เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG)

สถานที่ทัวร์:
เนปาล Nepal กาฐมาณฑุ Kathmandu
ระยะเวลา:
5 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Thai Airways International

เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG)5 วัน 4 คืน

฿0

BKK-KTM

ออกจากBKK
10:15
ถึงKTM
12:25

KTM-BKK

ออกจากKTM
13:30
ถึงBKK
18:10

โปรแกรม 5 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International

06.30 น.
คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ Dเช็คอินกรุ๊ปของสายการบิน การบินไทย ( Thai Airway) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทและหัวหน้าทัวร์ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
10.15 น.
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกาฐมาณฑุโดยสายการบิน การบินไทย ( Thai Airway)เที่ยวบินที่ TG319
12.25 น.
เดินทางถึง สนามบินตรภูวน เมืองกาฐมัณฑุ ประเทศเนปาล เมืองกาฐมัณฑุนั้นเป็นเมืองหลวงและยังเป็นเมืองที่ใหย่ที่สุดของประเทศด้วย เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1.15 ชั่วโมง (เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว


นำท่านเดินทางไปยังเมืองปาฏัน (Patan) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลลิตาปูร์ ” เป็นหนึ่งในเมืองหลักของประเทศเนปาล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกาฐมาณฑู เมืองนี้เป็นเมืองแห่งศิลปะงดงามที่สำคัญ1 ใน 4เมือง แห่งหุบเขากาญมาณฑุที่เป็นหุบเขามรดกโลกตั้งแต่ค.ศ. 1979 และเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองแห่งศิลปะและหัตถศิลป์ที่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตและงดงาม เมืองปาฏันนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) โดยเฉพาะชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูป ทองเหลือง วัดฮินดู เมืองปาฏันนี้นับเป็นผลงานสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ชิ้นเอกแบบเนวารี มีถนนโบราณตัดผ่านตลอดทุกทิศ แบ่งออกเป็น 4ส่วน โดยมีจตุรัสปาฏันและพระราชวังปาฏันเป็นศูนย์กลาง นำท่านชมวัดพระกฤษณะ (Krishna Temple) ที่สร้างด้วยหินแกรนิตทั้งหลัง หลังจากนั้นนำท่านชมวัดทองคำ (Golden Temple) ลักษณะเป็นเจดีย์สูง 3 ชั้น หลังคาวัดทำด้วยแผ่นทองยาวลงมาจรดดิน ประดับตกแต่งด้วยทองเหลืองและทองแดงจนเหลืองอร่ามเรืองรอง เป็นวัดในพุทธศาสนา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป เป็นที่สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคง หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิเช่นสร้อยคอ สินค้าพื้นเมืองจำพวกลูกปัด พระพุทธรูปต่างๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง นากาก็อต (Narkakot) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จากเมืองกาฏมัณฑุ นากาก็อตนั้นอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,175 เมตร ให้ทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศ ธรรมชาติวิวเทือกเขาหิมาลัยอันสวยงาม นากาก็อตนั้นเป็นชื่อภูเขา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในการชมวิว ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ซึ่งสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยอย่างสวยงาม หากอากาศดียังสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสจากจุดนี้ได้อีกด้วย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
โรงแรม HOTEL COUNTRY VILLA หรือเทียบเท่า

05.30 น.
นำท่านชมแสงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ทางด้านทิศตะวันออกของเทือกเขานากาก๊อต ให้ท่านได้สูดอากาศยามเช้าและเก็บภาพความสวยงามของแนวเทือกเขาหิมาลัยที่โดนแสงอาทิตย์ส่องลงมา ให้ท่านได้อิสระเก็บภาพกันตามอัธยาศัย
**จะเห็นเทือกเขาหิมาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ**
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมือง ปัคตาปูร์ (Bhaktapur) ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมืองนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 โดยพระเจ้าอานนท์ มัลละ ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นราชธานีในหุบเขา เป็นเมืองที่เจริญบนเส้นทางการค้าสู่ทิเบต ชมย่านเดอร์บาสแควร์ หรือย่านพระราชวังบักตาปูร์ อันเป็นที่ตั้งของวัง ชมพระราชวัง 55 พระแกล (หน้าต่าง) , ประตูทองค้า ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงาม ชมลานสรงน้้า หรือซุนดารี (Sundari) น้าท่านชมวัดเนียตา โปลา (Nyatapola) เป็นศาสนสถานที่สูงที่สุดในเนปาล มีด้วยกัน 5 ชั้น สูง 98 ฟุต สองข้างบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นหินขนาดใหญ่ สลักเป็นรูปสัตว์และเทพอารักขา เชื่อกันว่าปั้นแต่ละคู่มีอ้านาจหยุดสิ่ งชั่วร้ายที่เมารุกราน วัดนี้ สร้างขึ้นถวายแด่เทพแห่งเนียตะโปลา ผู้ที่มีพลังสูงสุดหรือสิทธิลักษมี (Siddhi Lakshmi) ซึ่งเป็ นเทวี ลัทธิตันตระ พระเจ้าภูปฏินทรา มัลละ สร้างวัดนี้ในปี ค.ศ. 1702และด้วยความงดงามของเมืองของเมืองนี้ จึงเคยถูกนำมาเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง “LITTLE BUDDHA”
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
........น
ออกเดินทางจากศรีนาคา เข้าสู่เมืองโพคารา โดยสายการบินในประเทศ.....เที่ยวบินที่.....
.....น.
เดินทางถึงท่าอากาศยานภายในประเทศเมืองโภครา


เดินทางถึงเมืองโพคารา (Pokhara) เมืองนี้ตั้งอยู่ ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 200 กิโลเมตร คืออีกเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศเนปาลเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 รองจากกาฐมาณฑุจากที่นี่ จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของดานุละคีรี (Dhanulagiri) มนะสลู(Manaslu) มัชฉาปูชเร (Machhapuchhre) และยอดเขาอรรณาปุรณะ (Annapurana) ทั้ง 5 ยอด (Annapurana I, Annapurana II, Annapurna III, Annapurna IV, Annapurna South) เป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขาอรรณาปูรณะ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้้าทะเล 900 เมตร และเป็นจุดชมความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุดเนื่องจากห่างจากบริเวณเทือกเขาแค่ 30 กิโลเมตร เป็นทิวทัศน์ ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตร เมื่อได้สัมผัสยากนักที่จะลืมเลือน และที่นี่ยังเป็นสถานที่ของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินปีนเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย จากนั้นนำท่านชม น้ำตกเดวิส (Devi’s Fall) น้ำตกที่มีความลึกถึง 100 เมตร น้ำตกนี้ตั้งชื่อตามนายเดวิสที่ได้เสียชีวิตที่น้ำตกแห่งนี้พร้อมกับคู่รัก หลังจากนั้นนำท่านชมค่ายอพยพชาวทิเบต (Tibetan refugee camp) ค่ายนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1960 เป็นสถานที่จัดแสดงความเป็นอยู่ของชาวทิเบตในเนปาล ซึ่งได้อพยพมาทางตอนเหนือของเนปาล ในครั้งที่จีนบุกกรุงลาซา ให้ท่านได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทิเบต และชมวิธีการผลิตพรมขนสัตว์แบบชาวบ้าน และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองต่างๆ


จากนั้นนำท่านล่องเรือทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเนปาล ภาพความงามและความใสของทะเลสาบพีวานั้นสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเร เป็นภาพสวยงาม และตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี (Barahi Temple) ซึ่งมีสถูปสี ขาวชื่อบาลาฮี ลอยเด่นตัดกับพื้นน้ํา นำท่านสักการะ วัดบาลาฮี วัดที่มีเทพธิดาอจิมา เทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองโภครา ทุกวันเสาร์จะมีการบูชายัญสัตว์แด่ เทพธิดา หลังจากนั้นให้ทุกท่านได้อิสระช็อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
โรงแรม HOTEL DANDELIONS หรือเทียบเท่า



นำท่านเดินทางสู่ยอดเขาซารางก็อต (Sarangkot) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เพื่อชมพระอาทิตย์ ขึ้นและชมวิวที่ ยอดเขาอรรณาปุรณะ แสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ตัดกับยอดเขาอันสวยงาม ชมวิวของเทือกเขาหิมาลัยและแม่น้ำเซติ เป็นฉากด้านล่าง บรรยากาศที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะอย่างสวยงาม** ท่านจะเห็นเทือกเขาหิมาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้น** นำท่านแวะสักการะวัดบินดาบาซินี (BINDHABASANI) วัดฮินดู วัดนี้ สร้างในปี 1845เพื่อถวายแด่เทพธิดา บาวานี เทพธิดา วัดนี้ ถือเป็ นวัดศั กดิ์สิ ทธิ์แห่งหนึ่ งในเมืองโภคราและวัดนี้เป็นวัดที่ชาวเมืองนี้หรือต่างเมืองนิยมมาแต่งงานกันอีกด้วย บริเวณรอบๆวัดจะมีของที่ใช้ในการแต่งงานขายในช่วงของเทศกาลงานแต่งงาน และมีของสำหรับใช้บูชาเทพธิดาบาวานีขายจัดอยู่ ในถาด จะมีมะพร้าวซึ่ งแทนสัญลักษณ์ของสัตว์หนึ่ งชีวิตใช้ส้าหรับบูชายัญ ดอกไม้ ผงติกะ ขนม และเฉพาะวันอังคารและวันเสาร์ จะมีพิธีทำบุญหรือถ้าเป็นวันพิธีส้าคัญใหญ่ๆ มีการบูชายันด้วยสัตว์เล็กและใหญ่ตลอดทั้งวัน หลังจากนั้นนำท่านชมแม่น้ำเซติ (Seti River) หรือแม่น้ำนม เป็นแม่น้ำสายหนึ่งของแม่น้ำกังฮารา ซึ่งละลายจากหิมะบนยอดเขาอภิและนามปาในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนอินเดีย เนปาล และจีน แม่น้ำนี้มีเอกลักษณ์พิเศษคือมีสีขาวคล้ายน้ำนมไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัยและไหลเข้าไปใต้ดิน แม่น้ำนี้จะไหลผ่านเมืองโภครา ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่มีแม่น้ำไหลผ่านใต้ดินของเมืองโภครา ที่นี่เขาจะทดน้ำขึ้นมาให้ไหลไปตามคลองเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองกาฐมาณฑุ โดยรถโค้ช ระยะทางประมาณ 200 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เป็นเส้นทางเลียบไปตามไหล่เขา ระหว่างทางผ่านแม่น้้า ผ่านหมู่บ้าน ท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวเนปาลชนบท ที่ยังคงงดงามในแบบธรรมดั่งเดิม
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย
นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองกาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,336 เมตรเหนือระดับน้้าทะเล เมืองกาฐมาณฑุนั้นเป็นที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของเนปาลเอาไว้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ....ให้ท่านได้ชมการแสดงพื้นเมืองของชาวเนปาล
ที่พัก
โรงแรม HOTEL MANANG หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


นำท่านเดินทางเที่ยวชมเมืองกาฐมาณฑุ นำท่านชมจัตุรัสกาฐมาณฑุ ตูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square) จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูรบาร์ แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ จัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ในปี พ.ศ. 2522 จากนั้นเยี่ยมชมวัดกุมารี หรือกุมารีฆระ (Temple of Kumari) ซึ่งเป็นที่พำนักของเทพธิดากุมารี ตามความเชื่อของชาวเนปาลนั้น กุมารีคือตัวแทนแห่งพระอุ มาเทวี เป็นเทพบริสุทธิ์ที่ถือกำเนิดจากโลกมนุษย์ ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาจากเด็กหญิงอายุ 3-5 ปี จากตระกูลศากยะหรือตระกูลของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ชาวเนปาลนับถือกุมารีดุจเทพเจ้าและมักจะขอพรให้ประสบความสำเร็จ กุมารีมีหน้าที่ทำพิธีบูชาเทพธิดาแห่งเตาไฟ หรือเทพธิดาแห่งการดำรงชีพ ( Living Goddess) และในช่วงเทศกาลอินทรา ยาตรา (Indra Jatra) หรือเทศกาลบูชาพระอินทร์ที่เวียนมาปีละครั้ง กษัตริย์เนปาลจะมาหากุมารีเพื่อรับพรจากเธอ หลังจากนั้นนำท่านชมกาฐมาณฑป (Kasthamandap) เป็นอาคารไม้เก่าแก่ที่สุด และเป็นกำเนิดของชื่อเมืองกาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับวัดกุมารี สถานที่นี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ลักษมี นาสิงห์ มัลละ (King Laxmi Narsingha Malla) ในตอนต้นศตวรรษที่ 16 จากนั้นชมวัดตะเลชุ (Taleju Temple) วัดประจําองค์พระมหากษัตริย์ เนื่องจากมีความเชื่อว่าเทพตะเลชุคือเทพที่ปกปกรักษาองค์พระมหากษัตริย์และประเทศเนปาล
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย
นําท่านชม วัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath Temple) หรือ วัดหลังคาทองคำ วัดนี้มีหลังคาทําด้วยทองซ้อนกัน 2 ชั้น และประตูเงินซึ่งถือว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดวัดหนึ่งในศาสนาฮินดู ของเนปาล สร้างขึ้นมาในสมัยกษัตริย์แห่งราชวงศ์มลละเพื่อถวายแด่พระศิวะในภาคขององค์ปศุปฏินาถ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพัคมาตี (Bagmati River) ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนแม่น้ำคงคาในเมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย เพราะแม่น้ำสายนี้จะไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคานั้นเอง อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการแสวงบุญของชาวฮินดู ในเทศกาลมหาศิวราตรี โดยวัดแห่งนี้ องค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนวันแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย หลังจากนั้นนำท่านสักการะ สถูปโพธินาถหรือพุทธนาถ (Boudhanath) หมายถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง สถูปนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์เจดีย์ มีฐานทรงดอกบัวตูม มีเค้าศิลปะค่อนไปในทางทิเบต เห็นได้ชัดจากรูปแบบการก่อสร้างฐานสถูป ที่อิงคติปริศนาธรรมมัณฑลา (Mandala) อันเป็นรูปธรรมนิมิตตามคติพุทธศาสนาแบบทิเบต ในความหมาย เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่างๆ บนเจดีย์มีรูปเพ้นท์ลายดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ อันเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนทำดี องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2502 รอบๆองค์เจดีย์ประดับประดาด้วย “ธงมนตรา” ที่ชาวทิเบตและชาวเนปาลนิยมนำมาแขวนเอาไว้อย่างสง่างามเป็นเอกลักษณ์ ธงนี้จารึกบทสวดมนตร์แล้วนำไปปลุกเสก ก่อนจะนำมาประดับที่องค์พระเจดีย์ หรือประดับตามหลังคาอาคารบ้านเรือน ทางเดิน ช่องเขา ฯลฯ นัยว่าเพื่อให้ลมช่วยสวดมนตร์ แล้วพัดพาเอามนตราไปคุ้มครองผู้ผ่านทาง สถูปแห่งนี้สร้างโดยชาวทิเบตที่อพยพหนีสงครามเข้ามาที่นี่เมื่อปี พ.ศ. 2502 เมื่อครั้งที่จีนเข้ารุกรานทิเบต บริเวณวัดจึงเป็นที่ชุมชนของชาวพุทธจากทิเบต หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านทาเมล (Thamel) ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ศูนย์กลางของเมืองกาฐมาณฑุ โดยบริเวณย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร โรงแรมที่พัก และร้านขายของมากมาย ย่านนี้จึงเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองนี้ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมาย อาทิเช่น สินค้าจำพวกเครื่องประดับ หัตถกรรม เครื่องนุ่งห่มต่างๆมากมาย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
โรงแรม HOTEL MANANG หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


นําท่านสักการะ สถูปสวยมภูนาถ ( Swayambhunath) หรือวัดลิง เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) ที่ยิ่งใหญ่ 9 แห่งหนึ่งของโลก โดยคาดว่ามีอายุถึง 2,000 ปีเลยทีเดียว สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะ ในปี พ.ศ.963 จุดเด่นของภายในวัดนี้คือ ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม หรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ของหุบเขากาฐมาณฑุ จึงทําให้เห็นทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่งดงาม สถูปแห่งนี้ยังเป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล และยังเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับฮินดู โดยองค์กรยูเนสโกได้ทําการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522
13.30 น.
นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน การบินไทย (TG) เที่ยวบินที่ TG 320
18.15 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา