โปรแกรม 6 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airasia X
วันที่ 1 กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) – ซัปโปโร (สนามบินชิโตเซะ) (XJ620 : 02.10 – 10.40+1)
23.00 น.
นัดพบกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ประตู 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดสัมภาระ
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้ ]
นัดพบกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ประตู 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดสัมภาระ
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้ ]
วันที่ 2 ซัปโปโร (สนามบินชิโตเซะ) – เมืองซัปโปโร – เมืองฟุราโน่ – นิงเกิ้ลเทอเรส – สุนัขลากเลื่อน – กิจกรรม ล
02.10 น.
ออกเดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น สนามบินชิโตเซะ โดย สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ620 (บริการอาหารร้อนบนเครื่อง)
10.40 น.
เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้ ]
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองฟุราโน่ (FURANO) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีอากาศเย็นและแห้งประกอบกับดินแถบนั้นเป็นดินภูเขาไฟ จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะดอกไม้ แต่ในช่วงเวลาที่เป็นหิมะ ก็จะเป็นลานหิมะขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา หน้าหนาวจะสวยมาก เมืองที่ตั้งอยู่ในกลางเกาะฮอกไกโด
หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (NINGLE TERRACE) เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าแบบออริจินัลของท้องถิ่น ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านกลางป่า คล้ายหมู่บ้านในเทพนิยาย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองอาซาฮีคาว่า ที่ตั้งอยู่กลางเกาะฮอกไกโด
ชมความน่ารักของ สุนัขลากเลื่อน (DOG SLED) ณ ลานสกีหิมะขาวโพลน อิสระให้ท่านถ่ายรูปกับสุนัขลากเลื่อน ฟรี!! นอกจากสุนัขแล้ว ยังมีสัตว์อื่นๆ อีกมากมายหลายชนิด
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
ลานสกี ชิคิไซโนะโอกะ ภายในลานสกีมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ภายในลานสกี ไม่ว่าจะเป็นการเช่า SNOW MOBILE, บาบาน่าสโนว์ ให้อาหารสัตว์น่ารักคือ อัลปากา
** ไม่รวมอัตราค่าเช่าอุปกรณ์, ชุดสำหรับเล่นสกี และ เครื่องเล่นทุกชนิด **
***กิจกรรมเล่นหิมะ ณ ลานสกี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ ความสูงของหิมะ ***
อิออน มอลล์ อาซาฮิคาว่า (AEON MALL ASAHIKAWA) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ อิออน มอลล์ อาซาฮีคาว่า
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก WING ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า
ออกเดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น สนามบินชิโตเซะ โดย สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ620 (บริการอาหารร้อนบนเครื่อง)
10.40 น.
เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้ ]
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองฟุราโน่ (FURANO) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีอากาศเย็นและแห้งประกอบกับดินแถบนั้นเป็นดินภูเขาไฟ จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะดอกไม้ แต่ในช่วงเวลาที่เป็นหิมะ ก็จะเป็นลานหิมะขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา หน้าหนาวจะสวยมาก เมืองที่ตั้งอยู่ในกลางเกาะฮอกไกโด
หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (NINGLE TERRACE) เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าแบบออริจินัลของท้องถิ่น ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านกลางป่า คล้ายหมู่บ้านในเทพนิยาย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองอาซาฮีคาว่า ที่ตั้งอยู่กลางเกาะฮอกไกโด
ชมความน่ารักของ สุนัขลากเลื่อน (DOG SLED) ณ ลานสกีหิมะขาวโพลน อิสระให้ท่านถ่ายรูปกับสุนัขลากเลื่อน ฟรี!! นอกจากสุนัขแล้ว ยังมีสัตว์อื่นๆ อีกมากมายหลายชนิด
กลางวัน
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
ลานสกี ชิคิไซโนะโอกะ ภายในลานสกีมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ภายในลานสกี ไม่ว่าจะเป็นการเช่า SNOW MOBILE, บาบาน่าสโนว์ ให้อาหารสัตว์น่ารักคือ อัลปากา
** ไม่รวมอัตราค่าเช่าอุปกรณ์, ชุดสำหรับเล่นสกี และ เครื่องเล่นทุกชนิด **
***กิจกรรมเล่นหิมะ ณ ลานสกี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และ ความสูงของหิมะ ***
อิออน มอลล์ อาซาฮิคาว่า (AEON MALL ASAHIKAWA) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ อิออน มอลล์ อาซาฮีคาว่า
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก WING ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ล่องเรือตัดน้ำแข็ง – เมืองอาซาฮิคาว่า – หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า – ถนนคนเดิน เฮวะโดริ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมอนเบ็ทสึ เป็นเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโด และเป็นจุดตั้งต้นอีกแห่งในการออกเรือตัดน้ำแข็ง
ล่องเรือตัดน้ำแข็ง โดยเรือจะวิ่งตัดทะเลน้ำแข็งออกไปนอกชายฝั่งทะเลโอคอทสก์ นำนักท่องเที่ยวไปชมก้อนน้ำแข็งที่ลอยมาจากขั้วโลกเหนือ ในช่วงปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม หากโชคดี อาจจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มาจากฝั่งทะเลตอนเหนือ เช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (STELLER’S SEA EAGLE) และแมวน้ำลายจุด เดิมเรือนี้ใช้เพื่อสำรวจน้ำมันในรัฐอลาสก้า เริ่มนำมาใช้ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2004 การล่องเรือแต่ละรอบใช้เวลา 45 นาที ถึง1 ชั่วโมง
**เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น จะระบุประเภทของเรือและท่าเรืออีกครั้งก่อนเดินทาง ทั้งนี้จุดขึ้นเรือตัดน้ำแข็งมี 2 จุดที่สามารถชมได้คือที่จุดมอมเบะสึท่าเรือกะนิงโกะสเตชั่น และที่อะบะชิริท่าเรือออโรร่า เทอร์มินอล**
หมู่บ้านราเมง (RAMEN VILLAGE) ซึ่งเมืองแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์การทำราเมนมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีน้ำซุปแบบฉบับของตัวเอง โดยหมู่บ้านราเมน ถือกำเนิดมาในปี 1996 เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสรสชาติแบบดั้งเดิมของร้านราเมนที่มีชื่อเสียงทั้ง 8 ร้านได้อย่างเต็มที่
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ หมู่บ้านราเมน
เดินทางกลับสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า (ASAHIKAWA) ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองในเกาะฮอกไกโด รองจากซัปโปโร เมื่อเทียบกับซัปโปโรแล้ว ที่นี่อาจจะไม่ได้ดูเจริญแบบเหมือนซัปโปโร แต่ที่นี่มีสวนสัตว์ชื่อดังอันดับสองของญี่ปุ่น และมีความใหญ่ของสถานีรถไฟ JR ASAHIKAWA ที่ตกแต่งโทนอบอุ่นด้วยสีไม้สบายตาอีกด้วย ใกล้ๆกันจะมี AEON MALL ที่เชื่อมกับสถานีรถไฟ
ถนนคนเดินเฮวะโดริ (HEIWA-DORI SHOPPING STREET) ถนนสายนี้นับได้ว่าเป็นถนนคนเดินสายแรกของญี่ปุ่น โดยเริ่มกันมาตั้งแต่ปี 1972 มีร้านค้า ร้านอาหารตั้งอยู่เรียงรายมากมาย สองข้างทางยาวออกไปจากสถานี JR ASAHIKAWA ถึง 1 กิโลเมตร ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย ณ ถนนคนเดิน เฮวะโดริ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก WING ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมอนเบ็ทสึ เป็นเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโด และเป็นจุดตั้งต้นอีกแห่งในการออกเรือตัดน้ำแข็ง
ล่องเรือตัดน้ำแข็ง โดยเรือจะวิ่งตัดทะเลน้ำแข็งออกไปนอกชายฝั่งทะเลโอคอทสก์ นำนักท่องเที่ยวไปชมก้อนน้ำแข็งที่ลอยมาจากขั้วโลกเหนือ ในช่วงปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม หากโชคดี อาจจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มาจากฝั่งทะเลตอนเหนือ เช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (STELLER’S SEA EAGLE) และแมวน้ำลายจุด เดิมเรือนี้ใช้เพื่อสำรวจน้ำมันในรัฐอลาสก้า เริ่มนำมาใช้ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2004 การล่องเรือแต่ละรอบใช้เวลา 45 นาที ถึง1 ชั่วโมง
**เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น จะระบุประเภทของเรือและท่าเรืออีกครั้งก่อนเดินทาง ทั้งนี้จุดขึ้นเรือตัดน้ำแข็งมี 2 จุดที่สามารถชมได้คือที่จุดมอมเบะสึท่าเรือกะนิงโกะสเตชั่น และที่อะบะชิริท่าเรือออโรร่า เทอร์มินอล**
หมู่บ้านราเมง (RAMEN VILLAGE) ซึ่งเมืองแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์การทำราเมนมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีน้ำซุปแบบฉบับของตัวเอง โดยหมู่บ้านราเมน ถือกำเนิดมาในปี 1996 เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสรสชาติแบบดั้งเดิมของร้านราเมนที่มีชื่อเสียงทั้ง 8 ร้านได้อย่างเต็มที่
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ หมู่บ้านราเมน
เดินทางกลับสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า (ASAHIKAWA) ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองในเกาะฮอกไกโด รองจากซัปโปโร เมื่อเทียบกับซัปโปโรแล้ว ที่นี่อาจจะไม่ได้ดูเจริญแบบเหมือนซัปโปโร แต่ที่นี่มีสวนสัตว์ชื่อดังอันดับสองของญี่ปุ่น และมีความใหญ่ของสถานีรถไฟ JR ASAHIKAWA ที่ตกแต่งโทนอบอุ่นด้วยสีไม้สบายตาอีกด้วย ใกล้ๆกันจะมี AEON MALL ที่เชื่อมกับสถานีรถไฟ
ถนนคนเดินเฮวะโดริ (HEIWA-DORI SHOPPING STREET) ถนนสายนี้นับได้ว่าเป็นถนนคนเดินสายแรกของญี่ปุ่น โดยเริ่มกันมาตั้งแต่ปี 1972 มีร้านค้า ร้านอาหารตั้งอยู่เรียงรายมากมาย สองข้างทางยาวออกไปจากสถานี JR ASAHIKAWA ถึง 1 กิโลเมตร ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย ณ ถนนคนเดิน เฮวะโดริ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก WING ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า– เมืองโอตารุ – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ – ร้านกาแ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (ASAHIYAMA ZOO) สวนสัตว์แห่งนี้ได้ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติที่สัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดีและและสอดคล้องตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ นักท่องเที่ยวจะได้รับความสุขในการเข้าชม ภายใน สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า มีส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจมากมายโดยมีจุดเด่นที่มีสัตว์น้อยน่ารักนานาชนิด ทั้งจำพวกสัตว์เมืองหนาวและเมืองร้อน เช่น สัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด อย่างกวาง นกอินทรี หมาป่า และสัตว์อื่นๆจากทั่วทุกมุมโลก เช่น หมีขั้วโลก ลิง แมวใหญ่ และยีราฟ และสิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ อุโมงค์แก้วผ่านสระว่ายน้ำของเหล่าเพนกวิน และโดมแก้วขนาดเล็กที่อยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ผู้เข้าชมจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน สวนสัตว์แห่งนี้เป็นแห่งแรกที่มีการจัดให้นกเพนกวินออกเดินในช่วงฤดูหนาว ท่านจะได้ ชมความน่ารักของขบวนพาเหรดเพนกวิน แบบใกล้ชิดอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโอตารุ
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ โอตารุ
เมืองโอตารุ เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง “คลองโอตารุ” หรือ “โอตารุอุนงะ” มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกคลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร ชม
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (OTARU MUSIC BOX MUSEUM) ได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองโอตารุจากการที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 ด้วยตัวอาคารมีขนาดใหญ่เป็นอิฐแดงดูเปลือยๆหากดูงดงามแปลกตา สิ่งสะดุดตาที่เป็นจุดสังเกตของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั่นก็คือ นาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษ ที่ยังคงใช้งานได้มาถึงปัจจุบันและเหลือเพียง 2 เรือนในโลกเท่านั้น ภายในตกแต่งแบบผสมผสานทั้งความหรูหรา มีการจัดแสดงกล่องดนตรีโบราณและหลากสไตล์กว่า 25,000 ชิ้น
จากนั้นชม โรงงานเครื่องแก้วคิตะอิจิ (KITAICHI GLASS) นับเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ เป็นแหล่งผลิตเครื่องแก้วคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน มีประวัติความเป็นมานานมากเป็นร้อยๆปี ภายในอาคารมีการตกแต่งด้วยโคมไฟแก้วจำนวนมากอย่างหรูหรา ประกอบด้วยส่วนต่างๆอย่าง คาเฟ่ที่มีบริการทั้งขนมหวานและอาหารญี่ปุ่นตกแต่งด้วยเครื่องแก้วนานาชนิดดูงดงาม ส่วนจัดแสดงเครื่องแก้วชนิดต่างๆตั้งแต่ในยุคอดีต ชมการสาธิตการเป่าแก้วด้วยกรรมวิธีโบราณ
นำท่านสู่ ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
นำท่านสู่ ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร่ ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน
นำท่าน ช้อปปิ้ง MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ OUTLET MALL ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง KITA-HIROSHIMA ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร พิเศษ!!! บุฟเฟ่ต์ ขาปูยักษ์ 3 ชนิด
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T MARK SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (ASAHIYAMA ZOO) สวนสัตว์แห่งนี้ได้ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติที่สัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดีและและสอดคล้องตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ นักท่องเที่ยวจะได้รับความสุขในการเข้าชม ภายใน สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า มีส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจมากมายโดยมีจุดเด่นที่มีสัตว์น้อยน่ารักนานาชนิด ทั้งจำพวกสัตว์เมืองหนาวและเมืองร้อน เช่น สัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด อย่างกวาง นกอินทรี หมาป่า และสัตว์อื่นๆจากทั่วทุกมุมโลก เช่น หมีขั้วโลก ลิง แมวใหญ่ และยีราฟ และสิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ อุโมงค์แก้วผ่านสระว่ายน้ำของเหล่าเพนกวิน และโดมแก้วขนาดเล็กที่อยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ผู้เข้าชมจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน สวนสัตว์แห่งนี้เป็นแห่งแรกที่มีการจัดให้นกเพนกวินออกเดินในช่วงฤดูหนาว ท่านจะได้ ชมความน่ารักของขบวนพาเหรดเพนกวิน แบบใกล้ชิดอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโอตารุ
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ โอตารุ
เมืองโอตารุ เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง “คลองโอตารุ” หรือ “โอตารุอุนงะ” มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกคลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร ชม
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (OTARU MUSIC BOX MUSEUM) ได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองโอตารุจากการที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 ด้วยตัวอาคารมีขนาดใหญ่เป็นอิฐแดงดูเปลือยๆหากดูงดงามแปลกตา สิ่งสะดุดตาที่เป็นจุดสังเกตของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั่นก็คือ นาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษ ที่ยังคงใช้งานได้มาถึงปัจจุบันและเหลือเพียง 2 เรือนในโลกเท่านั้น ภายในตกแต่งแบบผสมผสานทั้งความหรูหรา มีการจัดแสดงกล่องดนตรีโบราณและหลากสไตล์กว่า 25,000 ชิ้น
จากนั้นชม โรงงานเครื่องแก้วคิตะอิจิ (KITAICHI GLASS) นับเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ เป็นแหล่งผลิตเครื่องแก้วคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน มีประวัติความเป็นมานานมากเป็นร้อยๆปี ภายในอาคารมีการตกแต่งด้วยโคมไฟแก้วจำนวนมากอย่างหรูหรา ประกอบด้วยส่วนต่างๆอย่าง คาเฟ่ที่มีบริการทั้งขนมหวานและอาหารญี่ปุ่นตกแต่งด้วยเครื่องแก้วนานาชนิดดูงดงาม ส่วนจัดแสดงเครื่องแก้วชนิดต่างๆตั้งแต่ในยุคอดีต ชมการสาธิตการเป่าแก้วด้วยกรรมวิธีโบราณ
นำท่านสู่ ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง คิตตี้ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
นำท่านสู่ ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร่ ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน
นำท่าน ช้อปปิ้ง MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ OUTLET MALL ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง KITA-HIROSHIMA ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร พิเศษ!!! บุฟเฟ่ต์ ขาปูยักษ์ 3 ชนิด
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T MARK SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 เมืองซัปโปโร – ภูเขาไฟโชวะชินซัน – ฟาร์มหมีสีน้ำตาล – ทะเลสาบโทยะ – หุบเขานรกจิโกกุดานิ – ช้อปปิ้งทา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
ชมภูเขาไฟโชวะชินซัน (SHOWA-SHINZAN) ซึ่งมีอนุสาวรีย์บุรุษไปรษณีย์ผู้ค้นพบความเคลื่อนไหวและการเกิดขึ้นมาใหม่ของภูเขาไฟเกิดใหม่ประมาณปี ค.ศ.1944 -1945 ภูเขาไฟน้องใหม่ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของผิวโลกในปี1946ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง2ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะชินซัน ดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ” พร้อมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
ชมฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (SHOWA-SHINZAN BEAR PARK) เป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆไปจนถึงหมีตัวโตน้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคนท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของน้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี
ทะเลสาบโทยะ (LAKE TOYA) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ (LAKE SHIKOTSU) ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อน อากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
หุบเขานรกจิโกกุดานิ (JIGOKUDANI) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ SHIKOTSU-TOYA เมือง NOBORIBETSU ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับ เป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือน ดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซัปโปโร
อิสระ ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง UNIQLO, NEW BALANCE, ADIDAS, PUMA เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน DAISO ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน DONKI ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ หรือถ้าเดินจนหมดแรง ที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
จากนั้นให้ท่าน อิสระช้อปปิ้งย่าน ซูซูกิโนะ (SUSUKINO) เป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ซูซูกิโนะเต็มไปด้วยร้านค้า5,000 ร้านและร้านอาหาร แสงไฟนีออนเรียงรายในเวลากลางคืน และถือเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของเมืองซัปโปโรอีกด้วย โดยอยู่ถัดลงมาทางใต้จากสวนโอโดริราวๆ 500 เมตรและอยู่รอบๆ สถานีรถไฟใต้ดิน SUSUKINO ในเวลาค่ำคืนบรรดาป้ายไฟโฆษณาบนตึกต่างๆในย่านนี้จะเปิดไฟประชันกัน สีสันละลานตาดึงดูดลูกค้ากันเต็มที่ รอบๆบริเวณนี้มีร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรี ทั้งไนต์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด รวมกันมากกว่า 4,000 ร้าน ตั้งอยู่ในตรอกซอกซอย บางร้านก็ซ่อนอยู่ในตึกต้องขึ้นลิฟต์ไป แต่ก็มีพนักงานออกมาเรียกลูกค้าเสนอเมนูและบริการของร้านตนเองอยู่ริมถนนเต็มไปหมด ย่านซูซูกิโนะ มักจะมีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวว่าเป็น “ตรอกราเมน” เพราะบริเวณนี้มีร้านราเมนให้เลือกทานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มิโสะราเมน ชิโอะราเมน เคอร์รี่ราเมน เป็นต้น โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 750 เยนเท่านั้น
อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย ณ ซูซูกิโนะ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T MARK SAPPORO หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
ชมภูเขาไฟโชวะชินซัน (SHOWA-SHINZAN) ซึ่งมีอนุสาวรีย์บุรุษไปรษณีย์ผู้ค้นพบความเคลื่อนไหวและการเกิดขึ้นมาใหม่ของภูเขาไฟเกิดใหม่ประมาณปี ค.ศ.1944 -1945 ภูเขาไฟน้องใหม่ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของผิวโลกในปี1946ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง2ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะชินซัน ดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ” พร้อมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
ชมฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (SHOWA-SHINZAN BEAR PARK) เป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆไปจนถึงหมีตัวโตน้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคนท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของน้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี
ทะเลสาบโทยะ (LAKE TOYA) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ (LAKE SHIKOTSU) ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อน อากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
หุบเขานรกจิโกกุดานิ (JIGOKUDANI) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ SHIKOTSU-TOYA เมือง NOBORIBETSU ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับ เป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือน ดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซัปโปโร
อิสระ ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง UNIQLO, NEW BALANCE, ADIDAS, PUMA เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน DAISO ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน DONKI ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ หรือถ้าเดินจนหมดแรง ที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
จากนั้นให้ท่าน อิสระช้อปปิ้งย่าน ซูซูกิโนะ (SUSUKINO) เป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ซูซูกิโนะเต็มไปด้วยร้านค้า5,000 ร้านและร้านอาหาร แสงไฟนีออนเรียงรายในเวลากลางคืน และถือเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของเมืองซัปโปโรอีกด้วย โดยอยู่ถัดลงมาทางใต้จากสวนโอโดริราวๆ 500 เมตรและอยู่รอบๆ สถานีรถไฟใต้ดิน SUSUKINO ในเวลาค่ำคืนบรรดาป้ายไฟโฆษณาบนตึกต่างๆในย่านนี้จะเปิดไฟประชันกัน สีสันละลานตาดึงดูดลูกค้ากันเต็มที่ รอบๆบริเวณนี้มีร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรี ทั้งไนต์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด รวมกันมากกว่า 4,000 ร้าน ตั้งอยู่ในตรอกซอกซอย บางร้านก็ซ่อนอยู่ในตึกต้องขึ้นลิฟต์ไป แต่ก็มีพนักงานออกมาเรียกลูกค้าเสนอเมนูและบริการของร้านตนเองอยู่ริมถนนเต็มไปหมด ย่านซูซูกิโนะ มักจะมีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวว่าเป็น “ตรอกราเมน” เพราะบริเวณนี้มีร้านราเมนให้เลือกทานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มิโสะราเมน ชิโอะราเมน เคอร์รี่ราเมน เป็นต้น โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 750 เยนเท่านั้น
อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย ณ ซูซูกิโนะ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก T MARK SAPPORO หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 ซัปโปโร (สนามบินชิโตเซะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) (XJ621 : 11.55 – 18.00 น.)
ชมฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (SHOWA-SHINZAN BEAR PARK) เป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆไปจนถึงหมีตัวโตน้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคนท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของน้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี
ทะเลสาบโทยะ (LAKE TOYA) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ (LAKE SHIKOTSU) ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อน อากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์
อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย
หุบเขานรกจิโกกุดานิ (JIGOKUDANI) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ SHIKOTSU-TOYA เมือง NOBORIBETSU ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับ เป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือน ดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซัปโปโร
อิสระ ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง UNIQLO, NEW BALANCE, ADIDAS, PUMA เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน DAISO ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน DONKI ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ หรือถ้าเดินจนหมดแรง ที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
นำท่านเช็คเอาท์ และ ตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเซะ
ถึง สนามบินชิโตเซะ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ
11.55 น.
นำท่านกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ621 (บริการอาหารเช้าและน้ำดื่มบนเครื่อง)
18.00 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ