พม่า ไหว้พระ บุญด่วน ย่างกุ้ง หงสา พระธาตุอินทร์แขวน สิเรียม 3 วัน 2 คืน BY (DD)

สถานที่ทัวร์:
พม่า Myanmar ย่างกุ้ง Yangon
ระยะเวลา:
3 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Nok Air

พม่า ไหว้พระ บุญด่วน ย่างกุ้ง หงสา พระธาตุอินทร์แขวน สิเรียม 3 วัน 2 คืน BY (DD)3 วัน 2 คืน

฿0

DMK-RGN

ออกจากDMK
06:45
ถึงRGN
07:15

RGN-DMK

ออกจากRGN
21:00
ถึงDMK
22:55

โปรแกรม 3 วัน 2 คืน : เดินทางโดยสายการบินNok Air

04.00 น.
พร้อมกัน สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 3 เคาน์เตอร์ สายการบินนกแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
06.30 น.
ออกเดินทางสู่ ย่างกุ้ง โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD4230 (ไม่มีอาหารบนเครื่อง)
07.35 น.
เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)


นำท่านสักการะ พระเจดีย์ชเวมอดอว์ (Shwe Maw Daw Pagoda) เจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์แห่งหงสาวดี และนับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า คนไทยนิยมเรียกว่า “พระธาตุมุเตา” ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งครั้งก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนออกศึกของบูรพกษัตริย์ ในสมัยโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์มอญหรือพม่า รวมทั้งพระเจ้าบุเรงนองด้วย และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระนางสุพรรณกัลยา ทรงประทับอยู่ในหงสาวดี ก็เคยเสด็จมานมัสการพระเจดีย์องค์นี้ ยังเคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง 4 ครั้ง ทำให้ปลียอดของเจดีย์องค์นี้หักพังลงมา แต่ด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้ จึงได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอว์ขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2497 ด้วยความสูงถึง 374 ฟุต (ตอนแรกที่สร้างสูง 70 ฟุต) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไหว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน ท่านจะได้นมัสการ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป


จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ปี พ.ศ. 2142 ในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวประกัน มีการค้นพบเสาและกำแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ในดิน รัฐบาลพม่าจึงได้ทำการขุดค้นและสร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่ โดยถอดแบบจากของเดิม ซึ่งพระตำหนักที่ประทับบรรทมสีทองเหลืองอร่ามที่ดูโดดเด่นชวนมองในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่า และท้องพระโรงที่ใช้ออกว่าการก็ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าสีทองเหลืองอร่ามทั้งภายนอกและภายใน **วันที่ 10-20 เมษายนของทุกปี (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) พระราชวังปิดไม่ให้เข้าชม ปรับโปรแกรมไปยังสถานที่อื่นแทนตามความเหมาะสม***


นำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwe Tha Lyaung) เป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม เมื่อครั้งก่อนพระพุธรูปองค์นี้ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมจนกลายเป็นเพียงกองอิฐท่ามกลางป่ารก จนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า จึงได้พบพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 หลังพม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ โดยทาสีและปิดทองใหม่ จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ไม้จันทร์หอม ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพิมพ์เป็นรูปต่างๆ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(กุ้งแม่น้ำย่าง ท่านละ 1 ตัว)


จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ คิมปูนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้ก์โท) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางท่านจะเห็นแม่น้ำสะโตง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมหาราช พระองค์สามารถยิงพระแสงปืนข้ามน้ำที่กว้างใหญ่นี้ไปต้องแม่ทัพพม่า จนได้รับชัยชนะ จากนั้นนำท่านเปลี่ยนรถเป็นรถบรรทุกขึ้นบนภูเขาไจ้ก์โท เพื่อเดินทางสู่โรงแรมที่พัก ระหว่างทางชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง (นั่งรถบรรทุกขึ้นไปจนถึงจุดบนสุดของภูเขาไจ้ก์โท ที่เป็นที่ตั้งของพระธาตุอินทร์แขวน) ***ในกรณีคณะทัวร์เดินทางไม่ถึง 15 ท่าน สำหรับรถขึ้นบนพระธาตุอินทร์แขวน ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิใช้รถร่วมกับคณะอื่น ซื่งอาจใช้เวลาพอสมควร***


พิเศษ!!!! เพิ่มฟรี นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน(1 เที่ยว) เพื่อบริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปไหว้พระธาตุสะดวกสบายขึ้น ใช้เวลาเพียง 10 นาที จากสถานีเขาฤษีขึ้นไปถึงสถานีองค์พระธาตุ (ในกรณีที่กระเช้าปิด จะทำการนั่งรถขึ้นถึงจุดสูงสุดตามปกติและขอสงวนสิทธิ์ไม่มีการคืนค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น)


นำท่านสักการะ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจ้ก์ทิโย (Kyaikhtiyo) คำว่า ไจ้ก์ทิโย ในภาษามอญ หมายความว่า หินรูปหัวฤๅษี โดยมีตำนานเล่าขานกันในสมัยพุทธกาล พระธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้ก์โถ่ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า เหนือระดับ น้ำทะเล 3,615 ฟุต ลักษณะเด่นของพระธาตุอินทร์แขวนคือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน พระธาตุอินทร์แขวนนับเป็น 1ใน 5 มหาบูชาสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก


หลังอาหารค่ำเชิญท่านไปสักการะพระธาตุ ตามอัธยาศัย นมัสการ เทพทันใจพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งเป็น นักพรตที่มีความศักดิ์สิทธ์อีกแห่งหนึ่ง ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้เที่ยว ควรเตรียมเสื้อกันหนาว หรือกันลม หรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ เบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืน (แต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษที่เข้าไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00น.) พระธาตุอินทร์แขวนนี้ เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ ปี พุทธศักราช 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรม เรื่อง “เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน”
ที่พัก
โรงแรม KYAIK HTO HOTEL หรือ YOE YOE LAY HOTEL

เช้าตรู่
เชิญท่านตักบาตรกับองค์พระธาตุอินทร์แขวน ( 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า) การตักบาตร ณ องค์พระธาตุอินทร์แขวนเปรียบเสมือนได้ตัดบาตรกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ของโลก และเชิญสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพรอบ ๆ องค์พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมาการที่ก้อนหินสีทองวางหมิ่นเหม่บนหน้าผามานานนับพันปี โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์ และทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ได้ที่บริเวณหน้าโรงแรมที่พัก
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


จากนั้นให้ท่านได้เก็บสัมภาระแล้วออกเดินทางกลับสู่ หงสาวดี ตามเส้นทางเดิม


นำท่านตักบาตรพระสงฆ์นับร้อยรูป ที่ วัดไจ้คะวาย สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไป ศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลาเพลจะมีพระสงฆ์ สามเณรเดินแถวกันเข้าสู่ห้องฉันเพล ระหว่างนั้นท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้ ณ วัดนี้นอกจากจะได้ตักบาตรแล้ว ทุกท่านสามารถถวายปัจจัย หรือ ถวายเข้าสาร


นำท่านสักการะ พระสมณโคดม ปางประทานพร (องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า) เจ้าของเหมืองหยกและผู้มีจิตศรัทธาชาวเมียร์มาร์ได้ช่วยกันสร้างขึ้นในพุทธลักษณะพระองค์ทรงมีอายุ 80 พรรษา พระพุทธรูปองค์นี้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2016 แล้วเสร็จเมื่อปี2019 มีความสูง 255 ฟุต 6 นิ้ว ภายในองค์พระนั้นแบ่งออกเป็น18 ชั้น ปัจจุบันนี้เปิดให้ชมเพียงแค่ 1 ชั้น ใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 20 ล้านบาท ภายในองค์พระพุทธรูปประดิษฐ์สถานเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ และอัญมณี แก้วแหวน เงิน ทอง ที่ผู้มีจิตศรัทธาได้นำมาถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาเป็นจำนวนมากมาย


ระหว่างทางผ่านชม เจดีย์สองพี่น้อง องค์เจดีย์คู่ 2 องค์ ตามตำนานเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงหลังน้ำทักษิโณทกประกาศอิสรภาพจากหงสาวดี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (กุ้งแม่น้ำย่าง ท่านละ 1 ตัว)


จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaik Pun Pagoda) ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกของศิลปะแบบมอญ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม (ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้), พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก) และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดพังทลายและได้มีการบูรณะใหม่ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะสวยงามแตกต่างไปจากองค์อื่นๆ


นำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่า จะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา


คำสวดบูชาพระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีมะเมีย (ม้า) มีคำสวดบูชาดังนี้
ชมพูทีเป วะระฐาเน สิงคุตตะเร มะโนรัมเม สัตตะระตะนัง ปะฐะมัง กะกุสันธัง สุวัณณะทัณฑัง ธาตุโย ฐัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมะนัง ธัมมะกะระณัง ธาตุโย ฐัสสะติ ตะติยัง กัสสะปัง พุทธะจีวะรัง ธาตุโย ฐัสสะติ จะตุตถัง โคตะมะ อัฎฐะเกศะ ธาตุโย ฐัสสะติ ปัญจะมัง อะริยะเมตตเตยโย อะนาคะโต อุตตะมัง ธาตุโย อะหัง วันทามิทูระโต ฯ


เชิญท่าน ขอแม่ยักษ์ ชาวพม่าเชื่อว่าแม่ยักษ์จะช่วยในการตัดกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ให้ชีวิตของคุณมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆ หากกำลังมีทุกข์และหาหนทางไม่ออก สามารถไหว้ขอพรจะแม่ยักษ์ให้ช่วยบันดาลให้สิ่งร้ายๆออกไปจากชีวิต ขอให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆเข้ามา นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าแม่ยักษ์ยังช่วยเรื่องความมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักในหน้าที่การงาน โดยการมาขอพรจากแม่ยักษ์ ของถวายจะเป็นบุหรี่มา คนพม่าเชื่อว่าแม่ยักษ์ท่านจะชอบบุหรี่ สามารถเตรียมบุหรี่มาไหว้แล้วก็จุดขอพรปักไว้ตามที่จัดไว้
ค่ำ
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
พักที่
โรงแรม Summit Parkview หรือ Wyne Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่ สิเรียม อยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงเมืองสิเรียม Syriam นำท่านลงเรือไป ชมเจดีย์เยเลพญา (Yele Paya) เจดีย์นี้สร้างขึ้นบนเกาะกลางน้ำ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เจดีย์กลางน้ำ”นำท่านนมัสการพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิเก่าแก่ที่ประดิษฐานบนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดทองคำเปลวที่งดงาม มีอายุนับพันปี ซึ่งเป็นที่สักการบูชาของชาวพม่าและชาวต่างชาติ ได้เวลาอันสมควรลงเรือกลับและต่อรถปรับอากาศเดินทางกลับย่างกุ้ง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ! เป็ดปักกิ่ง สลัดกุ้งมังกร)


นมัสการ เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung) ซึ่งโบตะทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1000 นาย ได้สร้างเจดีย์โบตะทาวน์นี้และทรงนำพระเกศธาตุ ไว้ 1 เส้น ก่อนที่จะนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์ คือ พระพุธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวามือ เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนัก ตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปี พ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ ต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ต และด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้นนัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ ซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ


วิธีการสักการะเทพทันใจ นำดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะเทพทันใจ ซึ่งท่านจะชอบมาก (บริเวณวัดจะมีขาย) จากนั้นก็ให้ท่านนำเงินเงินบาท (แบงค์ 20, 50, 100 บาท) ไปใส่มือของเทพทันใจ 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บไว้


นำท่านขอพร เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานเล่าว่า เป็นธิดาของพญานาค ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา จนสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตที่ชาวพม่าเคารพกราบไหว้กัน โดยท่านสามารถกระซิบที่ข้างหูเบาๆ ห้ามให้คนอื่นได้ยิน และนำน้ำนมไปจ่อไว้ที่ปาก บูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้


หลังจากนั้นนำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Chauk Htat Gyi Pagoda) ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่า ที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย


จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดงาทัตจี (Nga Htat Gyi Pagoda) ซึ่งมีพระพุธรูปองค์ใหญ่ คือหลวงพ่องาทัตจี แปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์)


จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดสก๊อตมาร์เก็ต ซึ่งสร้างเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ให้ท่านได้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองมากมายในราคาถูก เช่น ไม้แกะสลัก พระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมือง เครื่องเงิน ไข่มุก และหยกพม่า (ตลาดสก๊อตปิดทุกวันจันทร์และเทศกาลวันสงกรานต์)


สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิงกาลาดง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
21.00 น.
ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 4239 (ไม่มีอาหารบนเครื่อง)
22.55 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา