โปรแกรม 4 วัน 3 คืน : เดินทางโดยสายการบินNok Scoot
วันที่ 1 กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) – ซัปโปโร (สนามบินชิโตเซะ) (XW146 04.00 – 12.15+1) – โนโบริเบทสึ – ภูเขา
01.30 น.
คณะพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง ประตูหมายเลข 4 – 6 สายการบินนกสกู๊ตเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
04.00 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ XW146 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.15 น
เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.)
ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
โนโบริเบทสึ เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด ชม หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้น เพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณที่มีควันร้อนๆ พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับเป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือนดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึกห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan) ซึ่งมีอนุสาวรีย์บุรุษไปรษณีย์ผู้ค้นพบความเคลื่อนไหวและการเกิดขึ้นมาใหม่ของภูเขาไฟเกิดใหม่ประมาณปี ค.ศ.1944 -1945 ภูเขาไฟน้องใหม่ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของผิวโลกในปี 1946 ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง 2 ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะชินซัน ดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ” พร้อมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
ฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆไปจนถึงหมีตัวโตน้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคนท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของน้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลมมีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟอูสุระเบิด ตั้งอยู่ใกล้กับ ทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะ(Nakajima Island) สามารถลงไปเดินเล่นได้ (ยกเว้นฤดูหนาว) และเมื่อครั้งอดีต ในวันที่ 7-9 ก.ค. 2008 เหล่าผู้นำ G8 ก็ได้เลือกเป็นที่จัดการประชุม โดยพักกันที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ทะเลสาบแห่งนี้
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก TOYA HOTELหรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
คณะพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง ประตูหมายเลข 4 – 6 สายการบินนกสกู๊ตเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
04.00 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ XW146 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.15 น
เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.)
ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
โนโบริเบทสึ เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด ชม หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้น เพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณที่มีควันร้อนๆ พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับเป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือนดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึกห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan) ซึ่งมีอนุสาวรีย์บุรุษไปรษณีย์ผู้ค้นพบความเคลื่อนไหวและการเกิดขึ้นมาใหม่ของภูเขาไฟเกิดใหม่ประมาณปี ค.ศ.1944 -1945 ภูเขาไฟน้องใหม่ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของผิวโลกในปี 1946 ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง 2 ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะชินซัน ดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ” พร้อมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
ฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆไปจนถึงหมีตัวโตน้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคนท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของน้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลมมีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟอูสุระเบิด ตั้งอยู่ใกล้กับ ทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะ(Nakajima Island) สามารถลงไปเดินเล่นได้ (ยกเว้นฤดูหนาว) และเมื่อครั้งอดีต ในวันที่ 7-9 ก.ค. 2008 เหล่าผู้นำ G8 ก็ได้เลือกเป็นที่จัดการประชุม โดยพักกันที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ทะเลสาบแห่งนี้
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก TOYA HOTELหรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่ 2 เคียวโกคุ – สวนฟุคิดาชิ – โอตารุ – คลองโอตารุ– อิออน มอลล์ – KIRORO RESORT – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
เคียวโกคุ ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของฮอกไกโด ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กบนทางตะวันออกของภูเขา Yotei ด้วยประชากรประมาณ 3,500 คน มันเป็นสถานที่ๆงดงามเพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์และน้ำบริสุทธิ์และมีนักท่องเที่ยว 800,000 คนต่อปี
สวนฟุคิดาชิ Fukidashi เมือง เคียวโกคุเป็นสวนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบทุกช่วงอายุสำหรับน้ำในบ่อน้ำพุที่อร่อยและได้รับเลือกจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมให้เป็นหนึ่งในร้อยน้ำที่บริสุทธิ์ในญี่ปุ่น บ่อน้ำพุเกิดจากน้ำฝนและหิมะที่ไหลอยู่บนภูเขาYotei ในหลายศตวรรษและเป็นบ่อน้ำพุทางธรรมชาติอย่างแท้จริง อุณหภูมิจะอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี โดยอุดมไปด้วยแร่ธาตุ
เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร นำท่านชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
อิออน มอลล์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก KIRORO RESORT หรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
เคียวโกคุ ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของฮอกไกโด ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กบนทางตะวันออกของภูเขา Yotei ด้วยประชากรประมาณ 3,500 คน มันเป็นสถานที่ๆงดงามเพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์และน้ำบริสุทธิ์และมีนักท่องเที่ยว 800,000 คนต่อปี
สวนฟุคิดาชิ Fukidashi เมือง เคียวโกคุเป็นสวนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบทุกช่วงอายุสำหรับน้ำในบ่อน้ำพุที่อร่อยและได้รับเลือกจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมให้เป็นหนึ่งในร้อยน้ำที่บริสุทธิ์ในญี่ปุ่น บ่อน้ำพุเกิดจากน้ำฝนและหิมะที่ไหลอยู่บนภูเขาYotei ในหลายศตวรรษและเป็นบ่อน้ำพุทางธรรมชาติอย่างแท้จริง อุณหภูมิจะอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี โดยอุดมไปด้วยแร่ธาตุ
เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร นำท่านชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
อิออน มอลล์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก KIRORO RESORT หรือเทียบเท่า ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่ 3 โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ – JTC DUTY FREE – ตลาดซัปโปโรโจไง – MITSUI OUTLET PARK SAPPORO – ช้อปปิ้งย่านท
เช้า
บริการรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Shiroi Koibito Park) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมี ช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี้คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักท่าน หรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้
JTC DUTY FREE สินค้าปลอดภาษีต่างๆให้เลือกสามารถให้ทุกท่านช้อปปิ้งอย่างมากมาย
ตลาดซัปโปโรโจไง (Sapporo Jogai Market) ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร (Sapporo’s Central Wholesale Market) เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่างๆจำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ ผลผลิตอื่นๆในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล ราคาก็เหมาะสม ไม่แพงมากนัก
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ตลาดซัปโปโรโจไง
MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
ช้อปปิ้งย่านทานุกิโคจิ เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน Donki ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจหรือถ้าเดินจนหมดแรงที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
ค่ำ
บริการการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร ** พิเศษสุดๆ กับเมนูปูสุดอร่อย 3 ชนิด แบบไม่อั้น **
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T-MARK SAPPORO หรือเทียบเท่า
บริการรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Shiroi Koibito Park) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมี ช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี้คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักท่าน หรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้
JTC DUTY FREE สินค้าปลอดภาษีต่างๆให้เลือกสามารถให้ทุกท่านช้อปปิ้งอย่างมากมาย
ตลาดซัปโปโรโจไง (Sapporo Jogai Market) ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร (Sapporo’s Central Wholesale Market) เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่างๆจำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ ผลผลิตอื่นๆในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล ราคาก็เหมาะสม ไม่แพงมากนัก
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ตลาดซัปโปโรโจไง
MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
ช้อปปิ้งย่านทานุกิโคจิ เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน Donki ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจหรือถ้าเดินจนหมดแรงที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
ค่ำ
บริการการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร ** พิเศษสุดๆ กับเมนูปูสุดอร่อย 3 ชนิด แบบไม่อั้น **
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T-MARK SAPPORO หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ผ่านชมทำเนีบรัฐบาลเก่า ฮอกไกโด – ผ่านชมหอนาฬิกาซัปโปโร – สวนโอโดริ – เนินแห่งพระพุทธเจ้า – โมอายแห่ง
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ผ่านชมทำเนีบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office) เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ที่เลียนแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่า 80 ปีและได้ย้ายไปที่ทำการหลังใหม่เป็นตึกใหม่ทันสมัยสูง 10 ชั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังตึกเก่า แต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ.2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2512
ผ่านชมหอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower ) ตั้งอยู่ท่ามกลางกลุ่มตึกสูงสมัยใหม่ เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่มากและเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร
สวนโอโดริ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีเหล่าพันธุ์ไม้และแปลงดอกไม้แต่งแต้มสีสันตลอดฤดูกาลทั้งสี่ เผยให้เห็นโฉมหน้าที่แตกต่างกันไปตามแต่ละเทศกาลและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองซัปโปโร
เนินแห่งพระพุทธเจ้า หรือ Hill of the Buddha ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโร ที่ถูกออกแบบโดย Mr.Tadao ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น พระพุทธรูปมีความสูงถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1500 ตัน ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู ฤดูร้อนรายล้อมไปด้วยดอกลาเวนเดอร์ ฤดูหนาวก็จะรู้สึกได้ถึงความงดงามของหิมะที่ขาวโพลน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเรียกได้ว่าเป็น Unseen Hokkaido เลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชม โมอายแห่งเมือง ฮอกไกโด หรือที่เรียกว่า (makomanai takino reien) สร้างขึ้นในปี 1982 มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,800,473 ตารางเมตร ด้านในมีรูปปั้นหินโมอายขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเรียงรายอยู่จำนวนมาก
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ สนามบินชิโตเซะ
ทำการเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเซะ
14.55 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการนกสกู๊ต เที่ยวบินที่ XW145 สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
19.55 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ผ่านชมทำเนีบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office) เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ที่เลียนแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่า 80 ปีและได้ย้ายไปที่ทำการหลังใหม่เป็นตึกใหม่ทันสมัยสูง 10 ชั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังตึกเก่า แต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ.2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2512
ผ่านชมหอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower ) ตั้งอยู่ท่ามกลางกลุ่มตึกสูงสมัยใหม่ เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่มากและเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร
สวนโอโดริ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีเหล่าพันธุ์ไม้และแปลงดอกไม้แต่งแต้มสีสันตลอดฤดูกาลทั้งสี่ เผยให้เห็นโฉมหน้าที่แตกต่างกันไปตามแต่ละเทศกาลและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองซัปโปโร
เนินแห่งพระพุทธเจ้า หรือ Hill of the Buddha ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโร ที่ถูกออกแบบโดย Mr.Tadao ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น พระพุทธรูปมีความสูงถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1500 ตัน ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู ฤดูร้อนรายล้อมไปด้วยดอกลาเวนเดอร์ ฤดูหนาวก็จะรู้สึกได้ถึงความงดงามของหิมะที่ขาวโพลน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเรียกได้ว่าเป็น Unseen Hokkaido เลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชม โมอายแห่งเมือง ฮอกไกโด หรือที่เรียกว่า (makomanai takino reien) สร้างขึ้นในปี 1982 มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,800,473 ตารางเมตร ด้านในมีรูปปั้นหินโมอายขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเรียงรายอยู่จำนวนมาก
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ สนามบินชิโตเซะ
ทำการเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเซะ
14.55 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการนกสกู๊ต เที่ยวบินที่ XW145 สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
19.55 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ