เนปาล...สุขใจ....ในอ้อมกอดหิมาลัย6D5N

สถานที่ทัวร์:
เมืองโภครา…เสน่ห์แห่งผืนน้าและขุนเขา พร้อมล่องเรืองในทะเลสาบเฟว่าใสราวกระจกสะท้อน ลาตะวัน ณ นากาก๊อต..สวิตเซอร์แลนด์แห่งเนปาล ขุนเขา●ทะเลหมอก●อ้อมกอดหิมาลัย
ระยะเวลา:
6 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Thai Lion Air

เนปาล...สุขใจ....ในอ้อมกอดหิมาลัย6D5N6 วัน 5 คืน

฿0

ดอนเมือง-เนปาล

ออกจากดอนเมือง
11.50
ถึงเนปาล
14.00

เนปาล-ดอนเมือง

ออกจากเนปาล
15.00
ถึงดอนเมือง
19.30

โปรแกรม 6 วัน 5 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Lion Air

08.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1 (ผู้ โดย สายขาออก) ประตู 7 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระ
11.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองกาฐมัณฑุ KATHMANDU โดยสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบินที่ SL220 (ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) ***ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง***
***หมายเหตุ เวลาของประเทศเนปาล ช้ากว่าประเทศไทย 1. 15 ชั่วโมง***
14.00 น. ถึง...ท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ (Kathmandu) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนปาล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดด้วย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ เรียบร้อยแล้ว นำท่านชม เมืองกาฐมัณฑุ (Kathmandu) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนปาล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเพราะที่นี่คือจุดศูนย์รวมทั้งการค้า การเดินทาง วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สาคัญ ซึ่งเราจะเห็นโบราณสถานที่สวยงามตั้งอยู่ในเมืองกาฐมาณฑุมากมาย “หุบเขากาฐมาณฑุ” ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,336 เมตรเหนือระดับน้าทะเล จุดรวมแหล่งวัฒนธรรมเนวารีโบราณ สร้างอารยะธรรมที่สาคัญขึ้นบน 3 เมือง ซึ่งได้แก่ กรุงกาฐมาณฑุ ปาตัน และบัคตาปุูร์ นำท่านชมปศุปฏินารถ (Pashupatinath Temple) ที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าภูบาลสิงห์แห่งราชวงศ์มัลละ ในปี ค.ศ. 1696 เพื่อถวายองค์พระศิวะ ในภาคองค์ปศุปติ หรือ เจ้าแห่งเวไนยสัตว์ และที่สาคัญคือ วัดปศุปตินาถได้ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกแล้วในปี พ.ศ. 2522…วัดนี้มีสัญลักษณ์ของเทพเจ้า “ตรีมูรติ” อยู่มากมาย ซึ่งหมายถึงพระพรมเป็นผู้สร้าง พระวิษณุหรือพระนารายณ์เป็นผู้รักษา และพระศิวะเป็นผู้ทำลาย โดยเฉพาะศิวะลึงค์ เป็นเครื่องหมายบุรุษเพศ สัญลักษณ์ของพระศิวะจะพบเห็นมากที่สุด เป็นวัดฮินดูที่สำคัญมากที่สุดในเนปาลตั้งอยู่ริมแม่น้าภัคมาติ ท่านมีโอกาสเห็นพิธีกรรมทางศาสนาฮินดู ณ วัดแห่งนี้
จากนั้น ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ย่านทาเมล (Thamel) เป็นศูนย์กลางความเจริญของกรุง
กาฐมาณฑุ สองข้างทางเต็มไปด้วย โรงแรมที่พักราคาถูก ร้านอาหารนานาชาติ ร้านขายของ ร้านอินเตอร์เน็ต ฯลฯ จึงเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงเนปาลเพื่อการวางแผนท่องเที่ยวในที่ต่างๆ นอกจากนี้ย่านทาเมลยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อ
โดยเฉพาะสินค้าจาพวกหัตถกรรมพื้นเมือง เครื่องประดับที่ทำจากหินต่างๆ และอุปกรณ์สำหรับการเดินปีน ลักษณะคล้ายกับถนนข้าวสารของเมืองไทย แต่สินค้าหลากหลายกว่าเยอะ ถนนข้าวสารบ้านเรา อาทิ ผ้าพาสมีน่า กระเป๋า เสื้อผ้า และของที่ระลึกอีกมากมาย ซึ่งสามารถต่อรองราคาได้

18.30 น. นำท่านรับประทานอาหารค่ำ พร้อมชมการแสดงทางวัฒนธรรมของชาวเนปาลี ลิ้มรสอาหารพิเศษ โม โม เกี๊ยวซ่าเนปาลแท้ๆ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศเนปาล
ค่ำ เข้าที่พัก THE FERN DESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า

06.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านบันดิปูร์ (Bandipur) โดยอยู่ห่างจากกรุงกาฐมัณฑุ ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 1 4 3 กิโลเมตร (ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) "บันดิปูร์" (Bandipur) หมู่บ้านบันดิปูร์ หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์ของชาว ฮินดู หมู่บ้านท่องเที่ยวเล็กๆ แต่มากไปด้วยเสน่ห์ ของประเพณี วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันบันดิปูร์ แปลเป็นไทยง่ายๆก็คือเมืองบัณฑิต หรือเมืองของผู้รู้ หมู่บ้านบนยอดเขา ท่ามกลางขุนเขาที่รายล้อม หมู่บ้านบันดิปูร์ ตั้งอยู่ บนระดับความสูง 1,030 เมตร โดยบริเวณรอบๆหมู่บ้านนั้นโดด เด่นไปด้วยทัศนียภาพที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและม่านหมอก รวมไปถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาหิมาลัยที่สามารถ มองเห็นจากตัวหมู่บ้านได้ อย่างชัดเจน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ รีสอร์ท
จากนั้น อิสระ เดินชมทิวทัศน์ในหมู่บ้านตามอัธยาศัย….การไปสำรวจ หมู่บ้านโดยเริ่มต้นที่ถนนสายหลักที่สองข้างทางเต็มไปด้วย อาคารบ้านเรือนสูง 2-3 ชั้น ที่ตั้งเรียงรายไปตลอดสองข้างทาง ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่า ครั้ง หนึ่งหมู่บ้านเล็กแห่งนี้ ได้เคยเป็นเมืองการค้าโบราณที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน

ค่ำ รับประทานอาหารค่า ณ รีสอร์ท
นำท่านเข้าสู่ที่พัก BANDIPUR MTN RESORT หรือเทียบเท่า

06.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ รีสอร์ท
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ “เมืองโภครา” โดยรถโค้ชปรับอากาศ (ประมาณ 4 ชั่วโมง) ระหว่างทางท่านจะได้เห็น ทิวทัศน์ที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวชนบทในประเทศเนปาลเส้นทางสายนี้มีชื่อเสียงมากในด้านความงดงามทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบเดินทางโดยรถมากกว่าทางเครื่องบิน “หุบเขาโภครา” สูงกว่า ระดับน้าทะเล 900 เมตร และโอบล้อมไปด้วยทิวเขาและป่าที่เขียวขจีเป็นทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด จึงมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร ขึ้นไปท่านจะได้เห็น เทือกเขาอานาปุระ (ANNAPURNA และยอดเขาหางปลา (มัจฉาปูร์ชเร MACHHAPUCHHRE) ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตรเมื่อได้สัมผัสยากนักที่จะลืมเลือนและน่าประทับใจในโภครายามเย็น โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ทะเลสาบมีร้านอาหารและร้านค้ากระจัดกระจายอยู่แบบเรียบง่ายและเป็นกันเอง ไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี

เที่ยง ถึง..หุบเขาโภครา รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมความงดงามของหุบเขา โภครา หรือโพคารา (Pokhara Valley) เป็นเมืองแห่งมนต์ เสน่ห์ ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขาอรรณาปูรณะ ชม น้ำตกเดวิด “DAVI’S FALL” ที่มหัศจรรย์ ไหลลงเหวลึก ต้องก้มมองซึ่งตั้งชื่อตามนายเดวิทชาวสวิสที่ตกลงไปตายเนื่องจากโดนกระแสน้าพัด
ชม ศูนย์อพยพชาวทิเบต “TIBETAN REFUGEE CAMP” สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวทิเบตที่อพยพมาอยู่ทางตอนเหนือของเนปาล นอกจากนี้ท่านยังจะได้ ชมการทอพรมด้วยมืออิสระให้ท่านได้ ชมวิวเมืองโภคราและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านล่องเรือพายในทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้าจืดขนาดใหญ่ ภาพทะเลสาบความงามของเฟวาสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเรที่มีรูปร่างคล้ายหางปลานั้น เป็นภาพที่มีมนต์ขลังยิ่งนัก ตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี ซึ่งมีสถูปสีขาวชื่อวัดบาลาฮีลอยเด่นตัดกับพื้นน้าสีเขียวมรกต นำท่านสักการะ วัดบาลาฮี (Barahi Temple)วัดที่มีเทพธิดาอจิมา เทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองโภครา ทุกวันเสาร์จะมีการบูชายัญสัตว์แด่เทพธิดาลังที่สุด จากนั้น อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัยในโภครา ยามเย็น บริเวณรอบๆทะเลสาบมีร้านอาหารและร้านค้ากระจัดกระจายอยู่แบบเรียบง่ายและเป็นกันเองไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี
19.00 น. รับประทานอาหารค่า ณ โรงแรม HOTEL DA YATRA หรือเทียบเท่า

04.00น.เดินทางไป ซางรางก๊อต “SARANGKOT เปลี่ยนเป็นรถตู้ คันละประมาณ 7-8ท่าน/คัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30นาที ” จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 5 กม.เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่ท่านจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นเห็นแสงสีทองตัดกับยอดเขาหางปลาและเทือกเขาอานาปูระได้อย่างสวยงามยิ่ง พร้อมจิบชากาแฟอุ่นๆในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะอย่างสบายอารมณ์...
07.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (บุฟเฟต์นานาชาติ)
08.00 น. เดินทางสู่สนามบินภายในประเทศ เมืองโภครา เพื่อเดินทางสู่ เมืองกาฐมัณฑุ
09.45 น. เดินทางสู่เมืองกาฐมัณฑุ โดยสายการบิน โดยสายการบิน BUDDHA AIRLINES เทียวบิน 606 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
10.25 น. ถึงเมืองกาฐมัณฑุ หลังตรวจรับสาภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
**** หมายเหตุ !!! สายการบิน ในประเทศ BUDDHA AIRLINES สามารถโหลดสัมภาระได้ ท่านละไม่เกิน 15 กิโลกรัม ไม่จำกัดจำนวนใบ ท่านใดที่สัมภาระเกิน 15 กิโลกรัม สามารถนำกระเป๋าใบเล็ก เพื่อแบ่งสัมภาระ ที่ไม่จำเป็น ฝากไว้บนรถบัสได้ ***

12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
13.00 น นำท่านชม "ภัคตะปูร์" (Bhaktapur) เมืองมรดกทางวัฒนธรรมแห่งหุบเขากาฐมาณฑุ ...เมืองภัคตะปูร์ เป็น 1 ใน 7 กลุ่ม ของมรดกทางวัฒนธรรม ในเขตหุบเขากาฐมาณฑุ (Kathmandu Valley) ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้รับการยกย่องให้ เป็นมรดกโลก ในปี 1979… เนื่องจากได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองโบราณที่มีความเก่าแก่ และมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และ ศิลปะวัฒนธรรมอันดีเยี่ยม.ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาล.... เมืองปักตะปูร์ หมายถึงเมืองแห่งความภักดีต่อพระเป็นเจ้า ที่มีความสำคัญและสวยงาม.......
นำท่านเข้ชมภายในตัวเมือง คือ "จัตุรัสบักตะปูร์ดูรบาร์" (Bhaktapur Durbar Square) สถานที่ท่องเที่ยวที่มี ความสาคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบักตะปูร์ เนื่องจากบริเวณจัตุรัสนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารและสิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมไปถึงสถานที่สาคัญๆของเมืองมากมาย ในอดีตเคยเป็นราชธานีในหุบเขา เป็นเมืองที่เจริญบนเส้นทางการค้าสู่ธิเบต ชมย่านเดอร์บาสแควร์ หรือย่านพระราชวังบักตาปูร์ อันเป็นที่ตั้งของวัง ชมพระราชวัง 55 พระแกล (หน้าต่าง), ประตูทองคา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงาม ชมลานสรงน้า หรือ ซุนดารี(Sundari) นาท่านเข้าชม วัดเนียตาโปลา(Nyatapola) เป็นศาสนสถานที่สูงที่สุดในเนปาล มีด้วยกัน 5 ชั้น สูง 98 ฟุต สองข้างบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นหินขนาด ใหญ่ สลักเป็นรูปสัตว ์ และเทพอารักขา เชื่อกันว่าปั้นแต่ละคู่มีอานาจหยุดสิ่งชั่วร้ายที่เมารุกราน วัดนี้ สร้างขึ้นถวายแด่เทพแห่งเนียตะโปลา ผู้ที่มีพลังสูงสุดหรือสิทธิลักษมี(Siddhi Lakshmi) ซึ่งเป็ นเทวี ลัทธิ ตันตระ พระเจ้าภูปฏินทรา มัลละ สร้างวัดนี้ในปี ค.ศ. 1702
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองนากาก็อต “NARKAKOT” (ประมาณ 1 ชม.) “เทือกเขานากาก๊อต ใน อ้อมกอดของหิมาลัย..เมืองที่ชมพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นได้ สวยงาม และเป็นจุดชมทัศนียภาพของ เทือกเขาหิมาลัยได้ อย่างชัดเจน นากาก็อต เป็นเมืองตากอากาศของชาวเนปาลี สัมผัสธรรมชาติเทือกเขา หิมาลัย รถไต่ระดับความสูงของเทือกเขาที่คดโค้งและมีทิวทัศน์นาคันบันไดที่สวยงามอย่างยิ่ง …ตะวันลา.. ที่ นากาก็อตหากอากาศดีจะสามารถเห็นยอดเขาเอเวอร์เรส (Mount Everest) ด้วย…ระหว่างท่านจะได้ ชมการปลูกผักทานาแบบขั้นบันได..พบกับเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันออกประกอบด้วยยอดเขา Ganesh, Langtang ฯลฯ เป็นแนวยาวนับร้อยกิโลเมตร ในระหว่างทาง......ชมพระอาทิตย์ตก พักโรงแรมบนเขานาการ์ก็อต 1 คืนนี้ด้วยความสูง 2,200 เมตรจากระดับน้าทะเล เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก

ค่ำ รับประทานอาหารค่า ณ โรงแรม และอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก ณ country villa resort หรือเทียบเท่า

ตื่นแต่เช้าตรู่ ชมพระอาทิตย์ รุ่งอรุณเหนือเทือกเขาหิมาลัยจากที่พักของท่าน หรือเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ถ้าทัศนะวิสัย ปลอดโปร่งท่านจะได้เห็นยอดเขา “เอเวอเรสท์ ” (MT.EVEREST) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก (สูง 8,848 เมตร) เปรียบได้ ว่าเป็น “มงกุฎของโลก” ณ ที่นี้ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นอันสดชื่นของธรรมชาติ ที่สะอาดบริสุทธิ์เหนือเทือกเขาหิมาลัย.... ท่านจะได้เห็นภูเขาเปลี่ยนสีทองเปล่งประกาย สวยงาม จนไม่อาจจะกระพริบตาได้ และที่นี่ยังสามารถมองเห็นภูเขาหิมาลัยโดยรอบซึ่งประกอบด้วยยอดเขา 5 ยอด จากจำนวนยอดเขา10 ยอดที่สูงที่ในโลกได้แก่ ยอดเขา เอเวอร์เรสท์ ( EVEREST) โลดเส (LHOTSE) โชยู (CHO YU) มาลาคู (MAKALA) และมานาสรู (MAMASLU ) *** หมายเหตุ ใน วันที่อากาศโปร่งใส่ท่านสามารถที่จะเห็นเทือกเขาหิมาลัยตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันออกถึง ตะวันตกเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันนั้นเป็นสำคัญ***
07.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.30 น. นำท่านเยือนเมืองปาทันหรือปาทาน เมืองเก่ามรดกโลก (Patan city) เป็นเมืองโบราณ สร้างใน สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ช่วงศตวรรษที่ 3 ปาตันได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุ ได้รับการขนานนามว่าเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) เป็นเมืองที่รู้จักกันในนามของเมืองแห่งศิลปะอีกด้วย โดยเฉพาะ ชื่อเสียงทางศูนย์กลางงานหัตถศิลป์ของชาวทิเบตอพยพ มีชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูป นับเป็นนครโบราณที่ยังมีชีวิตภายในเมืองเต็มไปด้วยวัดทางศาสนาฮินดูและสิ่งปลูกสร้างในพุทธศาสนา สืบเนื่องมาจากความหลากหลายของวัฒนธรรมในยุคกลางทาให้ทั้งศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธเฟื่องฟูในแถบนี้ เมืองปะฏันนี้ นับเป็นผลงานสถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองชิ้นเอกแบบเนวารี มีถนนโบราณตัดตามแนวเหนือ-ใต้ และ ตะวันออก-ตะวันตกแบ่งเมืองออกเป็น4 ส่วน โดยมีจัตุรัสปาตันดูร์บาร์ และพระราชวังปาตันเป็นศูนย์กลาง
นำท่านชมรูปปั้นของพระเจ้าภูปฏินทรามัลละ, ชม วิหารทองคำ และชมพระราชวังเก่าที่เป็นที่ทำพิธีเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์ในอดีต นำท่านชมวัดตะเลจูบาวานี (Teleju Bhawani) สร้างขี้นในปี ค.ศ. 1666 อุทิศให้กับเทพประจำราชวงศ์ มีเทวรูปศิวะและพระนางปารวตีประดับอยู่บนยอดทวารทอง
(ปัจจุบันถูกพวกฮิปปี้ ขโมยออกนอกประเทศไปแล้ว) ชมวัดกฤษณะ (Krishna Tempel) ตัววัดเป็นหินสร้างแบบซิกขาร์ (Shikhara / ศิขร) …ได้ เวลาอันสมควรนาท่านสู่ภัตตาคาร

12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้น นำท่านเข้าชม สยมภูวนาถ สวะยัมภูนาถ หรือวัดลิง (Swayambhunath) เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก กล่าวกันว่าน่าจะมีอายุถึง 2,000 ปีเลยทีเดียว
สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะในปี พ.ศ. 936 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรมหรือWisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง4 ด้าน ตั้งอยู่บนยอดเขาห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 3 กิโลเมตร ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ สูงประมาณ 77 เมตร เหนือระดับน้าทะเลของหุบเขากาฐมาณฑุ จึงทาให้ทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่แสนงดงาม สถูปแห่งนี้เป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับฮินดู โดยองค์การยูเนสโกได้ทาการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522
จากนั้น นำท่านเข้าชมเขตเมืองเก่านครกาฐมัณฑุ ที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในราชวงศ์ลิจฉวี ซึ่งขึ้นครองบัลลังก์ในปี ค.ศ. 300 ที่นี่เป็นศูนย์กลางของนครกาฐมัณฑุโบราณ นำท่านสู่ กาฐมาณฑุ ดูร์บาร์สแควร์ (Kathmandu Durbar Square) หรือเรียกว่า จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์สถานที่น่าสนใจที่ควรไปชมได้แก่ วัดตะเลชุ สร้างโดยกษัตริย์มเหนทรามัลละ (King Mahendra Malla) ในปี พ.ศ. 2092 และจัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย ชม “กาฐมณฑป” หรือ “เรือนไม้” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง อาคารไม้นี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 บนจุดที่เส้นทางการค้าสำคัญสองเส้นตัดกัน และใช้เป็นศูนย์กลางของชุมชนในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย การพัฒนาของตัวเมืองเกิดขึ้นในรัศมีรอบ ๆ พระราชวังเก่า ชมวัดกุมารี หรือกุมารีฆระ (Temple of Kumari or Kumari Ghar) หรือที่พานักเทพธิดาที่มีชีวิต (Living Goddess) ชาวเนปาลเชื่อกันว่ากุมารีคืออวตารของเทพธิดาพรมจรรย์ ชม วัดตะเลจู (Teleju Tempel) สร้างอุทิศให้กับองค์สำคัญประจำราชวงศ์คือเทวีตะเลจูบะวานี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไม่เปิดให้ผู้ใดเยี่ยมกราย นอกจากองค์กษัตริย์และนักบวชที่มีสมณะศักดิ์สูง ชาวฮินดูสามารถเข้าทาพิธีได้ปีละหนึ่งครั้ง ในช่วงดุรกาปูจา (Durga Puja) ระหว่างเทศกาลดาเซยน์ (Dasain) นำท่านชม ประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka) ประตูที่เป็นที่ตั้งของพระองค์เทพหนุมาน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1672 ตัวเทพได้รับหารเจิมชาดเสียจนเป็นสีแดงเข้มใต้ร่มฉัตร

ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารฮิมไทย (อาหารไทย)
เข้าที่พัก THE FERN DESIDENCY HOTEL

09.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านสู่ มหาเจดีย์โพธิ์นาถ หรือพุทธนาถ (Boudhanath) เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาลบนเจดีย์มีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (Wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ บริเวณรอบวัดเป็นแหล่งชุมชนของชาวพุทธมหายานจากทิเบตที่อพยพเข้ามาเมื่อปีพ.ศ. 2502 จึงจะเห็นพระทิเบตและคนทั่วไปยืนแกว่งล้อมนต์พร้อมกับสวดมนต์อยู่ทั่วไป องค์การยูเนสโกขึ้นได้ทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2522
11.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ
15.00 น. เหิรฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL221
***ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง***
19.30 น. ถึง ท่าอากาศยานดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ และความประทับใจไม่รู้ลืม...

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา