OSAKA NAGOYA TOKYO SPRING สงกรานต์ 7วัน 4คืน โดยสายการบินไทย (TG)

สถานที่ทัวร์:
ญี่ปุ่น Japan โอซาก้า - นาโกย่า - โตเกียว Osaka - Nagoya - Tokyo
ระยะเวลา:
7 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Thai Airways International

OSAKA NAGOYA TOKYO SPRING สงกรานต์ 7วัน 4คืน โดยสายการบินไทย (TG)7 วัน 4 คืน

฿0

BKK-KIX

ออกจากBKK
23:59
ถึงKIX
07:20

HND-BKK

ออกจากHND
00:20
ถึงBKK
05:25

โปรแกรม 7 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International

20.00 น.
คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ C สายการบินไทยเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.59 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG622
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.20 น.
เดินทางถึง สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.)


ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]


เมืองนารา (Nara) อดีตเมืองหลวงเก่าของชาวญี่ปุ่น ที่ตั้งขึ้นมาในปี 710 และได้รับอิทธิพลของศาสนาพุทธอย่างเต็มที่ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ยังคงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมไปถึงวัดวาอารามที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วย วัดโทไดจิ (Todaiji) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุทสึ (Daibutsu of Nara) นับเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก จุดเด่น คืออาคารหลักของวัดแห่งนี้ เป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลวงพ่อโตหรือ ไดบุตสึ ยังเด่นที่ประดิษฐานด้านในอาคารหลักนี่ ซึ่งก็เรียกได้ว่ามีขนาดที่ใหญ่มากที่สุดของญี่ปุ่น มีความสูงมากถึง 15 เมตร วัดแห่งนี้นั้นถูก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 สามารถตรัสรู้ได้ และเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักท่องเที่ยวก็คือเจ้ากวางน้อยใหญ่ที่เดินควักไขว่ไปมา ซึ่งก็สามารถให้อาหารกวางเหล่านั้นด้วยขนมแซมเบ้ที่ทำมาสำหรับกวางโดยเฉพาะ โดยจะมีร้านที่ขายราคาก็จะอยู่ประมาณห่อละ 150 เยน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร


เมืองเกียวโต (Kyoto) อดีตเมืองหลวงและที่พำนักของจักรพรรดิญี่ปุ่น ในช่วงปี 794 – 1868 และปัจจุบันนี้ก็เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ รวมทั้งมีประชากรอีกราวๆ 1.4 ล้านคน ซึ่งสภาพบ้านเมืองยังคงอนุรักษ์เอาไว้ในสภาพอดีตซะเป็นส่วนมาก อาราชิยาม่า (Arashiyama) เป็นอีกเขตหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน อยู่ทางตะวักตกของเกียวโต โดยเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยเฮอัน (794-1185) เป็นต้นมา และจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างคับคั่งในช่วงที่ดอกซากุระบานและช่วงใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสี ตัวเมืองอาราชิยาม่านั้นจะคึกคักมากในช่วงวันหยุด มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ สถานที่ที่ได้รับความนิยมอีกที่หนึ่งเมื่อมาถึงเมืองนี้ก็คือ อุโมงค์ป่าไผ่ (Bamboo) ทางเดินที่โอบล้อมด้วยต้นไผ่สีเขียวที่สูงมาก ส่วนทางตอนเหนือของเมืองนั้นจะมีวัดเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป


จุดท่องเที่ยวที่สวยงามอีกทีนึงก็คือซากาโน่ ที่ตั้งของ สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo) ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์อาราชิยาม่า เป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำสายใหญ่ของเมือง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้กับตัวเมืองมากนัก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านการค้าของเกียวโต


ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fujimi-inari) หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต (Shinto) ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต มีชื่อเสียงโด่งดังจาก ประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ (Mt. Inari) ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดย เทพอินาริ (หรือ พระแม่โพสพ ตามความเชื่อของไทย) จะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย (บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว อีกทั้งที่แห่งนี้ยังได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เรื่อง MEMOIRS OF GEISHA อีกด้วย


สถานีรถไฟเกียวโต [JR KYOTO STATION] เป็นสถานีรถไฟสายหลักของเกียวโต และเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น มีการออกแบบอาคารให้ดูสมัยใหม่ และยังเป็นแหล่งศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารมากมายตั้งอยู่เรียงรายทั้งด้านในและด้านนอกสถานี แถมที่นี้ยังมีศูนย์การค้า Porta ขนาดใหญ่ให้ได้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย


อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ แหล่งช้อปปิ้ง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก KYOTO HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


ทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) หรือ “บิวะโกะ” (Biwa-Ko) ทะเลสาบน้ำจืดตั้งอยู่ในจังหวัดชิงะ บนเกาะฮอนชู หากเคยอ่านวรรณกรรมโบราณหลายเรื่องของญี่ปุ่นก็จะพบกับชื่อของทะเลสาบบิวะนี้อยู่บ่อยครั้งเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเกียวโตซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่น วรรณกรรมในสมัยนั้นจึงใช้ทะเลสาบบิวะเป็นเป็นฉากประกอบซะส่วนมาก และ ทะเลสาบนี้ยังเป็นศูนย์รวมของแม่น้ำหลายสายที่ไหลมาบรรจบกันจนกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ราว 670 ตารางกิโลเมตร ชื่อเดิมของทะเลสาบคือ “โอมิ” (Omi) แต่มาเปลี่ยนเป็น บิวะโกะในสมัยเอโดะ และจากข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์สรุปได้ว่าทะเลสาบบิวะมีอายุเก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว


ศาลเจ้าชิราฮิเงะ (Shirahige Shrine) เป็นศาลเจ้าที่ปัจจุบันได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากในฐานะจุดเสริมดวงชะตา ตั้งอยู่ในเมืองทะคะชิมะ (Takashima City) ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบบิวะ สร้างขึ้นเมื่อราว 1,900 ปีก่อน และเป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานที่สุดในจังหวัดชิงะ (Shiga) เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าที่ให้พรเพื่อให้มีอายุยืนยาว มี เสาโทริอิ สีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้ายืนตระหง่านอยู่กลางทะเลสาบ เป็นภาพภูมิทัศน์ที่งดงามราวภาพวาด
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร


ถนนต้นสน Metasequoia Namiki (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) ถนนที่เส้นตรงที่ปกคลุมไปด้วยต้นสนพันธุ์ Metasequoia หรือเรียกอีกชื่อว่า ต้นเมต้า ตั้งอยู่ชานเมืองทะคะชิมะ (Takashima City) สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นเมต้าจำนวนกว่า 500 ต้น แต่ละต้นปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบทั้งสองข้างทาง บางช่วงกิ่งก้านของต้นเมต้าจะโน้มเข้าหากัน ราวกับเป็นอุโมงค์ต้นไม้เป็นวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ความงามของถนนทิวสนนี้สามารถชมได้ทุกฤดู คือในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนทิวสนจะเขียวชอุ่มเป็นพุ่มสวยงาม ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วงคือประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ต้นเมต้าผลัดใบเป็นสีส้มเหลือง ส่วนในฤดูหนาวกิ่งก้านของต้นเมต้าจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เป็นทัศนียภาพที่งดงามหายากในญี่ปุ่น


MITSUI OUTLET JAZZ DREAM NAGASHIMA ให้ท่านอิสระเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำและร้านอาหารญี่ปุ่นและอาหารนานาชาติกว่า 240 ร้านเลยทีเดียว ที่นี่ถือเอาท์เล็ทที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นมีความมีความใหญ่ประมาณ 39,000 ตารางเมตร และถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับเมืองนิวออร์ลีนส์ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตะวันตกของอเมริกาอีกด้วย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก GUJO HACHIMAN ONSEN หรือเทียบเท่า
หลังอาหารค่ำ ให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


เมืองกุโจฮะจิมัง เมืองที่หลงเหลือบรรยากาศแบบย้อนยุคสมัยอดีต กุโจฮะจิมังมีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ ซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลสะท้อนไปทั่วทั้งตัวเมือง ด้วยบรรยากาศที่ทำให้หวนนึกถึงอดีตนั้น ทำให้ทั้งเมืองเสมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่งก็ว่าได้ เพียงแค่เดินในเมืองแห่งนี้ ก็จะสามารถสัมผัสบรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปอดีตได้อย่างแน่นอน


พิพิธภัณฑ์กุโจฮะจิมัง ฮาคุรันคัง ที่รวบรวมเสน่ห์ของเมืองกุโจฮะจิมังเอาไว้ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิธีการร่ายรำกุโจโอโดริ ซึ่งเป็นการร่ายรำประจำเมืองที่ในทุกช่วงฤดูร้อนจะมีการจัดเทศกาลการร่ายรำสุดยิ่งใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นขึ้น โดยจะจัดต่อเนื่องกันถึง 33 คืน ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน นอกจากนี้ยังมีโซนเรียนรู้ประวัติศาสตร์และการร่ายรำจากผู้รู้อย่างใกล้ชิด รวมถึงจุดจำหน่ายขนมและของฝากประจำเมืองกุโจอีกด้วย พร้อมโขว์การสาธิตระบำพื้นเมือง Odori Dance คือการเต้นรำชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ผู้แสดงจะแต่งกายสีสันสดใสมาร่วมเต้นรำ เครื่องดนตรีประกอบไปด้วย ชามิเซ็ง, กลองไทโกะ และขลุ่ย ธีมหลักของงานก็คือการบ้าไปด้วยกัน หรือ อาจจะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่างานเต้นของคนบ้านั้นเอง


ร้านมีด Hamono-ya Sansu เป็นร้านที่เครื่องมีดต้นตำหรับของเมืองเซกิ ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 75 ปี สถานที่ที่ผลิตมีดได้คมสุด ๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการตีดาบญี่ปุ่นอย่างดาบเซกิ สำหรับที่ร้านซันชูนี้มีเครื่องใช้ของมีคมต่างๆ มากมายกว่า 3,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นมีดหรือกรรไกรตัดแต่งกิ่งและสวน กรรไกรตัดเล็บ กรรไกรหลากขนาด หรือมีดสำหรับทำครัวหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้การเตรียมวัตถุดิบของคุณง่ายยิ่งขึ้นอกจากนี้ยังมีดาบญี่ปุ่น ขนมและเครื่องดื่มเย็นๆ จำหน่ายอีกด้วย พร้อมทั้งสามารถชมสุดยอดการแสดงดาบของวิชาอิไอกิริ ได้แบบใกล้ๆ ด้วยการใช้ดาบซามูไรฟันฉับเดียวต้นไผ่ขาดเป็น 2 ท่อน!!
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร


หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ดั้งเดิม และยังได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในเดือนธันวาคม 1995 โครงสร้างของบ้านสามารถรองรับหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี และรูปร่างของหลังคาเหมือนกับสองมือพนมของพระเจ้า จึงเรียกหมู่บ้านสไตล์นี้ว่า “กัสโช” และมีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลไปชมความงามในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 680,000 คน เลยทีเดียว
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร


นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MUTSUMOTO HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) ที่เป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือต่างชาติก็ตามมักจะมาหาที่พักผ่อนในบริเวณนี้มากกว่าทะเลสาบที่เหลืออีกสี่แห่ง ดังนั้นรอบๆ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยโรงแรม, ร้านอาหาร, และร้านขายของที่ระลึกมากมาย


สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร


ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตร จากระดับน้ำทะเล นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิดยังบริเวณ “ชั้น 5” ของภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟที่ สามารถมองเห็นทะเลสาบทั้งห้ากระจายอยู่โดยรอบ ให้ท่านได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์บนยอดเขาฟูจิ ถ่ายภาพที่ระลึกกับภูเขาไฟที่ได้ชื่อว่ามีสัดส่วนสวยงามที่สุดในโลก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท และมีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
หมายเหตุ: ในกรณีที่ ภูเขาไฟฟูจิไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็น Fuji Visitor Center ซึ่งท่านสามารถศึกษาความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิและเลือกซื้อของที่ระลึกเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิได้ และยังเป็นจุดถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามในช่วงฤดูหนาว


เมืองโตเกียว (Tokyo) นำท่านช้อปปิ้งที่ ย่านชินจูกุ (Shinjuku) แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ในแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากถึง 2.5 ล้านคนที่ใช้บริการสถานีแห่งนี้ ทางด้านตะวันตกย่านนี้ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าหลายอาคาร มีทั้งโรงแรมชั้นนำ และในส่วนทางด้านตะวันออกนั้นคือ คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Bic Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่นร้านอิซากายะ (Izakaya)


อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ แหล่งช้อปปิ้ง
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก TOKYO HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ เป็นวัดที่เก่าแก่และได้รับความเคารพจากชาวกรุงโตเกียวอย่างมาก เพราะภายในอารามประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร และยังมี โคมไฟยักษ์ 4.5 เมตร ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ในนามประตูฟ้าคำรณและท่านจะได้สนุกกับการเดินเลือกดูสินค้าต่างๆ สองข้างทางของ ถนนนากามิเซะ ซึ่งมีร้านค้าขายของที่ระลึกต่างๆ มากมาย อาทิ ขนมนานาชนิด ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึกฯลฯ


ย่านชิบูย่า (Shibuya) แหล่งช้อปปิ้งสตรีทที่ยิ่งใหญ่สุดๆในโตเกียว รายล้อมไปด้วยห้างฯต่างๆและร้านค้าอีกนับพัน ซึ่งมีห้างฯ SHIBUYA 109 ที่รวบรวมร้านค้าแฟชั่นไว้มากมายรวมทั้งมีรูปปั้น “ฮาจิโกะ” หรือเจ้าหมาแสนซื่อสัตย์ฮาจิ ที่เฝ้ารอคอยเจ้านายหน้าสถานีชิบูย่า ตราบจนวันตายของมัน


อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ แหล่งช้อปปิ้ง


โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะรวมศูนย์กลางความบันเทิง ย่านเมืองใหม่ที่เกิดจากการถมทะเลขึ้นมาเป็นเกาะ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1850 เกาะนี้เป็นที่แสดงให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ และศักยภาพของชาวญี่ปุ่น ที่สามารถสร้าง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ขึ้นมาให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายชนิดที่ห้างไดเวอร์ซิตี้ ซึ่งภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงมากมาย และให้ท่านถ่ายรูปกับกันดั้มตัวใหม่ RX-0 Unicorn ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ และใหม่ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมากับห้างสรรพสินค้าแห่งอนาคตของโดราเอมอน หรือ Doraemon Future Department ขึ้นชื่อว่าเป็น ร้านค้าของโดราเอมอนแห่งแรกของโลก ภายในจึงประกอบด้วยโซนร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ทั้งหมดของโดราเอมอนและเพื่อนๆ รวมถึงมีสินค้าหายากที่มีวางจำหน่ายเฉพาะที่นี่เท่านั้น เรียกได้ว่ามีสินค้าให้แฟนๆ ได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจเลยทีเดียว ว่ากันว่า นี่คือสถานที่ที่เหล่าสาวก “โดราเอม่อน” ควรมาเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ ราวกับยกออกมาจากการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นโซน “Secret Gadgets Lab” ที่จำลองบรรยากาศภายในให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับว่ากำลังได้สัมผัสกับของวิเศษที่ออกมาจากกระเป๋าของโดราเอม่อนอย่างที่ปรากฎอยู่ในเรื่อง รวมถึงโซน “Customization” ที่ให้แฟนๆ ของโดราเอม่อนได้ สร้างของวิเศษ ที่จะมีเพียงหนึ่งเดียวเป็นของตัวเองอีกด้วยและห้างสรรพสินค้าอควาซิตี้ ห้างดังของย่านนี้ที่ไม่ควรพลาด เพราะทั้งร้านค้าไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าต่างๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโรงภาพยนตร์ที่มีถึง 13 โรงด้วยกัน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ชั้น 5 เป็น ราเม็ง ฟู๊ด ทีมพาร์ค รวบรวมราเม็งชนิดต่างๆจากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ สำคัญด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าสามารถมองเห็นสะพานสายรุ้งได้อย่างชัดเจน


อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ แหล่งช้อปปิ้ง

สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่สนามบินฮาเนดะ

00.20 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG661
สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
05.25 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา