โปรแกรม 6 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airways International
วันที่ 1 กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – เดลลี (สนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี) – ศรีนาคา (บินภายใน) – แคชเมียร์
05.30 น.
คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D เช็คอินกรุ๊ปของ การบินไทย ( Thai Airway) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางและสัมภาระให้กับท่าน
07.35 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองเดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG323 (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4.30 ชม.) (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
10.35 น.
คณะเดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
....... น.
ออกเดินทางสู่ เมืองศรีนาคา โดยสายการบิน.......โดยเที่ยวบินที่........
....... น.
เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา เช็คสัมภาระแล้วนำท่านเดินทางสู่เมืองแคชเมียร์ โดยนั่งรถท้องถิ่น คันละ 5 ท่าน รถท้องถิ่นจะไม่มีแอร์เนื่องจากอุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางชมสวนชาลิมาร์ ที่เป็นสวนแบบราชวงศ์โมกุลซึ่งเป็นสวนแห่งความรักของ มหาราชา ชาฮังคี จากนั้นนำท่านชมสวนทิวลิป (Tiplip Garden) โดยมีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 400 ปี รวมทั้งพันธุ์ไม้นานาชนิดและดอกไม้ตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกทิวลิปบานสะพรั่ง (ประมาณปลายเดือน มี.ค. – เม.ย. ทั้งนี้เวลาการเปิดให้เข้าชมนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สวนแห่งนี้สร้างโดย ยอซาฟ คาน มีความงดงามที่สุดที่จะหาคำบรรยายได้ ให้ท่านเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับดอกไม้ที่แสนสวย และผ่านชมเมืองเก่าแคชเมียร์ที่ตั้งเมืองหลวงฤดูร้อนของกษัตริย์ในราชวงศ์โมกุล ที่สร้างเป็นลักษณะเฉพาะหรือเรียกได้ว่าเป็นศิลปะแคชเมียร์ ได้เวลาสมควรเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SUPER DELUXE HOUSE BOAT หรือเทียบเท่า
คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D เช็คอินกรุ๊ปของ การบินไทย ( Thai Airway) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางและสัมภาระให้กับท่าน
07.35 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองเดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG323 (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4.30 ชม.) (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
10.35 น.
คณะเดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
....... น.
ออกเดินทางสู่ เมืองศรีนาคา โดยสายการบิน.......โดยเที่ยวบินที่........
....... น.
เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา เช็คสัมภาระแล้วนำท่านเดินทางสู่เมืองแคชเมียร์ โดยนั่งรถท้องถิ่น คันละ 5 ท่าน รถท้องถิ่นจะไม่มีแอร์เนื่องจากอุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางชมสวนชาลิมาร์ ที่เป็นสวนแบบราชวงศ์โมกุลซึ่งเป็นสวนแห่งความรักของ มหาราชา ชาฮังคี จากนั้นนำท่านชมสวนทิวลิป (Tiplip Garden) โดยมีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 400 ปี รวมทั้งพันธุ์ไม้นานาชนิดและดอกไม้ตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกทิวลิปบานสะพรั่ง (ประมาณปลายเดือน มี.ค. – เม.ย. ทั้งนี้เวลาการเปิดให้เข้าชมนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สวนแห่งนี้สร้างโดย ยอซาฟ คาน มีความงดงามที่สุดที่จะหาคำบรรยายได้ ให้ท่านเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับดอกไม้ที่แสนสวย และผ่านชมเมืองเก่าแคชเมียร์ที่ตั้งเมืองหลวงฤดูร้อนของกษัตริย์ในราชวงศ์โมกุล ที่สร้างเป็นลักษณะเฉพาะหรือเรียกได้ว่าเป็นศิลปะแคชเมียร์ ได้เวลาสมควรเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SUPER DELUXE HOUSE BOAT หรือเทียบเท่า
วันที่ 2 ศรีนาคา – กุลมาร์ค – เคเบิลคาร์ (*รวมค่าขึ้นแล้ว) – ศรีนาคา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า
นำท่านเดินทางโดยนั่งรถท้องถิ่น (คันละ 5 ท่าน) ไม่มีแอร์ อุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี ขึ้นสู่เทือกเขากุลมาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งหนึ่งในโลกในขณะขับรถสู่เทือกเขากุลมาร์คสองข้างทางจะเป็นทุ่งนาข้าวสลับกับพันธุ์ไม้ป่าและฝูงแกะตามเทือกเขาโดยเทือกเขาหิมาลัยนี้จะมีหิมะปกคลุมสลับกันไป อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคา 57 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) เทือกเขากุลมาร์คเป็นพื้นที่ราบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในโลก เมื่อถึงกุลมาร์คแล้วพาท่านเที่ยวชมเทือกเขาซึ่งเป็นภูเขาที่สวยงามแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ มีชื่อว่าเป็นทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Flower) เดิม กุลมาร์ค มีชื่อเรียกว่า เการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่านยูซุป ชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่งอกงามตามฤดูกาล อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก สูง 3,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลและสถานที่เล่นกีฬาสกีน้ำแข็งในฤดูหนาวจนไม่คิดว่านี้เป็นประเทศอินเดีย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านไปยังสถานีเคเบิลคาร์ (*รวมค่าขึ้นแล้ว) เพื่อขึ้นไปยังสถานีกงโดรีบนเขาอัฟฟาร์วัต เฟสที่ 1 ด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (หากท่านต้องการขึ้นสู่ยอดเขาจะต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์ ที่เฟสที่ 2 ขึ้นสู่ยอดเขาเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ท่านสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีเฟสที่ 1 (ไม่รวมในค่าทัวร์) ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย เมื่อเดินทางถึงที่หมายสิ่งที่ท่านจะได้พบคือบรรยากาศและทัศนียภาพแบบพาโนรามาอันสวยงามบนเขาอัฟฟาร์วัต ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสก็จะสามารถมองเห็นยอดเขานันกา พาร์บัต (Nanga Parbat) ของเทือกเขาหิมาลัย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น เล่นสกี เลื่อนสกีหิมะ ท่านสามารถเล่นสกีได้ระหว่างช่วงฤดูหนาว – ใบไม้ผลิ (ธ.ค. – เม.ย.) ซึ่งค่าเล่นสกีนี้จะไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ สามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นเพื่อแจ้งเล่นสกีได้ หรือเก็บภาพความประทับใจไว้เป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับศรีนาคาระหว่างทางให้ท่านได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ได้เวลาสมควรเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SUPER DELUXE HOUSE BOAT หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า
นำท่านเดินทางโดยนั่งรถท้องถิ่น (คันละ 5 ท่าน) ไม่มีแอร์ อุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี ขึ้นสู่เทือกเขากุลมาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งหนึ่งในโลกในขณะขับรถสู่เทือกเขากุลมาร์คสองข้างทางจะเป็นทุ่งนาข้าวสลับกับพันธุ์ไม้ป่าและฝูงแกะตามเทือกเขาโดยเทือกเขาหิมาลัยนี้จะมีหิมะปกคลุมสลับกันไป อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคา 57 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) เทือกเขากุลมาร์คเป็นพื้นที่ราบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในโลก เมื่อถึงกุลมาร์คแล้วพาท่านเที่ยวชมเทือกเขาซึ่งเป็นภูเขาที่สวยงามแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ มีชื่อว่าเป็นทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Flower) เดิม กุลมาร์ค มีชื่อเรียกว่า เการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่านยูซุป ชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่งอกงามตามฤดูกาล อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก สูง 3,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลและสถานที่เล่นกีฬาสกีน้ำแข็งในฤดูหนาวจนไม่คิดว่านี้เป็นประเทศอินเดีย
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านไปยังสถานีเคเบิลคาร์ (*รวมค่าขึ้นแล้ว) เพื่อขึ้นไปยังสถานีกงโดรีบนเขาอัฟฟาร์วัต เฟสที่ 1 ด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (หากท่านต้องการขึ้นสู่ยอดเขาจะต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์ ที่เฟสที่ 2 ขึ้นสู่ยอดเขาเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ท่านสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีเฟสที่ 1 (ไม่รวมในค่าทัวร์) ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย เมื่อเดินทางถึงที่หมายสิ่งที่ท่านจะได้พบคือบรรยากาศและทัศนียภาพแบบพาโนรามาอันสวยงามบนเขาอัฟฟาร์วัต ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสก็จะสามารถมองเห็นยอดเขานันกา พาร์บัต (Nanga Parbat) ของเทือกเขาหิมาลัย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น เล่นสกี เลื่อนสกีหิมะ ท่านสามารถเล่นสกีได้ระหว่างช่วงฤดูหนาว – ใบไม้ผลิ (ธ.ค. – เม.ย.) ซึ่งค่าเล่นสกีนี้จะไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ สามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นเพื่อแจ้งเล่นสกีได้ หรือเก็บภาพความประทับใจไว้เป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับศรีนาคาระหว่างทางให้ท่านได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ได้เวลาสมควรเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SUPER DELUXE HOUSE BOAT หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ศรีนาคา – โซนามาร์ค – ศรีนาคา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า
นำท่านเดินทางจากศรีนาคาสู่ โซนามาร์ค (ระยะทาง 80 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) คำว่า “โซนา” แปลว่าทอง “มาร์ค” แปลว่าเส้นทาง ในอดีตเส้นทางนี้เป็นเส้นทางค้าขายในตำนานหรือที่เรียกว่า เส้นทางสายไหมเนื่องจากภูมิประเทศที่สวยงามอีกทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางการเดินทางจะได้เห็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะรูปร่างแปลกตา สลับกับป่าต้นวอลนัตขนาดใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทางเส้นทางนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,690 เมตร เรียกว่าสวยงามมากตลอดเส้นทางจากศรีนาคา ผู้เดินทางจะได้เดินทางไปและถ่ายรูปไปตลอดทาง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นพาท่านชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งตลอดทั้งปี (ค่าขี่ม้าโดยประมาณ 1,000 – 1,500 รูปี /ต่อท่าน ไม่รวมในค่าทัวร์ – สอบถามราคากับหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นอีกครั้ง) ชมภูเขา สายน้ำ ลำธารและสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองที่นั่นจนเพลิดเพลินแทบไม่อยากจากมาเหมือนผีเสื้อที่บินอยู่ในแดนสวรรค์ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ศรีนาคา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL ROSE PETAL SIMILAR หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า
นำท่านเดินทางจากศรีนาคาสู่ โซนามาร์ค (ระยะทาง 80 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) คำว่า “โซนา” แปลว่าทอง “มาร์ค” แปลว่าเส้นทาง ในอดีตเส้นทางนี้เป็นเส้นทางค้าขายในตำนานหรือที่เรียกว่า เส้นทางสายไหมเนื่องจากภูมิประเทศที่สวยงามอีกทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางการเดินทางจะได้เห็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะรูปร่างแปลกตา สลับกับป่าต้นวอลนัตขนาดใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทางเส้นทางนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,690 เมตร เรียกว่าสวยงามมากตลอดเส้นทางจากศรีนาคา ผู้เดินทางจะได้เดินทางไปและถ่ายรูปไปตลอดทาง
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นพาท่านชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งตลอดทั้งปี (ค่าขี่ม้าโดยประมาณ 1,000 – 1,500 รูปี /ต่อท่าน ไม่รวมในค่าทัวร์ – สอบถามราคากับหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นอีกครั้ง) ชมภูเขา สายน้ำ ลำธารและสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองที่นั่นจนเพลิดเพลินแทบไม่อยากจากมาเหมือนผีเสื้อที่บินอยู่ในแดนสวรรค์ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ศรีนาคา
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก HOTEL ROSE PETAL SIMILAR หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ศรีนาคา – ล่องเรือซิคาร่า – เดลลี (บินภายใน) – อัครา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า
จากนั้นนำทุกท่านล่องเรือซิคาร่าในทะเลสาบ (*รวมค่าล่องเรือแล้ว) ซึ่งเป็นเรือพายแบบฉบับแคชเมียร์โดยเฉพาะชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำที่อยู่ท่ามกลางฉากหลังภูเขาหิมะล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบ ขับกล่อมไปด้วยเสียงนกนานาชนิดแต่งแต้มด้วยดอกไม้น้ำนานาพันธุ์
จากนั้นพาเดินทางสู่สนามบินศรีนาคา เพื่อเดินทางสู่เมืองเดลลี
....... น.
ออกเดินทางจากศรีนาคา เข้าสู่เมืองเดลลี โดยสายการบินในประเทศ.....เที่ยวบินที่.....
....... น.
เดินทางถึงท่าอากาศยานภายในประเทศเมืองเดลลี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra) เมืองที่เป็นสถานที่ตั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ทัชมาฮาล และเคยเป็นศูนย์กลางปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุล อัคระ อดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ เป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ เมืองอัคระมีประชากรทั้งหมด 1,686,976 คน (ปีค.ศ. 2010) ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ และอันดับที่ 19 ในประเทศอินเดีย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก CRYSTAL SAROVAR PREMIER AGRA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า
จากนั้นนำทุกท่านล่องเรือซิคาร่าในทะเลสาบ (*รวมค่าล่องเรือแล้ว) ซึ่งเป็นเรือพายแบบฉบับแคชเมียร์โดยเฉพาะชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำที่อยู่ท่ามกลางฉากหลังภูเขาหิมะล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบ ขับกล่อมไปด้วยเสียงนกนานาชนิดแต่งแต้มด้วยดอกไม้น้ำนานาพันธุ์
จากนั้นพาเดินทางสู่สนามบินศรีนาคา เพื่อเดินทางสู่เมืองเดลลี
....... น.
ออกเดินทางจากศรีนาคา เข้าสู่เมืองเดลลี โดยสายการบินในประเทศ.....เที่ยวบินที่.....
....... น.
เดินทางถึงท่าอากาศยานภายในประเทศเมืองเดลลี
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra) เมืองที่เป็นสถานที่ตั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ทัชมาฮาล และเคยเป็นศูนย์กลางปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุล อัคระ อดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ เป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ เมืองอัคระมีประชากรทั้งหมด 1,686,976 คน (ปีค.ศ. 2010) ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ และอันดับที่ 19 ในประเทศอินเดีย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก CRYSTAL SAROVAR PREMIER AGRA หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 อัครา – ทัชมาฮาล – อัคราฟอร์ด – สนามบิน
เช้า
รับประทานอาหารเช้า
นำท่านเข้าชม ทัชมาฮาล (Taj Mahal) แหล่งมรดกโลกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญของโลก ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 ต่อมานำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป และนำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง แล้วนำท่านเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ที่ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน ที่เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย โดยอาคารตรงกลางจะเป็นรูปโดมซึ่งมีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และ พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ทัชมาฮาลแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 12 ปี โดยสิ้นเงินไป 41 ล้านรูปี มีการใช้ทองคำประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของอาคาร หนัก 500 กิโลกรัม และใช้คนงานกว่า 20,000 คน ต่อมานำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนาโดยฝั่งตรงกันข้ามจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว โดยเล่ากันว่าพระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำโดยตัวรูปอาคารจะเป็นแบบเดียวกันกับทัชมาฮาล เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอักราเสียก่อน **เนื่องจากทัชมาฮาลปิดทุกวันศุกร์ กรณีที่เข้าทัชมาฮาลตรงกับวันศุกร์ ทางบริษัทขอสงวนสิทธ์สลับโปรแกรมเที่ยวตามความเหมาะสม**
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านเข้าชม อัคราฟอร์ด (Agra Fort) แหล่งมรดกโลก ทิ่ติดริมแม่น้ำยมุนาสร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) , พระเจ้าชาห์จาฮานได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต และนำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์ นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ ต่อมานำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์ ,พระโอรส, พระธิดาและองค์ต่างๆ แล้วนำชมพระตำหนัก มาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง ที่สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ ในพระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่า ชาห์จาฮัน ถูกพระโอรส ออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปี ในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ แล้วก็นำชมลานสวนประดับ ดิวันอีอาอำ ที่ชั้นบนด้านหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานบัลลังก์นกยูงอันยิ่งใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน) และที่ลานสวนประดับแห่งนี้เองที่พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซ ที่ได้นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขายให้กับนางในฮาเร็ม
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
20.00 น.
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี กรุงนิวเดลลี
23.30 น.
นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 316 (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
รับประทานอาหารเช้า
นำท่านเข้าชม ทัชมาฮาล (Taj Mahal) แหล่งมรดกโลกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญของโลก ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 ต่อมานำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป และนำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง แล้วนำท่านเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ที่ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน ที่เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย โดยอาคารตรงกลางจะเป็นรูปโดมซึ่งมีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และ พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ทัชมาฮาลแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 12 ปี โดยสิ้นเงินไป 41 ล้านรูปี มีการใช้ทองคำประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของอาคาร หนัก 500 กิโลกรัม และใช้คนงานกว่า 20,000 คน ต่อมานำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนาโดยฝั่งตรงกันข้ามจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว โดยเล่ากันว่าพระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำโดยตัวรูปอาคารจะเป็นแบบเดียวกันกับทัชมาฮาล เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอักราเสียก่อน **เนื่องจากทัชมาฮาลปิดทุกวันศุกร์ กรณีที่เข้าทัชมาฮาลตรงกับวันศุกร์ ทางบริษัทขอสงวนสิทธ์สลับโปรแกรมเที่ยวตามความเหมาะสม**
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านเข้าชม อัคราฟอร์ด (Agra Fort) แหล่งมรดกโลก ทิ่ติดริมแม่น้ำยมุนาสร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) , พระเจ้าชาห์จาฮานได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต และนำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์ นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ ต่อมานำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์ ,พระโอรส, พระธิดาและองค์ต่างๆ แล้วนำชมพระตำหนัก มาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง ที่สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ ในพระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่า ชาห์จาฮัน ถูกพระโอรส ออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปี ในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ แล้วก็นำชมลานสวนประดับ ดิวันอีอาอำ ที่ชั้นบนด้านหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานบัลลังก์นกยูงอันยิ่งใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน) และที่ลานสวนประดับแห่งนี้เองที่พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซ ที่ได้นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขายให้กับนางในฮาเร็ม
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
20.00 น.
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี กรุงนิวเดลลี
23.30 น.
นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 316 (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
วันที่ 6 กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
05.25 น.
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยความสวัสดิภาพ
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยความสวัสดิภาพ