โปรแกรม 10 วัน 7 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
22.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
วันที่ 2 กรุงเทพฯ – เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – บูดาเปสต์ - ล่องเรือแม่น้ำดานูบ
01.30 น.
ออกเดินทางสู่เวียนนา โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 936
07.00 น.
ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั๋วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั๋วโมงในวันที่ 31 มีนาคม 2562) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นเชิญช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯ9ฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท ในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มี อารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด นอกจากนี้ท่านจะได้ชม สะพานเชน สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ โดยนาย WILLIAM TIERNEY CLARK วิศวกรชาวอังกฤษ เหล็กทุกชิ้นที่ใช้ในการสร้างได้ถูกนำมาจากประเทศอังกฤษเช่นกัน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดุหนาว น้ำในแม่น้ำอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 5 ยูโรต่อท่าน)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ซุปกูลาซหมู)
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก ACHAT PREMIUM H. BUDAPEST หรือเทียบเท่า
ออกเดินทางสู่เวียนนา โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 936
07.00 น.
ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั๋วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั๋วโมงในวันที่ 31 มีนาคม 2562) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นเชิญช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯ9ฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท ในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มี อารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด นอกจากนี้ท่านจะได้ชม สะพานเชน สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ โดยนาย WILLIAM TIERNEY CLARK วิศวกรชาวอังกฤษ เหล็กทุกชิ้นที่ใช้ในการสร้างได้ถูกนำมาจากประเทศอังกฤษเช่นกัน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดุหนาว น้ำในแม่น้ำอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 5 ยูโรต่อท่าน)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ซุปกูลาซหมู)
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก ACHAT PREMIUM H. BUDAPEST หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 บูดาเปสต์ – บราติสลาวา - Outlet – เบอร์โน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ แล้วชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างในสไตล์นีโอ-โกธิก หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่ 11 อยู่หน้า ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้อย่างดีป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปาร์นดอร์ฟ เพื่อนำท่านสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย *** เนื่องจาก OUTLET จะปิดทำการในวันอาทิตย์ ถ้าหากคณะใดตรงกับวันอาทิตย์ในวันนั้น ทางบริษัทขอสลับโปรแกรมไปในวันอื่นไปแทน*** จากนั้นนำเดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัค(Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา(Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นเดินทางสู่เมืองเบอร์โน (Brno) เมืองใหญ่อันดับสองประเทศสาธารณรัฐเช็ก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BRNO หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ แล้วชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างในสไตล์นีโอ-โกธิก หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่ 11 อยู่หน้า ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้อย่างดีป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปาร์นดอร์ฟ เพื่อนำท่านสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย *** เนื่องจาก OUTLET จะปิดทำการในวันอาทิตย์ ถ้าหากคณะใดตรงกับวันอาทิตย์ในวันนั้น ทางบริษัทขอสลับโปรแกรมไปในวันอื่นไปแทน*** จากนั้นนำเดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัค(Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา(Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นเดินทางสู่เมืองเบอร์โน (Brno) เมืองใหญ่อันดับสองประเทศสาธารณรัฐเช็ก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BRNO หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 เบอร์โน – พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ – คราคูฟ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz concentration camps) ประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นค่ายกักกันและค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันแห่งนี้สะท้อนความน่าสยดสยองและความทารุณโหดร้ายของสงคราม ซึ่งเริ่มจากเยอรมันเข้ายึดโปแลนด์ได้ในปลายปี 1939 และหาค่ายกักกันเชลยศึกต่างๆ จนมาพบสถานที่ที่รัฐบาลโปแลนด์ต้องการก่อสร้างเป็นสถานที่คุมขังนักโทษทางการเมือง จึงได้ดัดแปลงตามความต้องการของนาซีและเริ่มต้นใช้ปีค.ศ.1940 เป็นต้นมา ท่านจะได้เห็นภาพถ่ายต่าง ๆ ของค่ายกักกัน รวมทั้งของจริงที่มีการเก็บรักษาภายในตึกต่างๆ ถึง 20 อาคาร และท่านจะได้เห็นของใช้ต่างๆของเชลยชาวยิวที่ถูกหลอกให้มาอยู่ ที่นี่ อาทิ กระเป๋าเดินทาง รองเท้า แปรงสีฟัน หวี และเส้นผมที่ว่ากันว่ามี น้ำหนักรวมกว่า 7 ตัน และชมห้องอาบน้ำ ห้องที่พวกนาซีใช้สำหรับกำจัดเชลยโดยใช้แก๊สพิษสังหารหมู่ กล่าวกันว่าสถานที่นี้มีคนตาย กว่า 1.5 ล้านคน โดนเกือบทั้งหมดเป็นชาวยิว
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางไปยังเมืองคราคูฟ (Krakow) โดยเมืองคราคูฟนั้นเป็น บ้านเกิดองค์สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 อดีตเมืองหลวงของโปแลนด์ในปีค.ศ. 1978 คราคูฟก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีอาคารบ้านเรือนที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมทุกยุคทุกสมันตั้งแต่ โรมาเนสก์ กอธิค เรอเนสซองส์ บาร็อก ร็อคโคโค จนถึงนีโอคลาสสิค และอาร์ตนูโว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL CENTRUM HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz concentration camps) ประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นค่ายกักกันและค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันแห่งนี้สะท้อนความน่าสยดสยองและความทารุณโหดร้ายของสงคราม ซึ่งเริ่มจากเยอรมันเข้ายึดโปแลนด์ได้ในปลายปี 1939 และหาค่ายกักกันเชลยศึกต่างๆ จนมาพบสถานที่ที่รัฐบาลโปแลนด์ต้องการก่อสร้างเป็นสถานที่คุมขังนักโทษทางการเมือง จึงได้ดัดแปลงตามความต้องการของนาซีและเริ่มต้นใช้ปีค.ศ.1940 เป็นต้นมา ท่านจะได้เห็นภาพถ่ายต่าง ๆ ของค่ายกักกัน รวมทั้งของจริงที่มีการเก็บรักษาภายในตึกต่างๆ ถึง 20 อาคาร และท่านจะได้เห็นของใช้ต่างๆของเชลยชาวยิวที่ถูกหลอกให้มาอยู่ ที่นี่ อาทิ กระเป๋าเดินทาง รองเท้า แปรงสีฟัน หวี และเส้นผมที่ว่ากันว่ามี น้ำหนักรวมกว่า 7 ตัน และชมห้องอาบน้ำ ห้องที่พวกนาซีใช้สำหรับกำจัดเชลยโดยใช้แก๊สพิษสังหารหมู่ กล่าวกันว่าสถานที่นี้มีคนตาย กว่า 1.5 ล้านคน โดนเกือบทั้งหมดเป็นชาวยิว
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางไปยังเมืองคราคูฟ (Krakow) โดยเมืองคราคูฟนั้นเป็น บ้านเกิดองค์สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 อดีตเมืองหลวงของโปแลนด์ในปีค.ศ. 1978 คราคูฟก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีอาคารบ้านเรือนที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมทุกยุคทุกสมันตั้งแต่ โรมาเนสก์ กอธิค เรอเนสซองส์ บาร็อก ร็อคโคโค จนถึงนีโอคลาสสิค และอาร์ตนูโว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL CENTRUM HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 เหมืองเกลือเวียลิซก้า – เชสโตโซว่า – แบล็คมาดอนน่า - วรอตสวัฟ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่เหมืองเกลือเวียลิซก้า (Wieliczka Salt Mine) ตั้งอยู่ที่เมืองวิลิชก้า เหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดของโปแลนด์แห่งนี้มีประวัติการทำเหมืองยาวนานกว่า 1,000 ปี ถือเป็นเหมืองใต้ดินที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านลงลิฟท์สู่ใต้ดินของเหมืองเกลือ ที่มีขนาดใหญ่มาก แบ่งเป็น 9 ชั้น ลึกลงจากพื้นดินถึง 327 เมตร ยาวกว่า 300 กิโลเมตร ภายในเหมืองห้องซึ่งสร้างและแกะสลักจากเกลือทั้งหมด โดยสมัยก่อนเกลือมีค่าดุจทองคำ เพราะใช้ในการถนอมอาหาร ชมความงามของทะเลเกลือใต้พื้นดิน ซึ่งท่านไม่เคยได้เห็นที่ใดมาก่อน โดยเหมืองเกลือในเมืองวีลิซกา องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 1988 อีกด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเชสโตโซว่า (Czestochowa) เป็นเมืองศูนย์กลางของผู้แสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป คริสต์ศาสนิกชนกว่า 4-5 ล้านคน เพื่อเข้าบูชาเพื่อขอพรจากแบล็คมาดอนน่า (Black Madonna) ณ อารามจัสนากอร่า (Jasna Góra Monastery) รูปพระแม่มาเรียสีดำ ศูนย์รวมจิตใจของชาวคาทอลิก กล่าวกันว่าสีที่ใช้วาดมานานกว่า 600 ปีทำให้รูปพระแม่เป็นสีดำ ที่รอยบากที่พระพักตร์ ซึ่งพวกต่อต้านศาสนาต้องการทำลาย อารามแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกทำลาย ในสงครามต่างๆอย่างน่าอัศจรรย์ จนกลายเป็นปาฎิหารย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง วรอตสวัฟ (Wroclaw) เมืองมีความหลากหลายและการเปี่ยมล้นด้วยวัฒนธรรมของประวัติศาสตร์ในเมืองนี้ เป็นดังสะพานเชื่อม ที่เชื่อมระหว่างคนในแต่ละรุ่น แต่ละวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เป็นแบบเมืองที่ทันสมัยของเมืองใหญ่ ที่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ชีวิตที่เต็มด้วยวัฒนธรรมและการศึกษา
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่เหมืองเกลือเวียลิซก้า (Wieliczka Salt Mine) ตั้งอยู่ที่เมืองวิลิชก้า เหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดของโปแลนด์แห่งนี้มีประวัติการทำเหมืองยาวนานกว่า 1,000 ปี ถือเป็นเหมืองใต้ดินที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านลงลิฟท์สู่ใต้ดินของเหมืองเกลือ ที่มีขนาดใหญ่มาก แบ่งเป็น 9 ชั้น ลึกลงจากพื้นดินถึง 327 เมตร ยาวกว่า 300 กิโลเมตร ภายในเหมืองห้องซึ่งสร้างและแกะสลักจากเกลือทั้งหมด โดยสมัยก่อนเกลือมีค่าดุจทองคำ เพราะใช้ในการถนอมอาหาร ชมความงามของทะเลเกลือใต้พื้นดิน ซึ่งท่านไม่เคยได้เห็นที่ใดมาก่อน โดยเหมืองเกลือในเมืองวีลิซกา องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 1988 อีกด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเชสโตโซว่า (Czestochowa) เป็นเมืองศูนย์กลางของผู้แสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป คริสต์ศาสนิกชนกว่า 4-5 ล้านคน เพื่อเข้าบูชาเพื่อขอพรจากแบล็คมาดอนน่า (Black Madonna) ณ อารามจัสนากอร่า (Jasna Góra Monastery) รูปพระแม่มาเรียสีดำ ศูนย์รวมจิตใจของชาวคาทอลิก กล่าวกันว่าสีที่ใช้วาดมานานกว่า 600 ปีทำให้รูปพระแม่เป็นสีดำ ที่รอยบากที่พระพักตร์ ซึ่งพวกต่อต้านศาสนาต้องการทำลาย อารามแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกทำลาย ในสงครามต่างๆอย่างน่าอัศจรรย์ จนกลายเป็นปาฎิหารย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง วรอตสวัฟ (Wroclaw) เมืองมีความหลากหลายและการเปี่ยมล้นด้วยวัฒนธรรมของประวัติศาสตร์ในเมืองนี้ เป็นดังสะพานเชื่อม ที่เชื่อมระหว่างคนในแต่ละรุ่น แต่ละวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เป็นแบบเมืองที่ทันสมัยของเมืองใหญ่ ที่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ชีวิตที่เต็มด้วยวัฒนธรรมและการศึกษา
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 วรอตสวัฟ – ปราก – สะพานชาร์ล
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเที่ยวชมเมืองปราก นำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ จากนั้นนำท่านเดินสู่ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง ให้เวลาท่านอิสระเดินเล่น และช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมย่านเมืองเก่า
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก OCCIDENTAL PRAHA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเที่ยวชมเมืองปราก นำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ จากนั้นนำท่านเดินสู่ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง ให้เวลาท่านอิสระเดินเล่น และช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมย่านเมืองเก่า
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก OCCIDENTAL PRAHA หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 ปราสาทปราก - เชสกี้ ครุมลอฟ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำชมปราสาทปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับมหาวิหารเซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอณุญาตให้เข้าชม) แล้วถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) นำชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก นำชมปราสาทครุมลอฟ (Krumlov) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปร๊าก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เป็ดสไตล์โบฮิเมียน)
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MLYN HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำชมปราสาทปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับมหาวิหารเซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอณุญาตให้เข้าชม) แล้วถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) นำชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก นำชมปราสาทครุมลอฟ (Krumlov) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปร๊าก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เป็ดสไตล์โบฮิเมียน)
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MLYN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 8 เชสกี้ ครุมลอฟ – ฮัลสตัท – เวียนนา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางต่อสู่ สู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้แห่งออสเตรีย ชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (หมูทอดเวียนนา)
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE WESTBAHNHOF หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางต่อสู่ สู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้แห่งออสเตรีย ชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (หมูทอดเวียนนา)
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE WESTBAHNHOF หรือเทียบเท่า
วันที่ 9 เวียนนา – สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำเดินทางสู่สนามบินชเวทชาท กรุงเวียนนา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
13.30 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG 937
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำเดินทางสู่สนามบินชเวทชาท กรุงเวียนนา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
13.30 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG 937
วันที่ 10 กรุงเทพ
05.20 น.
เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ