โปรแกรม 10 วัน 7 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
22.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินไทย ประตู 4 แถว H พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินไทย ประตู 4 แถว H พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
วันที่ 2 กรุงเทพ – เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – ช้อปปิ้งถนนคาร์ทเนอร์
01.20 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบินที่ TG 936
07.15 น.
ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 27 ตุลาคม 2562) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
จากนั้นพาท่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นแวะถ่ายรูปที่สวนสาธารณะสตัดต์ปาร์ค (Stadtpark)เป็นสวนขนาดใหญ่ขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 65,000 ตร.ม. เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองเวียนนา ภายในสวนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ แล้วยังมีรูปปั้นนักดนตรีเอกของโลกที่มีชื่อเสียงมากมาย ชาวเวียนนานิยมมาเที่ยวพักผ่อนและยังใช้เป็นที่ออกกำลังกายอีกด้วย จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯ9ฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช็อกโกแลตโมสาร์ท ในย่านถนนคาร์ทเนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หมูทอดออสเตรียนสไตล์)
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE WESTBAHNHOF หรือเทียบเท่า
ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบินที่ TG 936
07.15 น.
ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 27 ตุลาคม 2562) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย
จากนั้นพาท่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นแวะถ่ายรูปที่สวนสาธารณะสตัดต์ปาร์ค (Stadtpark)เป็นสวนขนาดใหญ่ขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 65,000 ตร.ม. เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองเวียนนา ภายในสวนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ แล้วยังมีรูปปั้นนักดนตรีเอกของโลกที่มีชื่อเสียงมากมาย ชาวเวียนนานิยมมาเที่ยวพักผ่อนและยังใช้เป็นที่ออกกำลังกายอีกด้วย จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯ9ฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช็อกโกแลตโมสาร์ท ในย่านถนนคาร์ทเนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หมูทอดออสเตรียนสไตล์)
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE WESTBAHNHOF หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 เวียนนา – ฮัลสตัท – ซาลส์บวร์ก
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
เดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก นำเที่ยวชมความงามของเมืองซาลส์บวร์กที่มีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน ชมสวนดอกไม้มิราเบล(Mirabell Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก AUSTRIA TREND MITTEหรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
เดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก นำเที่ยวชมความงามของเมืองซาลส์บวร์กที่มีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน ชมสวนดอกไม้มิราเบล(Mirabell Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก AUSTRIA TREND MITTEหรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ซาลส์บวร์ก – เบิร์ชเต็ทกาเด้น - เหมืองเกลือโบราณ Salzbergwerk – ล่องเรือทะเลสาบโคนิก – อินส์บรุค
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเบิร์ชเต็ทกาเด้น (Berchtesgaden) เมืองสวยในเขตบาวาเรียที่ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาและงดงามด้วยทะเลสาบต่างๆให้เวลาท่านได้เดินเล่นชมเมืองที่เดิมเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่ บริเวณเมืองเก่าเต็มไปด้วยศิลปะและการสร้างอาคารในรูปแบบบาวาเรียตอนบนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตกแต่งด้วยลายปูนสไตล์สตัดโก้ นำท่านเข้าเที่ยวชมเหมืองเกลือโบราณ Salzbergwerk ที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1957 โดยภายในประกอบด้วย ขั้นตอนการทำเหมืองเกลือในสมัยก่อนที่น่าทึ่ง และ นำท่านล่องเรือทะเลสาบใต้ภูเขา ที่งดงาม น้ำใสราวกับกระจก ชมบรรยากาศของส่วนต่างๆในเหมืองราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
หลังจากนั้นนำท่านล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบโคนิก (Konigsee) ที่แปลว่าทะเลสาบพระราชา เพราะเป็นทะเลาสาบที่มีความลึกที่สุดและเป็นทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าน้ำใสที่สุดในเยอรมนี เป็นฟยอร์ดงดงามที่สุดในเยอรมนี แหล่งกำเนิดมาจากการละลายของหิมะบนยอดเขา ตัวทะเลสาบสีเขียวมรกตตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง หลังจากนั้นออกเดินทางต่อสู่เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้น ทีโรลเป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรียตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรุคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ ชมหลังคาทองคำ(Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรุค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก RAMADA TIVOLI หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเบิร์ชเต็ทกาเด้น (Berchtesgaden) เมืองสวยในเขตบาวาเรียที่ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาและงดงามด้วยทะเลสาบต่างๆให้เวลาท่านได้เดินเล่นชมเมืองที่เดิมเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่ บริเวณเมืองเก่าเต็มไปด้วยศิลปะและการสร้างอาคารในรูปแบบบาวาเรียตอนบนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตกแต่งด้วยลายปูนสไตล์สตัดโก้ นำท่านเข้าเที่ยวชมเหมืองเกลือโบราณ Salzbergwerk ที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1957 โดยภายในประกอบด้วย ขั้นตอนการทำเหมืองเกลือในสมัยก่อนที่น่าทึ่ง และ นำท่านล่องเรือทะเลสาบใต้ภูเขา ที่งดงาม น้ำใสราวกับกระจก ชมบรรยากาศของส่วนต่างๆในเหมืองราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
หลังจากนั้นนำท่านล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบโคนิก (Konigsee) ที่แปลว่าทะเลสาบพระราชา เพราะเป็นทะเลาสาบที่มีความลึกที่สุดและเป็นทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าน้ำใสที่สุดในเยอรมนี เป็นฟยอร์ดงดงามที่สุดในเยอรมนี แหล่งกำเนิดมาจากการละลายของหิมะบนยอดเขา ตัวทะเลสาบสีเขียวมรกตตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง หลังจากนั้นออกเดินทางต่อสู่เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้น ทีโรลเป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรียตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรุคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ ชมหลังคาทองคำ(Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรุค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก RAMADA TIVOLI หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 อินส์บรุค – เวโรน่า – มิลาน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเวนิส ของแคว้นเวเนโต้ และเมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี คศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า แต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต จากนั้นนำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงาม จัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรม เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับบ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเวนิส ของแคว้นเวเนโต้ และเมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี คศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า แต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต จากนั้นนำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงาม จัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรม เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับบ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 มิลาน - เจนัว – หมู่บ้านชิงเกว แตร์เร – ปิซ่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่เมืองเจนัว (Genoa) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ชมเขตเมืองเก่าศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 มาจนถึง ค.ศ. 1797 ปัจจุบันเป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของอิตาลี่ได้แก่ เฟียต, อัลฟ่าโรมีโอ, แลนเซีย นำท่านชมมหาวิหารประจำเมืองสถานที่ประกอบศาสนพิธีอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพของทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเยือน ชมบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (จากภายนอก) นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ค้นพบทวีปอเมริกา เป็นเมืองท่าพาณิชย์สําคัญของอิตาลี ซึ่งมีอายุกว่าแก่กว่าสองพันปี มีตึกเก่า สมัยโรมันย้อนยุค อาคารบ้านเรือนที่ค่อนข้างแออัด บริเวณอ่าวเจนัวเป็นที่ทอดไว้ด้วยเรือสําราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาว เรือโบราณจําลองขนาดยักษ์ และมีประภาคารสูงตระหง่าน กลางเมืองที่นี่ มีนํ้าพุจตุรัสเฟอรารี่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป นําท่านชมมหาวิหารซานลอเรนโซ หรือ ดูโอโม่ ที่สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์ และโกธิค ราวศตวรรษที่ 11
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นําท่านโดยสารรถไฟสู่ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกอีกด้วย นําท่านชมความงามของหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงาม สร้างลดหลั่นกันตามเนินผาริมทะเล นำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองปิซ่า (Pisa)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก GALILEI หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่เมืองเจนัว (Genoa) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ชมเขตเมืองเก่าศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 มาจนถึง ค.ศ. 1797 ปัจจุบันเป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของอิตาลี่ได้แก่ เฟียต, อัลฟ่าโรมีโอ, แลนเซีย นำท่านชมมหาวิหารประจำเมืองสถานที่ประกอบศาสนพิธีอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพของทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเยือน ชมบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (จากภายนอก) นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ค้นพบทวีปอเมริกา เป็นเมืองท่าพาณิชย์สําคัญของอิตาลี ซึ่งมีอายุกว่าแก่กว่าสองพันปี มีตึกเก่า สมัยโรมันย้อนยุค อาคารบ้านเรือนที่ค่อนข้างแออัด บริเวณอ่าวเจนัวเป็นที่ทอดไว้ด้วยเรือสําราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาว เรือโบราณจําลองขนาดยักษ์ และมีประภาคารสูงตระหง่าน กลางเมืองที่นี่ มีนํ้าพุจตุรัสเฟอรารี่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป นําท่านชมมหาวิหารซานลอเรนโซ หรือ ดูโอโม่ ที่สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์ และโกธิค ราวศตวรรษที่ 11
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นําท่านโดยสารรถไฟสู่ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกอีกด้วย นําท่านชมความงามของหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงาม สร้างลดหลั่นกันตามเนินผาริมทะเล นำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองปิซ่า (Pisa)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก GALILEI หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 ปิซ่า – หอเอนปิซ่า – ฟลอเรนซ์ – โรม
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชมมหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมือง ปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ แคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ ฟลอเรนซ์ (Florence) ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกเมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก นำท่านชมวิวทิวทัศน์ของเมือง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL ROMA EST หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชมมหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมือง ปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ แคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ ฟลอเรนซ์ (Florence) ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกเมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก นำท่านชมวิวทิวทัศน์ของเมือง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL ROMA EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 9 โรม – สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
13.55 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG 945
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
13.55 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG 945
วันที่ 10 กรุงเทพ
05.45 น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ