหวัดที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 รวมไปถึงประตูเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่าง Holstentor
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองฮัมบวร์ค(Hamburg) อันเก่าแก่กว่า 1,200 ปี เป็นทั้งเมืองใหญ่อันดับที่สอง และเมืองท่าออกทะเลที่สำคัญที่สุดของเยอรมนี และเป็นศูนย์กลางการค้าต่างประเทศใหญ่ที่สุดอีกด้วย นำเที่ยวชมเมืองฮัมบวร์ค อันประกอบด้วยที่ตั้งที่แสนงดงามริมแม่น้ำเอลเบ้กับแม่น้ำอัลส์เทอร์ ผ่านชมโบสถ์มิเชลล์ เขตท่าเรือที่ชวนประทับใจเองเรียงรายไปด้วยอาคารตามแบบแผนดั้งเดิม ทำให้เมืองนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เที่ยวชมเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ 2 สายคือเอลเบ้อและอัลสเทอร์ ชมศาลากลางฮัมบวร์ค (Rathaus) เป็นอาคารที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองใกล้ ๆ กับทะเลสาบ Binnenalster เปรียบเสมือนหัวใจของฮัมบูร์ก โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1886-1897เป็นหนึ่งในอาคารที่เก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์มากที่สุดของเมือง เชื่อกันว่าฮัมบูร์กเป็นเมืองที่เป็นต้นแบบของการสร้างโบสถ์ โบสถ์เซ็นปีเตอร์, โบสถ์นิโคไล หรือโบสถ์นิโคลัส ซากสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ หลังจากถูกทำลายในสงคราม โลกครั้งที่ 2 โบสถ์แห่งนี้ได้สงวนเอาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนความจำแก่คนรุ่นหลัง, โบสถ์มิคาเอล (St. Mich-aelis Church) เป็นหนึ่งในโบสถ์นิกายโปรแตสแตนท์ เป็นสถาปัตยกรรมบาร็อค ได้ชื่อว่าโบสถ์บาร็อคที่สวยที่สุดทางเหนือของเยอรมนี ย่านHafen city เขตท่าเรือใหม่ และย่านโกดังชไปเคอชตัท (Speicherstadt) เขตคลัง สินค้าที่ไดรับการยอมรับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ภายในเขตท่าเรือฮัมบูร์ก สมกับที่เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและใหญ่ติดอันดับโลก ย่านซังท์เพาลี (St. Pauli) อีกหนึ่งย่านที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นย่านเก่าแก่ที่สามารถย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 17 เป็นศูนย์กลางการพักผ่อนหย่อนใจ และสวนสนุก ปัจจุบันย่านซังท์เพาลีเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะย่านบันเทิงยามราตรีที่ชื่อ รีพเพอร์บาห์น (Reeperbahn) หรือถิ่นโคมแดงของฮัมบูรก์ อีกทั้งยังมีย่านช้อปปิ้งชื่อดัง อัลสเตอร์อาร์คาเดน (Alsterarkaden) และถนนมองเคเบิร์ก (Monckbegerstrasse) ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN HAMBURG BERLINER หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางเข้าสู่เมืองลือเบกค์ (Lubeck) เยอรมัน มีฐานะเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในทะเลบอลติก ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ ประเทศเยอรมัน ในรัฐ ชเลสวิก-โฮลชไตน์ โดยในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของกลุ่มฮันเซียติคมาก่อน และแม้ว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ลือเบกค์จะโดนทำลายด้วยการทิ้งระเบิดจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ปัจจุบันที่นี่กลับเป็น ที่เที่ยวเยอรมัน จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่แสวงหาความสงบและสถาปัตยกรรมในยุคกลางไปซะอย่างนั้น โดยมีทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เช่นมหาวิหารที่สวยงาม ศาลากลางจังหวัดที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 รวมไปถึงประตูเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่าง Holstentor
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองฮัมบวร์ค(Hamburg) อันเก่าแก่กว่า 1,200 ปี เป็นทั้งเมืองใหญ่อันดับที่สอง และเมืองท่าออกทะเลที่สำคัญที่สุดของเยอรมนี และเป็นศูนย์กลางการค้าต่างประเทศใหญ่ที่สุดอีกด้วย นำเที่ยวชมเมืองฮัมบวร์ค อันประกอบด้วยที่ตั้งที่แสนงดงามริมแม่น้ำเอลเบ้กับแม่น้ำอัลส์เทอร์ ผ่านชมโบสถ์มิเชลล์ เขตท่าเรือที่ชวนประทับใจเองเรียงรายไปด้วยอาคารตามแบบแผนดั้งเดิม ทำให้เมืองนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เที่ยวชมเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ 2 สายคือเอลเบ้อและอัลสเทอร์ ชมศาลากลางฮัมบวร์ค (Rathaus) เป็นอาคารที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองใกล้ ๆ กับทะเลสาบ Binnenalster เปรียบเสมือนหัวใจของฮัมบูร์ก โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1886-1897เป็นหนึ่งในอาคารที่เก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์มากที่สุดของเมือง เชื่อกันว่าฮัมบูร์กเป็นเมืองที่เป็นต้นแบบของการสร้างโบสถ์ โบสถ์เซ็นปีเตอร์, โบสถ์นิโคไล หรือโบสถ์นิโคลัส ซากสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ หลังจากถูกทำลายในสงคราม โลกครั้งที่ 2 โบสถ์แห่งนี้ได้สงวนเอาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนความจำแก่คนรุ่นหลัง, โบสถ์มิคาเอล (St. Mich-aelis Church) เป็นหนึ่งในโบสถ์นิกายโปรแตสแตนท์ เป็นสถาปัตยกรรมบาร็อค ได้ชื่อว่าโบสถ์บาร็อคที่สวยที่สุดทางเหนือของเยอรมนี ย่านHafen city เขตท่าเรือใหม่ และย่านโกดังชไปเคอชตัท (Speicherstadt) เขตคลัง สินค้าที่ไดรับการยอมรับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ภายในเขตท่าเรือฮัมบูร์ก สมกับที่เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและใหญ่ติดอันดับโลก ย่านซังท์เพาลี (St. Pauli) อีกหนึ่งย่านที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นย่านเก่าแก่ที่สามารถย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 17 เป็นศูนย์กลางการพักผ่อนหย่อนใจ และสวนสนุก ปัจจุบันย่านซังท์เพาลีเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะย่านบันเทิงยามราตรีที่ชื่อ รีพเพอร์บาห์น (Reeperbahn) หรือถิ่นโคมแดงของฮัมบูรก์ อีกทั้งยังมีย่านช้อปปิ้งชื่อดัง อัลสเตอร์อาร์คาเดน (Alsterarkaden) และถนนมองเคเบิร์ก (Monckbegerstrasse) ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN HAMBURG BERLINER หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ฮัมบวร์ค – เบอร์ลิน - กำแพงเบอร์ลิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่กรุงเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของประเทศเยอรมัน หนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชมอนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน (The Berlin Wall) เข้าสู่อีสต์-ไซด์-แกลลอรี่ ที่ทิ้งร่องรอยของกำแพงเบอร์ลิน ฉากต่างๆที่เกิดจากการพลัดพรากของเหตุการณ์วันที่ 13 สิงหาคม 1961 วันเริ่มการสร้างกำแพงที่มีความยาวกว่า 100 ไมล์ สูง 4 เมตร ถูกถ่ายทอดเป็นภาพวาดที่เกิดจากศิลปินกว่า 118 ท่านบนซากกำแพงกว่า 1,200 หลา ที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆแทนคำพูดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเป็นภาพเขียนศิลปะที่ยาวที่สุดในโลก นำท่านชมเช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) ซึ่งเป็นเขตพรมแดนการปกครองระหว่างอเมริกันและรัสเซีย จากนั้นไปชมเบอร์ลินโดม มหาวิหารโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ แล้วพาท่านไปถ่ายรูปกับประตูบันเดนบรูก (Brandenburg) ประตูสัญลักษณ์ของเมืองด้านบนเป็นรูปปั้นของเทพีแห่งชัยชนะสีทองเด่นตระหง่าน และพลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปกับอาคารไรช์สตัทด์ อาคารที่ใช้เป็นรัฐสภาแห่งเยอรมนี สร้างขึ้นด้วยศิลปะอิตาเลียนเรอเนสซองส์ ในปี 1884-1894 อาคารรัฐสภาแห่งนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ครั้งสาธารณะรัฐไวมาร์
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก ESTREL HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่กรุงเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของประเทศเยอรมัน หนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านชมอนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน (The Berlin Wall) เข้าสู่อีสต์-ไซด์-แกลลอรี่ ที่ทิ้งร่องรอยของกำแพงเบอร์ลิน ฉากต่างๆที่เกิดจากการพลัดพรากของเหตุการณ์วันที่ 13 สิงหาคม 1961 วันเริ่มการสร้างกำแพงที่มีความยาวกว่า 100 ไมล์ สูง 4 เมตร ถูกถ่ายทอดเป็นภาพวาดที่เกิดจากศิลปินกว่า 118 ท่านบนซากกำแพงกว่า 1,200 หลา ที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆแทนคำพูดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเป็นภาพเขียนศิลปะที่ยาวที่สุดในโลก นำท่านชมเช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) ซึ่งเป็นเขตพรมแดนการปกครองระหว่างอเมริกันและรัสเซีย จากนั้นไปชมเบอร์ลินโดม มหาวิหารโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ แล้วพาท่านไปถ่ายรูปกับประตูบันเดนบรูก (Brandenburg) ประตูสัญลักษณ์ของเมืองด้านบนเป็นรูปปั้นของเทพีแห่งชัยชนะสีทองเด่นตระหง่าน และพลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปกับอาคารไรช์สตัทด์ อาคารที่ใช้เป็นรัฐสภาแห่งเยอรมนี สร้างขึ้นด้วยศิลปะอิตาเลียนเรอเนสซองส์ ในปี 1884-1894 อาคารรัฐสภาแห่งนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ครั้งสาธารณะรัฐไวมาร์
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก ESTREL HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 เบอร์ลิน – พอทสดัม –พระราชวังซ็องซูซี- เบอร์ลิน – สนามบิน – เวียนนา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำเดินทางสู่เมืองพอทสดัม (Potsdam) เมืองหลวงของรัฐบรันเดนบูร์ก อดีตที่ประทับของกษัตริย์และเจ้าผู้ครองเยอรมันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เมืองศูนย์รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญศิลปะแขนงต่างๆ นำท่านเข้าชมความงามของพระราชวังซ็องซูซี (Sanssouci Palace) เป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซีย สร้างขึ้นในศิลปะแบบโรโคโค โดยสถาปนิกชื่อ จอร์จ เวนซเลาส์ ฟอน คโนเบิลสดอร์ฟฟ์ เป็นพระราชวังที่พระเจ้าฟรีดริชโปรดปรานมาประทับในฤดูร้อน และใช้เป็นที่หลบจากความวุ่นวายในพระราชพิธีต่างๆที่เบอร์ลิน จึงเป็นที่มาของชื่อพระราชวังที่แปลว่า “ไกลกังวล” พระราชวังเป็นอาคารชั้นเดียวที่ประกอบไปด้วยห้องต่างๆเพียง 10 ห้อง หลังจากหมดรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริช พระราชวังซองส์ซูซี ยังเป็นที่โปรดปรานของเจ้านายเยอรมันจนเมื่อราชวงศ์โฮเฮ็นซอลเล็นมาสิ้นสุดลงเมื่อปี ค.ศ. 1918 และหลังจากการรวมตัวระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกในปี ค.ศ. 1990 ร่างของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 ก็ถูกนำกลับมาฝังบนเนินที่ซ็องซูซีตามพระราชประสงค์เดิมของพระองค์ก่อนที่จะเสด็จสวรรคต พระราชวังซ็องซูซีและอุทยานได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1990 ภายใต้ชื่อว่า "พระราชวังและสวนแห่งพอทสดัมและเบอร์ลิน”
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet Berlin ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
นำเดินทางสู่สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
19.25 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 236
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายนจะออกเดินทางเวลา 19.35 น. และไปถึงเวียนนาเวลา 20.55 น. ***
20.45 น.
เดินทางถึงกรุงเวียนนา รอเปลี่ยนเครื่อง
23.20 น.
ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน OS025
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายนจะออกเดินทางเวลา 23.20 น. และไปถึงกรุงเทพเวลา 14.20 น. ***
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำเดินทางสู่เมืองพอทสดัม (Potsdam) เมืองหลวงของรัฐบรันเดนบูร์ก อดีตที่ประทับของกษัตริย์และเจ้าผู้ครองเยอรมันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เมืองศูนย์รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญศิลปะแขนงต่างๆ นำท่านเข้าชมความงามของพระราชวังซ็องซูซี (Sanssouci Palace) เป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซีย สร้างขึ้นในศิลปะแบบโรโคโค โดยสถาปนิกชื่อ จอร์จ เวนซเลาส์ ฟอน คโนเบิลสดอร์ฟฟ์ เป็นพระราชวังที่พระเจ้าฟรีดริชโปรดปรานมาประทับในฤดูร้อน และใช้เป็นที่หลบจากความวุ่นวายในพระราชพิธีต่างๆที่เบอร์ลิน จึงเป็นที่มาของชื่อพระราชวังที่แปลว่า “ไกลกังวล” พระราชวังเป็นอาคารชั้นเดียวที่ประกอบไปด้วยห้องต่างๆเพียง 10 ห้อง หลังจากหมดรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริช พระราชวังซองส์ซูซี ยังเป็นที่โปรดปรานของเจ้านายเยอรมันจนเมื่อราชวงศ์โฮเฮ็นซอลเล็นมาสิ้นสุดลงเมื่อปี ค.ศ. 1918 และหลังจากการรวมตัวระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกในปี ค.ศ. 1990 ร่างของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 ก็ถูกนำกลับมาฝังบนเนินที่ซ็องซูซีตามพระราชประสงค์เดิมของพระองค์ก่อนที่จะเสด็จสวรรคต พระราชวังซ็องซูซีและอุทยานได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1990 ภายใต้ชื่อว่า "พระราชวังและสวนแห่งพอทสดัมและเบอร์ลิน”
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet Berlin ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
นำเดินทางสู่สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
19.25 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 236
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายนจะออกเดินทางเวลา 19.35 น. และไปถึงเวียนนาเวลา 20.55 น. ***
20.45 น.
เดินทางถึงกรุงเวียนนา รอเปลี่ยนเครื่อง
23.20 น.
ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน OS025
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายนจะออกเดินทางเวลา 23.20 น. และไปถึงกรุงเทพเวลา 14.20 น. ***
วันที่ 7 กรุงเทพฯ
15.20 น.
คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ