ONCE IN TURKEY 9 DAYS 6 NIGHTS โดยสายการบินมาฮาน แอร์ (W5)

สถานที่ทัวร์:
ตุรกี Turkey ตุรกี Turkey
ระยะเวลา:
9 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Mahan Air

ONCE IN TURKEY 9 DAYS 6 NIGHTS โดยสายการบินมาฮาน แอร์ (W5)9 วัน 6 คืน

฿0

BKK-IKA

ออกจากBKK
22.35
ถึงIKA
03.30

IKA-IST

ออกจากIKA
06.50
ถึงIST
08.35

โปรแกรม 9 วัน 6 คืน : เดินทางโดยสายการบินMahan Air

20.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 7 เคาน์เตอร์ N ของสายการบินมาฮานแอร์ พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
23.35 น.
ออกเดินทางสู่เมืองเตหะราน โดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5050

03.50 น.
เดินทางถึงสนามบินกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.00 น.
ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล ประเทศตรุกี (Turkey) โดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5116
***สำหรับคณะที่เดินทางเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2563 จะออกเดินทางโดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5112 เวลา 06.50 น. และเดินทางถึงเวลา 08.35 น.***
11.50 น.
ถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล ประเทศตรุกี (Turkey) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง นําท่านชมเมืองอิสตันบูล มหานครสองทวีป เมืองสําคัญที่สุดของประเทศตุรกี มีตํานานการสร้างเมืองมาแล้วเป็นเวลากว่า 2,700 ปี โดยไบซัส (Byzas) ผู้นําชาวเมการา (Megara) ตามคําแนะนําของเทพพยากรณ์ที่วิหารเดลฟีในกรีซ ติดกับช่องแคบบอสฟอรัส เดิมชื่อว่า ไบเซนทิอุม (Byzantium) มีถึงสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช ทรงแสวงหาชัยภูมิอันเหมาะสมเพื่อสร้างกรุงโรมใหม่ทรงเลือกเมืองนี้ มีการก่อกําแพงเมืองล้อมรอบภูเขา 7 ลูกให้เหมือนกับกรุงโรม สถาปนาเมืองนี้ใหม่ขึ้นว่า คอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.779 มีประชากรมากเกือบ 1 ล้านคน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ นำท่านเข้าชมสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี จากนั้นนำท่านเข้าชมสุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออโธดอกซ์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ จากนั้นนำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก GOLDEN WAY HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านสู่ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต (Spice Market) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกี อย่าง แอปริคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย นำท่านเข้าชมพระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce) สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมซิด (Abdul Mecit) ในปี ค.ศ. 1843-1856 ในช่วงยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป เป็นพระราชวังสุดหรูหราอลังการ ภายในมีการประดับตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ทั้งเฟอร์นิเจอร์ พรม โคมไฟ เครื่องแก้วเจียระไนต่างๆ แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจคือโคมไฟแชนเดอเลียร์ ของขวัญจากอังกฤษ ซึ่งทำจากแก้วคริสตัลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักมากถึง 4 ตัน สวยงามเกินคำบรรยาย มีพรมทอมือขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลูกกรงราวบันไดนั้นก็ทำด้วยแก้วคริสตัล อีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยนาฬิกามากมาย ซึ่งทุกเรือนจะชี้บอกเวลา 09:06 น. อันเป็นเวลาที่ประธานาธิบดีมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์กถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2484 ผู้ซึ่งเป็นวีรบุรุษและบิดาแห่งตุรกี ท่านคือนายทหารที่มีความสามารถ จากการที่เป็นผู้บังคับบัญชาของจักรวรรดิออตโตมันเพียงคนเดียวที่ไม่แพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากที่จักรวรรดออตโตมันพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้วก็ได้เป็นผู้นำของขบวนการแห่งชาติตุรกีในสงครามประกาศเอกราชตุรกี แล้วสามสารถเอาชนะกองทหารของฝ่ายไตรภาคี ซึ่งนำไปสู่การปลดปล่อยและการก่อตั้งประเทศตุรกีในที่สุด
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (Dardanelles) เป็นช่องแคบ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่กั้นระหว่างคาบสมุทรกัลลิโพลี (Gallipoli) ของตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปกับตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชีย เชื่อมทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) กับทะเลอีเจียน (Aegean) สู่เมืองชานัคคาเล (Canakkale) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าตลอดจนชุมทางการเดินรถ และขนถ่ายสินค้าจากเอเชียสู่ยุโรป นับตั้งแต่สุลต่านอาห์เหม็ดที่ 2 ได้สร้างป้อมปราการขึ้นที่นี่เมื่อปี 1452 เมืองชานัคคาเล่ในอดีตเป็นที่ตั้งของสมรภูมิรบกัลลิโปลี สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการรุกคืบหน้า เข้าไปยังช่องแคบคาร์ดาแนลส์ เพื่อบีบให้ตุรกีถอนตัวออกถอนตัวออกจากสงครามโลก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก TROIA TUSAN หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านชมและถ่ายรูปคู่กับม้าไม้จำลองแห่งทรอย (Hollywood of Troy) ตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ซึ่งเป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) นำท่านขึ้นเคเบิ้ล คาร์ เพื่อชมนครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลายเป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน (upper town) จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังและพื้นที่ใช้งานต่างสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ในส่วนของเมืองด้านล่าง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


ออกเดินทางสู่เมืองคูซาดาสึ (Kusadasi) เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรกี นอกจากนี้ยังเป็นเมืองตากอากาศและสถานที่เล่นกีฬาทางน้ำที่นิยมเป็นอย่างมากของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกด้วย นำท่านเยี่ยมชมโรงงานหนังชั้นนำ Leather Fashion House ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อ เสื้อหนังคุณภาพดี พร้อมแบบดีไซน์ที่ทันสมัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอิซเมียร์ (Izmir) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของตุรกี และเป็นอันดับ 2 ในด้านการค้ารองจากอิสตันบูล เมืองนี้มีภูเขาอยู่เบื้องหลัง และทะเลอยู่ด้านหน้าเป็นทัศนียภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง ในอดีตคนรู้จักอิซเมียร์ในชื่อของ “สมีร์นา” (Smyrna) ชื่อนี้ได้มาจากชื่อเทพธิดากรีก “ไมรีนา” (Myrina) สมีร์นาเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมช่วง 3,000-1,000 ปีก่อนคริสตกาล อิซเมียร์อยู่ใต้การปกครองของออตโตมันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1415 และปีค.ศ. 1535 ได้มีการทำการค้ากับฝรั่งเศสทำให้ชาวยุโรปเข้ามาในอิซเมียร์ ส่งผลให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองท่าสำคัญในพริบตา อาคารบ้านเรือนที่สร้างในยุคนั้นเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบคล้ายคลึงกับยุโรป
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก ARMIS HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินเข้าชมเมืองโบราณเอเฟซุส (City of Ephesus) ที่ยิ่งใหญ่และงดงามจนกระทั่งจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” เมืองโบราณที่สมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุด ถนนทุกสายปูด้วยหินอ่อน นำท่านชมห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรียและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา แวะชมโรงละครเอเฟซุส ซึ่งจุคนได้ประมาณ 30,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นำท่านเข้าชมบ้านของพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยและสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ค.ศ. 1774-1824
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หรือปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ซึ่งเกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซี่ยม คาร์บอเนต มาตกตะกอน เกิดเป็นลักษณะหน้าผา ซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายกับสร้างมาจากปุยฝ้าย ซึ่งน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ย้อยเป็นรูปร่างต่างๆอย่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ 35 – 100 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบ จากนั้นนำท่านชมเมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสตกาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ. 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก TRIPOLIS HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคอนยา (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี แล้วนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) ซึ่งก่อตั้งขึ้นปี ค.ศ.1231 โดยเมฟลาน่า เจลลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาอิสลามทำสมาธิโดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาลุคดิน รูมี่อาจารย์ทางปรัชญาประจําราชสํานักแห่งสุลต่านอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียว สดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสําหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลานาด้วย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ชมระบำหน้าท้อง (Belly Dance) และการแสดงพื้นเมืองต่างๆ ของตุรกีอันลือชื่อที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


***สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคา 230 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงกับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น )***
นำท่านเข้าชมนครใต้ดิน (Underground City) ซึ่งเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึกพร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศและสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเกอเรเม่ (Goreme) นำท่านชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Goreme Open-Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ นำท่านเดินทางสู่โรงงานทอพรม(Carpet Factory) คุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย จากนั้นชมโรงงานเซรามิค และโรงงานจิวเวอรี่ อิสระเลือกซื้อของตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอังการา (Ankara) เป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกีตั้งอยู่บนฝั่งทวีปเอเชีย ชาวตุรกีจะเรียกดินแดนฝั่งเอเชียว่าอนาโตเลีย และอังการ่าเป็นเมืองใหญ่ อันดับสองรองจากอิสตันบูล ระหว่างทางแวะถ่ายรูป ทะเลสาบนํ้าเค็ม (SALT LAKE) ทะเลสาบนํ้าเค็มที่ใหญ่อันดับสองของตุรกีเมื่อหน้าร้อนมาถึงนํ้าจะเหือดแห้งเป็นแผ่นหนา มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก THE ANKARA HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติอังการา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
11.45 น.
ออกเดินทางสู่เมืองเตหะราน โดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5119
***สำหรับคณะที่เดินทางเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2563 จะออกเดินทางโดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5119 เวลา 11.00 น. และเดินทางถึงเวลา 14.50 น.***
14.30 น.
เดินทางถึงกรุงเตหะราน ประทศอิหร่าน เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
21.45 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5051
***สำหรับคณะที่เดินทางเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2563 จะออกเดินทางโดยสายการบินมาฮาน แอร์ (Mahan Air) เที่ยวบินที่ W5051 เวลา 22.10 น. และเดินทางถึงเวลา 07.25 น.***

07.45 น.
เดินทางถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา