โปรแกรม 4 วัน 3 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Lion Air
วันที่ 1 สนามบินดอนเมือง – เมืองกาฐมัณฑุ –เทือกเขานากาโก๊ต (Nagarkot Mountain) อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
07.30น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1(ผู้โดยสายขาออก) ประตู 7 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระ
11.50 น. เดินทางสู่ เมืองกาฐมัณฑุ โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL220
***ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง***
14.00 น. ถึงท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว (เวลาที่เนปาล ช้าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 15 นาที) เป็นประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาหิมาลัย และถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาสูงมากมาย นำคณะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัว นครกาฐมัณฑุ และให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความงามของสองข้างทางในเมืองหลวงของเนปาล…
นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขานากาโก๊ต(Nagarkot Mountain) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดขอบกระทะของหุบเขากาฐมันฑุ บนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,200 เมตร ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งท่านจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม และแสนจะโรแมนติกของเทือกเขาหิมาลัยตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันออกจรดฝั่งตะวันตก ซึ่งมีแนวทิวเขายาวนับพันกิโลเมตร โดยในวันที่อากาศปลอดโปร่ง ท่านอาจจะได้เห็นภาพที่สวยงามของ “ยอดเขา เอเวอร์เรส” ได้อย่างชัดเจน ถึงที่พักเข้าที่พักเหนือยอดเขาชมยามเย็นอันสวยงามเมื่อสีสันของท้องฟ้าสีครามเข้มของฤดูหนาวค่อยเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ ทอแสงเรืองอร่ามไปท่ามกลางเทือกเขาสูงที่รายรอบนากากอต สลับซับซ้อนสวยงามเหมือนยืนอยู่กลางมงกุฏเพชรตัดด้วยสีขาวของหิมะที่ยังคงเห็นเลือนลางแม้ยามรัตติกาลจะเริ่มคืบคลานเข้ามา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(1)ที่ ภัตตาคาร ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะสดชื่นและสบาย ท่านที่มีอารมณ์อันสุนทรีย์คืนนี้ไม่ควรพลาดโอกาสชมดาวเต็มท้องฟ้า เหนือยอดเขานากากอตที่พักที่สูงที่สุดในทริปนี้(สูง 2,164 เมตร)
พักที่ โรงแรม Niva Niwa Lodge หรือเทียบเท่า
11.50 น. เดินทางสู่ เมืองกาฐมัณฑุ โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL220
***ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง***
14.00 น. ถึงท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว (เวลาที่เนปาล ช้าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 15 นาที) เป็นประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาหิมาลัย และถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาสูงมากมาย นำคณะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัว นครกาฐมัณฑุ และให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความงามของสองข้างทางในเมืองหลวงของเนปาล…
นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขานากาโก๊ต(Nagarkot Mountain) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดขอบกระทะของหุบเขากาฐมันฑุ บนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,200 เมตร ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งท่านจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม และแสนจะโรแมนติกของเทือกเขาหิมาลัยตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันออกจรดฝั่งตะวันตก ซึ่งมีแนวทิวเขายาวนับพันกิโลเมตร โดยในวันที่อากาศปลอดโปร่ง ท่านอาจจะได้เห็นภาพที่สวยงามของ “ยอดเขา เอเวอร์เรส” ได้อย่างชัดเจน ถึงที่พักเข้าที่พักเหนือยอดเขาชมยามเย็นอันสวยงามเมื่อสีสันของท้องฟ้าสีครามเข้มของฤดูหนาวค่อยเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ ทอแสงเรืองอร่ามไปท่ามกลางเทือกเขาสูงที่รายรอบนากากอต สลับซับซ้อนสวยงามเหมือนยืนอยู่กลางมงกุฏเพชรตัดด้วยสีขาวของหิมะที่ยังคงเห็นเลือนลางแม้ยามรัตติกาลจะเริ่มคืบคลานเข้ามา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(1)ที่ ภัตตาคาร ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะสดชื่นและสบาย ท่านที่มีอารมณ์อันสุนทรีย์คืนนี้ไม่ควรพลาดโอกาสชมดาวเต็มท้องฟ้า เหนือยอดเขานากากอตที่พักที่สูงที่สุดในทริปนี้(สูง 2,164 เมตร)
พักที่ โรงแรม Niva Niwa Lodge หรือเทียบเท่า
วันที่ 2 บักตาปูร์-วิหารนาตโปลา-วัดปศุปฏินารถ-ตลาดทาเมล อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
05.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้าอันสดชื่น รับแสงแรกแห่งดวงอาทิตย์ ในวันที่อากาศดีท่านจะได้ชมความงดงามที่สุดจะบรรยายเมื่อแสงสีทองดังเส้นไหมค่อยทอแสงพ้นขอบเส้นเทือกเขาหิมาลัยอันสูงชันโดยรอบสุ่ท้องฟ้า ทอแสงสี้รุ้งกระทบกับแนวเส้นหิมะเหนือเทือกเขาสูงเกิดประกายสีรุ้งตลอดแนวเทือกเขาสวยงามากเพียงไม่นานเทือกเขาหิมาลัยทั้งสายก็แปรเปลี่ยนเหมือนดังมีใครนำผ้าทองผืนใหญ่มาปกคลุมไว้เกือบทั้งแนวเขา และค่อย ๆ แปรเปลี่ยนทีละน้อยเห็นปรกายสีขาวสดใสของหิมะที่ทับถมอยู่ หากท่านมีโอกาสท่านอาจจะได้ชมยอดเขาเอเวอร์เรสแม้จะเพียงจุดเล็ก ๆ แต่ก็ภาคภูมิใจที่ได้มาชม***(ที่นี่ถ้าท้องฟ้าสดในท่านจะสามารถเห็นยอดของเทือกเขาหิมาลัยอันประกอบไปด้วย ยอดเขา 5 ยอด จากจำนวนยอดเขา 10 ยอดที่สูงที่ในโลกได้แก่ ภูเขา เอเวอร์เรสท์ (EVEREST) โลดเส ( LHOTSE) โชยู( CHO YU) มาลาคู ( MAKALA) และ มานาสรู (MAMASLU) )
เช้า รับประทานอาหารเช้า(2)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่เมือง กาฐมัณฑุ อีกครั้งหนึ่งระหว่างทางจะนำท่านชม “เมืองบักตาปูร์” นครหลวงแห่งที่ 2 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนกับองค์กรสหประชาชาติเพื่อเป็นมรดกโลก เมืองนี้มีความงามด้านไม้แกะสลัก งานไม้ที่ขึ้นชื่อคือรูปสลักหน้าต่างเป็นรูปนกยูง ซึ่งตัวนกจะแกะให้นูนสูงจากตัวเนื้อไม้และโดยรอบยังฉลุลวดลวยต่าง ๆ เอาว้อีกด้วย นำท่านสู่ย่าน เขตเมืองเก่านำท่านชมพระราชวังโบราณ แห่งเมืองบักตาปูร์ ที่ได้สร้างตามแบบศิลปะแบเนปาลขนานแท้ ประทับใจไปกับความสวยโดเด่นของ ประตูทองคำ หน้าต่าง 55 พระแกลในแต่ละบานฉลุลวดลายโปร่งตามแบบอินเดีย ตัวพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกทำลายเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 1934 ต่อมาได้ถูกบูรณะขึ้นด้วยเงินทุนจากทาง UNESCO ตรงขอบประตูทางเข้าของพระราชวังมีการนำแผ่นทองคำมาห่อหุ้ม จนได้สมญานามว่าประตูทองคำ
แผ่นทองคำนี้มีการจำหลักรูปเทพเจ้าและของศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่เดินเข้าออก นำท่านเดินเข้าไปชมด้านในของตัวอาคาร ท่านจะพบประตูอีกบานหนึ่งซึ่งบนซุ้มประตูมีเครื่องและแกะสลักเป็นลวดลายอ่อนช้อยวิจิตรบรรจง ซึ่งมีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น สืบเนื่องจากเมื่อช่างผู้ทำได้ดสร็จแล้วพระราชาจะมีพระบัญชาให้ตัดมือทั้ง 2 ข้างทิ้ง และควักนัยต์ตาทั้ง 2 ของช่างผู้นั้นออก ถัดจากที่แห่งนี้ไม่ไกลจะมีห้องสรง ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “สระนาคบากศก์” ด้านบนจะมีพญานาคใหญ่แผ่เบี้ยออกเพื่อปกปักรักษาและอำนวยพรให้กับพระมหากษัตริย์ น้ำในสระนี้เล่ากันว่าเมื่อถึงฤดูหนาว น้ำในสระจะอุ่น เมื่อเข้าฤดูร้อนน้ำในสระจะเย็น นำท่านเดินออกจากตัวพระราชวังเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของ วิหารนาตโปลา ซึ่งมีความสูงถึง 98 ฟุต หรือประมาณ 30 เมตร ถือได้ว่าเป็นวิหารที่สูงที่สุดในประเทศเนปาล แต่ละชั้นของบันได จะมีรูปปั้นของเทพต่าง ๆ อาทิ พญาครุฑ, ยักษ์, คนทัณฑ์ เป็นต้น หากพอมีเวลานำท่านไปชม หมู่บ้านช่างปั้นหม้อ เพราะนอกจากเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องงานไม้แล้วเรื่องงานปั้นก็งดงามไม่แพ้กัน ให้ท่านได้ชมวัดพระแม่อุมาเทวี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในเนปาล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน(3)ที่ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ทางศาสนสถานฮินดูสำคัญวัดหนึ่ง ซึ่งชาวฮินดูที่พำนักในประเทศต่าง ๆ ต้องถือโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะมากราบนมัสการ เพื่อขอพร ณ ที่แห่งนี้เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก วัดนั้นคือ วัดปศุปฏินาถ(Pasupatinath) ทั้งนี้เนื่อง ด้วยเราซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนจึงไม่อาจได้รับอนุญาตให้เข้าชมความงามภายในได้ แต่เราสามารถจะได้ชมความงามบางส่วนจากภายนอก อีกทั้งท่านจะได้ชมพิธีกรรมที่ประกอบอยู่ภายนอกสถานที่แห่งนี้
จากนั้น นำท่านสู่ย่าน “ตลาดทาเมล” แหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองนานาชนิดที่ใหญ่ที่สุดขงนครหลวง อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้านานาชนิด เป็นของฝากที่ระลึกตามอัธยาศัย เช่น ลูกปัด, สร้อยคอที่ร้อยจากหินฒ ผ้าทอพื้นเมือง, พรมจากขนจามรี, ตุ๊กตาไม้แกะสลัก, เครื่องเขิน ฯลฯ หรือหากท่านชื่นชอบสินค้าเบรนด์เนมเชิญท่านช้อปปิ้งย่าน NEW ROAD ที่มีสินค้าชั้นนำของแท้จากทั่วทุกมุมโลกจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ อาทิ ผ้าตัดสูทจากอิตาลี, อังกฤษ และญี่ปุ่น กระเป๋าเดินทางชั้นนำอง Samsonite, Delsey แว่นตาจาก Dunhill, Roadastock ปากกาดูปองต์, มองบลังต์, น้ำหอม และเครื่องสำอางชั้นนำ จากยุโรป ฯลฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(4)ที่ ภัตตาคาร พร้อมทั้งชม การแสดงพื้นเมืองที่สวยงาม เป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารค่ำของท่าน
เข้าที่พัก โรงแรม Himalaya hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า(2)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่เมือง กาฐมัณฑุ อีกครั้งหนึ่งระหว่างทางจะนำท่านชม “เมืองบักตาปูร์” นครหลวงแห่งที่ 2 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนกับองค์กรสหประชาชาติเพื่อเป็นมรดกโลก เมืองนี้มีความงามด้านไม้แกะสลัก งานไม้ที่ขึ้นชื่อคือรูปสลักหน้าต่างเป็นรูปนกยูง ซึ่งตัวนกจะแกะให้นูนสูงจากตัวเนื้อไม้และโดยรอบยังฉลุลวดลวยต่าง ๆ เอาว้อีกด้วย นำท่านสู่ย่าน เขตเมืองเก่านำท่านชมพระราชวังโบราณ แห่งเมืองบักตาปูร์ ที่ได้สร้างตามแบบศิลปะแบเนปาลขนานแท้ ประทับใจไปกับความสวยโดเด่นของ ประตูทองคำ หน้าต่าง 55 พระแกลในแต่ละบานฉลุลวดลายโปร่งตามแบบอินเดีย ตัวพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกทำลายเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 1934 ต่อมาได้ถูกบูรณะขึ้นด้วยเงินทุนจากทาง UNESCO ตรงขอบประตูทางเข้าของพระราชวังมีการนำแผ่นทองคำมาห่อหุ้ม จนได้สมญานามว่าประตูทองคำ
แผ่นทองคำนี้มีการจำหลักรูปเทพเจ้าและของศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่เดินเข้าออก นำท่านเดินเข้าไปชมด้านในของตัวอาคาร ท่านจะพบประตูอีกบานหนึ่งซึ่งบนซุ้มประตูมีเครื่องและแกะสลักเป็นลวดลายอ่อนช้อยวิจิตรบรรจง ซึ่งมีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น สืบเนื่องจากเมื่อช่างผู้ทำได้ดสร็จแล้วพระราชาจะมีพระบัญชาให้ตัดมือทั้ง 2 ข้างทิ้ง และควักนัยต์ตาทั้ง 2 ของช่างผู้นั้นออก ถัดจากที่แห่งนี้ไม่ไกลจะมีห้องสรง ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “สระนาคบากศก์” ด้านบนจะมีพญานาคใหญ่แผ่เบี้ยออกเพื่อปกปักรักษาและอำนวยพรให้กับพระมหากษัตริย์ น้ำในสระนี้เล่ากันว่าเมื่อถึงฤดูหนาว น้ำในสระจะอุ่น เมื่อเข้าฤดูร้อนน้ำในสระจะเย็น นำท่านเดินออกจากตัวพระราชวังเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของ วิหารนาตโปลา ซึ่งมีความสูงถึง 98 ฟุต หรือประมาณ 30 เมตร ถือได้ว่าเป็นวิหารที่สูงที่สุดในประเทศเนปาล แต่ละชั้นของบันได จะมีรูปปั้นของเทพต่าง ๆ อาทิ พญาครุฑ, ยักษ์, คนทัณฑ์ เป็นต้น หากพอมีเวลานำท่านไปชม หมู่บ้านช่างปั้นหม้อ เพราะนอกจากเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องงานไม้แล้วเรื่องงานปั้นก็งดงามไม่แพ้กัน ให้ท่านได้ชมวัดพระแม่อุมาเทวี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในเนปาล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน(3)ที่ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ทางศาสนสถานฮินดูสำคัญวัดหนึ่ง ซึ่งชาวฮินดูที่พำนักในประเทศต่าง ๆ ต้องถือโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะมากราบนมัสการ เพื่อขอพร ณ ที่แห่งนี้เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก วัดนั้นคือ วัดปศุปฏินาถ(Pasupatinath) ทั้งนี้เนื่อง ด้วยเราซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนจึงไม่อาจได้รับอนุญาตให้เข้าชมความงามภายในได้ แต่เราสามารถจะได้ชมความงามบางส่วนจากภายนอก อีกทั้งท่านจะได้ชมพิธีกรรมที่ประกอบอยู่ภายนอกสถานที่แห่งนี้
จากนั้น นำท่านสู่ย่าน “ตลาดทาเมล” แหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองนานาชนิดที่ใหญ่ที่สุดขงนครหลวง อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้านานาชนิด เป็นของฝากที่ระลึกตามอัธยาศัย เช่น ลูกปัด, สร้อยคอที่ร้อยจากหินฒ ผ้าทอพื้นเมือง, พรมจากขนจามรี, ตุ๊กตาไม้แกะสลัก, เครื่องเขิน ฯลฯ หรือหากท่านชื่นชอบสินค้าเบรนด์เนมเชิญท่านช้อปปิ้งย่าน NEW ROAD ที่มีสินค้าชั้นนำของแท้จากทั่วทุกมุมโลกจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ อาทิ ผ้าตัดสูทจากอิตาลี, อังกฤษ และญี่ปุ่น กระเป๋าเดินทางชั้นนำอง Samsonite, Delsey แว่นตาจาก Dunhill, Roadastock ปากกาดูปองต์, มองบลังต์, น้ำหอม และเครื่องสำอางชั้นนำ จากยุโรป ฯลฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(4)ที่ ภัตตาคาร พร้อมทั้งชม การแสดงพื้นเมืองที่สวยงาม เป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารค่ำของท่าน
เข้าที่พัก โรงแรม Himalaya hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 โพธินาถ-วัดสวยมภูนารถ-จัตตุรัสดูบาร์ อาหาร (เช้า/-/เย็น)
โปรแกรมแนะนำ : สัมผัสเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอร์เรสต์อย่างใกล้ชิด ด้วยการขึ้นเครื่องบินชมเขาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด (Mountain sightseeing flight) เมื่อท่านได้มาเยือนประเทศเนปาลคุณจะมีโอกาสได้ขึ้นไปบนจุดสูงที่สุดและตระการตาที่สุดในโลก
Everest Scenic Mountain Flight หรือ นั่งเครื่องบินชมยอดเขา สัมผัสเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอร์เรสต์อย่างใกล้ชิด สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เมื่อท่านได้มาเยือนประเทศเนปาลคุณจะมีโอกาสได้ขึ้นไปบนจุดสูงที่สุดและตระการตาที่สุดในโลก (จ่ายเพิ่มท่านละ 230 USD )
เช้า รับประทานอาหารเช้า(5)ที่ โรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าชม วัดสวยมภูนารถ (SWAYAMBHUNATH) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาที่สำคัญ ตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันตกของเมืงอกาฐมัณฑุ โดยมีอายุมากกว่า 2,500 ปีมาแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดลิง (MONKEY TEMPLE) เพราะทั่วบริเวณวัดแห่งนี้เต็มไปด้วยลิงซึ่งจะลงมาเก็บเมล็ดข้าวที่ชาวเนปาลนำมาถวายที่วัดเป็นอาหารนมัสการเจดีย์สวยมภูนารท ซึ่งถือว่าเจดีย์นี้เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนปาล ที่ตัวเจดีย์ตรงบริเวณยอดฐานจะมีรูปดวงตาของพระพุทธเจ้า ชาวเนปาลมีความเชื่อที่ว่าพระเนตรของพระพุทธเจ้าจะยังคอยมองดูโลกมนุษย์และมีจุดเล็กๆตรงกลางระหว่างคิ้ว
ชาวเนปาล เชื่อว่าเป็นดวงตาที่ 3 ซึ่งหมายถึงดวงตาแห่งธรรม และเครื่องหมายที่ตรงจมูกคือเลข 1 โดยในเนปาลคือสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งหรือเอกภาพ…
จากนั้น นำท่านนมัสการ วัดพุทธนารถ (Bouddhanat) วัดนี้มีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ตั้งอยู่ในหมู่บ้านของชาวธิเบตที่ได้อพยพมา ภายนอกวัดโดยเฉพาะตามบ้านเรือนต่าง ๆ จะประดับประดาด้วยธงทิวสีต่าง ๆ เพื่อเป็นการบูชาธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ ในผืนผ้าจะลงอักขระ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อลมพัด 1 ครั้ง เท่ากันเราได้สวดมนต์ 1 จบ และมนต์ที่สวดนั้น สุดยอดของ 84,000 พระธรรมขรรค์ ภายในวัดนอกจากมีพระมหาเจดีย์ประดิษฐานอยู่กลางวัดแล้วยังมีพระอารามที่ประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิมปางพันมือองค์ใหญ่อยู่ภายใน อารามนี้องค์ดาไลลามะ เคยเสร็จมาประทับเมื่อครั้งลี้ภัยมาจากธิเบตก่อนที่จะไปประทับเป็นการถาวรที่เมืองดาลัมศาลา ในประทเศอินเดีย หากท่านใดประสงค์จะสวดมนต์ 84,000 พระธรรมขรรค์แบบทางลัด ก็เชิญท่านร่วมหมุนกงล้อยักษ์
โดยท่านต้องเดินตามเข็มนาฬิกาเป็นจำนวน 3 รอบ ภายในกงล้อได้มีการบรรจุมนตรา 84,000 พระธรรมขรรค์ไว้ภายในเช่นกัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน(6)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองปาทัน(Patan)” เมืองที่มีความงดงามจนได้สมญานามว่า ลลิตปุร์ เมืองนี้ขึ้นชื่อทางด้านทองเหลือง ดินแดนแห่งศิลปะอันวิจิตร 1 ใน 4 นครโบราณแห่งหุบเขากาฐมัณฑุ เมืองนี้มีวัดที่สำคัญอยู่ 2 แห่ง วัดแรก คราบาฮ์(Kwa Bahal) หรือวิหารทองคำ – วิหารเงิน วิหารเป็นวัดทางพุทธศาสนา หลังคามีตราประดับอย่างสวยงามด้วยแผ่นทองคำติดเป็นทางยาวจากยอดหลังคาจรดพื้น บนแผ่นทองคำยังการแกะสลักลวดลายให้ดูสวยงดงามดูแปลกตาแผ่นทองนี้เชื่อว่า ทอดลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึง รองรับพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสร็จกลับมายังโลกมนุษย์หลังโปรดพระมารดา อีกทั้งผู้ที่นับถือพุทธศาสนาและพำนักอยู่ในละแวกนี้จะไม่ฆ่าสัตว์ และยังนำมา ปล่อยที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก มีทั้งนก เต่า และหนู ส่วนผู้ที่เข้าชมก็ไม่อนุญาติให้นำสิ่งของที่ทำจากหนังสัตว์ เข้าไปภายในวัดนี้ วัดที่ 2 คือ เจดีย์มหาพุทธ(Maha Budha) เจดีย์แห่งนี้เลียนแบบองค์เจดีย์พุทธคยาในเมืองพุทธคยา ประทเศอินเดีย ตัวเจดีย์ประดับด้วยพระพุทธรูปปั้นรอบองค์กว่า 10,000 องค์ รอบองค์เจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องดินเผาสลักรูปพระพุทธเจ้าปางขัดสมาธินับพันชิ้นเรียงรายจนถึงยอดบน ด้านข้างจะมีวิหารองค์น้อยจำลองรูปสลักตอนประสูติของพระ พุทธเจ้า ที่ได้จำลองจากเมืองลุมพินี ให้ท่านได้แวะซื้อของที่ระลึกในหมู่บ้านหัตกรรม ซึ่งจะมีร้านค้าต่าง ๆ อาทิ ร้านจำหน่าย เครื่องประดับ ร้านจำหน่ายพรมของชาวทิเบตที่อพยพมาพำนักในเนปาล พรมที่นี่มีชื่อเสียงมากและเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ที่ดี นอกจากนี้ยังมีร้านที่จำหน่ายสินค้าจำพวกไม้และงานทองเหลือง ฯลฯ ที่นี่ราคาอาจไม่ถูกนักแต่คุณภาพดีและเป็นสถานที่ส่งเสริมงานจากกลุ่มแม่บ้าน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(7)ที่ ห้องอาหารของทางโรงแรม
เข้าที่พัก โรงแรม Himalaya hotel หรือเทียบเท่า
Everest Scenic Mountain Flight หรือ นั่งเครื่องบินชมยอดเขา สัมผัสเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอร์เรสต์อย่างใกล้ชิด สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เมื่อท่านได้มาเยือนประเทศเนปาลคุณจะมีโอกาสได้ขึ้นไปบนจุดสูงที่สุดและตระการตาที่สุดในโลก (จ่ายเพิ่มท่านละ 230 USD )
เช้า รับประทานอาหารเช้า(5)ที่ โรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าชม วัดสวยมภูนารถ (SWAYAMBHUNATH) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาที่สำคัญ ตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันตกของเมืงอกาฐมัณฑุ โดยมีอายุมากกว่า 2,500 ปีมาแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดลิง (MONKEY TEMPLE) เพราะทั่วบริเวณวัดแห่งนี้เต็มไปด้วยลิงซึ่งจะลงมาเก็บเมล็ดข้าวที่ชาวเนปาลนำมาถวายที่วัดเป็นอาหารนมัสการเจดีย์สวยมภูนารท ซึ่งถือว่าเจดีย์นี้เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนปาล ที่ตัวเจดีย์ตรงบริเวณยอดฐานจะมีรูปดวงตาของพระพุทธเจ้า ชาวเนปาลมีความเชื่อที่ว่าพระเนตรของพระพุทธเจ้าจะยังคอยมองดูโลกมนุษย์และมีจุดเล็กๆตรงกลางระหว่างคิ้ว
ชาวเนปาล เชื่อว่าเป็นดวงตาที่ 3 ซึ่งหมายถึงดวงตาแห่งธรรม และเครื่องหมายที่ตรงจมูกคือเลข 1 โดยในเนปาลคือสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งหรือเอกภาพ…
จากนั้น นำท่านนมัสการ วัดพุทธนารถ (Bouddhanat) วัดนี้มีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ตั้งอยู่ในหมู่บ้านของชาวธิเบตที่ได้อพยพมา ภายนอกวัดโดยเฉพาะตามบ้านเรือนต่าง ๆ จะประดับประดาด้วยธงทิวสีต่าง ๆ เพื่อเป็นการบูชาธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ ในผืนผ้าจะลงอักขระ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อลมพัด 1 ครั้ง เท่ากันเราได้สวดมนต์ 1 จบ และมนต์ที่สวดนั้น สุดยอดของ 84,000 พระธรรมขรรค์ ภายในวัดนอกจากมีพระมหาเจดีย์ประดิษฐานอยู่กลางวัดแล้วยังมีพระอารามที่ประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิมปางพันมือองค์ใหญ่อยู่ภายใน อารามนี้องค์ดาไลลามะ เคยเสร็จมาประทับเมื่อครั้งลี้ภัยมาจากธิเบตก่อนที่จะไปประทับเป็นการถาวรที่เมืองดาลัมศาลา ในประทเศอินเดีย หากท่านใดประสงค์จะสวดมนต์ 84,000 พระธรรมขรรค์แบบทางลัด ก็เชิญท่านร่วมหมุนกงล้อยักษ์
โดยท่านต้องเดินตามเข็มนาฬิกาเป็นจำนวน 3 รอบ ภายในกงล้อได้มีการบรรจุมนตรา 84,000 พระธรรมขรรค์ไว้ภายในเช่นกัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน(6)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองปาทัน(Patan)” เมืองที่มีความงดงามจนได้สมญานามว่า ลลิตปุร์ เมืองนี้ขึ้นชื่อทางด้านทองเหลือง ดินแดนแห่งศิลปะอันวิจิตร 1 ใน 4 นครโบราณแห่งหุบเขากาฐมัณฑุ เมืองนี้มีวัดที่สำคัญอยู่ 2 แห่ง วัดแรก คราบาฮ์(Kwa Bahal) หรือวิหารทองคำ – วิหารเงิน วิหารเป็นวัดทางพุทธศาสนา หลังคามีตราประดับอย่างสวยงามด้วยแผ่นทองคำติดเป็นทางยาวจากยอดหลังคาจรดพื้น บนแผ่นทองคำยังการแกะสลักลวดลายให้ดูสวยงดงามดูแปลกตาแผ่นทองนี้เชื่อว่า ทอดลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึง รองรับพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสร็จกลับมายังโลกมนุษย์หลังโปรดพระมารดา อีกทั้งผู้ที่นับถือพุทธศาสนาและพำนักอยู่ในละแวกนี้จะไม่ฆ่าสัตว์ และยังนำมา ปล่อยที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก มีทั้งนก เต่า และหนู ส่วนผู้ที่เข้าชมก็ไม่อนุญาติให้นำสิ่งของที่ทำจากหนังสัตว์ เข้าไปภายในวัดนี้ วัดที่ 2 คือ เจดีย์มหาพุทธ(Maha Budha) เจดีย์แห่งนี้เลียนแบบองค์เจดีย์พุทธคยาในเมืองพุทธคยา ประทเศอินเดีย ตัวเจดีย์ประดับด้วยพระพุทธรูปปั้นรอบองค์กว่า 10,000 องค์ รอบองค์เจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องดินเผาสลักรูปพระพุทธเจ้าปางขัดสมาธินับพันชิ้นเรียงรายจนถึงยอดบน ด้านข้างจะมีวิหารองค์น้อยจำลองรูปสลักตอนประสูติของพระ พุทธเจ้า ที่ได้จำลองจากเมืองลุมพินี ให้ท่านได้แวะซื้อของที่ระลึกในหมู่บ้านหัตกรรม ซึ่งจะมีร้านค้าต่าง ๆ อาทิ ร้านจำหน่าย เครื่องประดับ ร้านจำหน่ายพรมของชาวทิเบตที่อพยพมาพำนักในเนปาล พรมที่นี่มีชื่อเสียงมากและเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ที่ดี นอกจากนี้ยังมีร้านที่จำหน่ายสินค้าจำพวกไม้และงานทองเหลือง ฯลฯ ที่นี่ราคาอาจไม่ถูกนักแต่คุณภาพดีและเป็นสถานที่ส่งเสริมงานจากกลุ่มแม่บ้าน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(7)ที่ ห้องอาหารของทางโรงแรม
เข้าที่พัก โรงแรม Himalaya hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 กาฐมัณฑุ-สนามบินดอนเมือง
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (8) ที่ โรงแรม
นำท่านสัมผัสกับอีกบรรยากาศหนึ่งของการท่องเที่ยวโดยการเดินเที่ยวชมโดยรอบๆของเมืองเก่าที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งสภาพความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมรวมถึงตึกรามบ้านช่อง ท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเ ป็นอยู่ของผู้คนในเมืองอย่างใกล้ชิด ชม พระราชวังหนุมานโดก้า (HANUMAN DHOKA) นอกจากนี้บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยวัดที่น่าสนใจมากมายชมวังกุมารเทวี วังของเด็กชาวเนปาลที่ถูกคัดเลือกขึ้นมาเป็นกุมารเทวีเพื่อให้มาปกปักรักษาบ้านเมืองตามตำนาน แวะให้ท่านถ่ายรูป ณ ชมเรือนไม้เก่าแก่ที่มี ชื่อว่า กาฐมณฑป(KASTHAMANDAP)
11.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ
15.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL221
ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง
19.30 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยึดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ
นำท่านสัมผัสกับอีกบรรยากาศหนึ่งของการท่องเที่ยวโดยการเดินเที่ยวชมโดยรอบๆของเมืองเก่าที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งสภาพความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมรวมถึงตึกรามบ้านช่อง ท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเ ป็นอยู่ของผู้คนในเมืองอย่างใกล้ชิด ชม พระราชวังหนุมานโดก้า (HANUMAN DHOKA) นอกจากนี้บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยวัดที่น่าสนใจมากมายชมวังกุมารเทวี วังของเด็กชาวเนปาลที่ถูกคัดเลือกขึ้นมาเป็นกุมารเทวีเพื่อให้มาปกปักรักษาบ้านเมืองตามตำนาน แวะให้ท่านถ่ายรูป ณ ชมเรือนไม้เก่าแก่ที่มี ชื่อว่า กาฐมณฑป(KASTHAMANDAP)
11.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ
15.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL221
ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง
19.30 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยึดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ