ISRAEL THE HOLY LAND อิสราเอล 8 วัน 5 คืน โดยสายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ (LY)

สถานที่ทัวร์:
ประเทศอิสราเอล Israel อิสราเอล Israel
ระยะเวลา:
8 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
EL AL

ISRAEL THE HOLY LAND อิสราเอล 8 วัน 5 คืน โดยสายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ (LY)8 วัน 5 คืน

฿0

BKK-TLV

ออกจากBKK
23.00
ถึงTLV
06.05+1

TLV-BKK

ออกจากTLV
22.45
ถึงBKK
14.00+1

โปรแกรม 8 วัน 5 คืน : เดินทางโดยสายการบินEL AL

20.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ ประตู 10 แถว W พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
23.55 น.
ออกเดินทางสู่เมืองเทล อาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยสายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ (LY) เที่ยวบินที่ LY 082

06.15 น.
เดินทางถึงสนามบินนานาชาติเบนกูเรียล เมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) ประเทศอิสราเอล (Israel) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) เมืองเทล อาวีฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศอิสราเอล มีประชากรอาศัยอยุ่ประมาณ 405,000 คน ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ พาณิชย์และการท่องเที่ยว นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และด่านศุลกากร นำท่านเดินทางต่อไปยังทางเหนือสู่เมืองเซซาเรีย (Caesarea) ซึ่งเป็นเมืองเก่ายุคสมัยสงครามครูเสด สร้างโดยกษัตริย์เฮโรดมหาราช เป็นเมืองชายฝั่งริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงามและมีความสำคัญเป็นอันดับ 3 ของประเทศ นำท่านชมเมืองท่าเก่าแก่โบราณสมัยโรมัน สนามแข่งม้าฮิปโปโดรม ชมเสาหินโบราณโรมันและโรงละครโรมันกลางแจ้งมีการออกแบบตามมาตรฐานโรมัน ชมคลองส่งน้ำ (Aquaduct) ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี กษัตริย์เฮโรดมหาราชได้สั่งให้สร้างท่อระบายน้ำระหว่างมหาสมุทรและน้ำบาดาลในเมือง ช่วยให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ได้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองไฮฟา (Haifa) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาคาร์เมล (Mt.Carmel) ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของเขตไฮฟาที่อยู่ทางด้านเหนือและอยู่ติดกับริมทะเล เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม เป็นเมืองอันดับที่สามของประเทศ เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของอิสราเอล มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 270,000 คน ซึ่งผสมผสานกันระหว่างพวกยิวและอาหรับ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางของศาสนาบาไฮหรือ บาไฮเวิลด์เซ็นเตอร์ ที่ถูกสร้างเป็นสวนที่สวยงามด้วยงบประมาณ 50 ล้านดอลล่าร์และยังได้ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 2008
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่เมืองอัคโค (Akko) หรือเมืองเอเคอร์ (Acre) ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นสุดท้ายของนักรบครูเสด นำท่านชมเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2001 เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของบริเวณกาลิลีทางตอนเหนือของอิสราเอล ตัวเมืองตั้งอยู่บนแหละหรือแผ่นดินที่ยื่นออกไปในทะเลของอ่าวไฮฟา เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ของการรบ เพราะมีที่ตั้งอยู่ริมทะเล มีการรบกันหลายครั้ง จนมีการเปลี่ยนผู้ครอบครองนครมาหลายรอบ ทำให้เมืองนี้มีร่องรอยและวัฒนธรรมที่ผสมผสานมากมาย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองนาซาเร็ธ (Nazareth) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขาที่รวมตัวกันเป็นจุดใต้สุดของเทือกเขาเลบานอนแคว้นกาลิลี เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของพระเยซูคริสต์และเป็นสถานที่ในการเดินทางแสวงบุญของชาวคริสต์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
เดินทางเข้าสู่ที่พัก NAZARETH PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านชมมหาวิหารแห่งการประกาศ (Basilica of the Annunciation) ซึ่งถูกสร้างไว้ตรงบ้านพระนางมารีอา เป็นสถานที่ซึ่งนางมารีได้รับแจ้งจากทูตสวรรค์ว่าพระนางจะให้กำเนิดพระเยซู หลังจากนั้นนำท่านเดินต่อไปยังบ่อน้ำที่มีอายุนานกว่า 2,000 ปี เป็นสถานที่ที่พระนางมารีได้เคยมาตักน้ำจากแห่งนี้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังหมู่บ้านคานา (Cana Village) เป็นหมู่บ้านที่ซึ่งพระเยซูทรงแสดงอัศจรรย์เป็นครั้งแรกในงานแต่งงาน ซึ่งมีพระแม่มารีมาร่วมงานด้วย โดยทรงทำน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น เนื่องจากเหล้าองุ่นไม่พอที่จะเลี้ยงแขกที่มาในงาน
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย
นำท่านเดินทางไปยังหมู่บ้านทับกา(Tabgha Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่พระเยซูได้ทำอัศจรรย์โดยการเลี้ยงคน 5,000 คนด้วยปลา 2 ตัว และขนมปัง 5 ก้อน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคาเปอร์นาอูม (Capernaum) ชมบ้านของปีเตอร์ ซึ่งเป็นสาวกคนแรก ปัจจุบันถูกสร้างเป็นโบสถ์บนบ้านหลังเดิม ที่ซึ่งพระเยซูทำการอัศจรรย์ในการรักษาโรคให้แก่แม่ยายปีเตอร์ และในบริเวณใกล้ๆกันมีธรรมศาลาเก่าแก่ที่พระเยซูสั่งสอนและรักษาโรคแก่ประชาชน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางไปยังริมชายทะเลสาบฯ ที่ซึ่งพระเยซูปรากฏแก่สาวกหลังฟื้นจากความตาย และทำการอัศจรรย์ช่วยสาวกจับปลาได้ 153 ตัว และทรงเรียกปีเตอร์ให้เลี้ยงลูกแกะของพระองค์ ปัจจุบันมีโบสถ์ St.Peter’s Primacy ถูกสร้างครอบเนินดินที่เชื่อว่าเป็นที่ที่พระเยซูปิ้งปลาคอยสาวกอยู่ จากนั้นนำท่านไปยังทะเลสาบกาลิลี(Lake Galilee) นำท่านล่องเรือในทะเลสาบกาลิลี (Cruise of Galilee) ที่อยู่ใกล้กับที่ราบสูงโกลาน เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความลึกประมาณ 44 เมตร พื้นที่ประมาณ 168 ตร.กม. และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 209 เมตร ให้ท่านได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ และการแสดงต่างๆที่จะทำให้ท่านได้รับความสนุกสนานและเพลิดเพลิน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NAZARETH PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่ริมแม่น้ำจอร์แดน (Jordan River) ซึ่งเป็นสถานที่ทำพิธีบัพติศมาในน้ำ (Baptismal Site of Yardenit) ซึ่งสาวกจอห์นได้ทำพิธีล้างบาป และได้ตั้งชื่อให้ กับพระเยซู ท่านสามารถรับบัพติศมาเพื่อเป็นการระลึกถึง หรือสำหรับผู้ที่เพิ่งตัดสินใจรับบัพติศมา (หากท่านใดสนใจกรุณาติดต่อผู้นำทัวร์ เพื่อประสานงานกับศิษยาภิบาลที่นำคณะ สำหรับการใช้เสื้อคลุม และขอใบประกาศนียบัตร)
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเจริโก้ (Jericho) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกในเขตเวสท์แบงค์ และอยู่ทางเหนือของทะเลสาบเดดซี มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวอาหรับปาเลสไตน์ เจริโกได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในอดีตได้มีหลักฐานที่ถูกพบว่ามีคนมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บริเวณนี้มาแล้วประมาณกว่า 9,000 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ภูเขาเทมพ์เทชั่น (Mt. of Temptation) ซึ่งมีความสูงประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ณ สถานที่แห่งนี้จะมีถ้ำซึ่งเป็นที่ที่พระเยซู ได้เคยมานั่งวิปัสสนาและอดอาหารเป็นเวลา 40 วัน และ 40 คืน ในระหว่างนั้นก็มีพวกซาตานมารบกวนพระองค์ นำท่านชมโบสถ์เทมพ์เทชั่น (Temptation Monastery) ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางลงจากเขา จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) ซึ่งเป็นทะเลที่ถูกบันทึกลงใน กินเนสส์บุ๊ค ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ ให้ท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเล หมักโคลน และพิสูจน์ความจริงว่าสามารถลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น) (กรุณาเตรียมชุดเล่นน้ำ ผ้าเช็ดตัวรองเท้าฟองน้ำไปด้วย) ได้เวลาพอสมควร นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเยรูซาเลม(Jerusalem) จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CAESAR JERUSALEM HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาโอลีฟ (Mt. of Olives) ท่านจะได้ชมตัวเมืองเยรูซาเล็มทั้งหมด จากนั้นนำท่านเดินตามเส้นทางที่พระเยซูเสด็จสู่กรุงเยรูซาเล็มในวันปาล์มซันเดย์ไปยังโบสถ์ปีเตอร์ โนสเตอร์ (Peter Noster Church) เป็นสถานที่พระเยซูทรงสอนให้สาวกรู้จักคำอธิษฐาน “ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย” นำท่านเดินทางไปยังสวนเกทเสมนี (Gatsemane) ซึ่งเป็นภาษาฮิบรูว์ แปลว่า ต้นมะกอก บริเวณสวนนี้มีต้นมะกอกเก่าแก่อยู่ 8 ต้น ที่เชื่อกันว่าเป็นรากเดิมของต้นมะกอกในสมัยพระเยซูเจ้า ซึ่งมีอายุประมาณ 2,000 ปี และเป็นสถานที่ที่พระเยซูอธิษฐานกับสาวก ก่อนที่จะถูกพวกทหารโรมันจับตัวไป จากนั้นนำท่านเข้าชมในตัวโบสถ์นานาชาติ (Church of all Nations) ที่มีก้อนหินขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นจุดที่พระเยซูทรงคุกเข่าอธิษฐาน ก่อนถูกทหารโรมันจับตัวไป
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ภูเขาไซออน (Mount Zion) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของภูเขาโอลีฟในเยรูซาเล็ม ซึ่งมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า เมืองของเดวิด (City of David) จากนั้นนำท่านไปชม โบสถ์ไก่ขัน (St. Peter in Gallicantu) ซึ่งเป็นภาษาลาติน ในอดีตเป็นบ้านของปุโรหิตคายาฟาส ที่เป็นหัวหน้าสมณะในยุคของพระเยซูที่ถูกตัดสินฯ และเป็นสถานที่ที่ปีเตอร์ปฏิเสธพระเยซูก่อนไก่ขัน 3 ครั้ง (Before the cock crows thrice) จากนั้นนำท่านไปชมสุสานกษัตริย์เดวิด (King David’s Tomb) และ ห้องอาหารมื้อสุดท้าย (Room of Last Supper) ที่พระเยซูทรงร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับเหล่าสาวกก่อนที่จะถูกจับตัวไป จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองอีน คาเร็ม (Ein Karem) ที่มีความหมายว่า น้ำธรรมชาติสำหรับไร่องุ่น อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเยรูซาเล็ม และเป็นเมืองที่มีความสำคัญรองลงมาจากเบธเลเฮ็ม คือ เมืองที่จอห์นแห่งแบพติสเกิดและนอกจากนั้นก็ยังมีโบสถ์วิหารที่มีความสำคัญหลายแห่งสำหรับผู้ที่เป็นชาว คริสเตียน ให้ท่านได้ชมอนุสรณ์สถานยาด วาเชม (Yad Vashem) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชาวยิวที่เสียชีวิตในระหว่างสงครามโลก รูปภาพต่างๆ ที่ถ่ายจากค่ายกักกันต่างๆ ในยุโรป แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของทหารนาซี ในความพยายามทำลายล้างเผ่าพันธุ์ของชนชาติยิว ซึ่งเป็นชนชาติของพระเจ้า ทำให้ตระหนักถึงพระสัญญาของพระเจ้าต่ออับราฮัมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CAESAR JERUSALEM HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองเบธเลเฮม (Bethlehem) ซึ่งเป็นดินแดนที่เก่าแก่ และถูกครอบครองโดยพวกปาเลสไตน์ ตั้งอยู่ห่างจากเยรูซาเล็มทางตอนใต้ ประมาณ 10 กม. มีประชากรราว 30,000 คน ในอดีตเป็นบ้านเกิดของกษัตริย์เดวิด (King David) ซึ่งเป็นผู้สร้างเมืองเยรูซาเล็ม และ เบธเลเฮม เชื่อกันโดยผู้นับถือคริสต์ศาสนาว่าเป็นที่ประสูติของพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ และยังเป็นที่อยู่ของชุมชนคริสเตียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นำท่านเดินทางสู่โบสถ์แห่งการประสูติ (The Church of Nativity) โบสถ์ที่สร้างบนสถานที่ประสูติของพระเยซู ถูกสร้างโดย พระนางเฮเลน่า (Helena) ซึ่งเป็นพระมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนตินแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นสถานที่ที่ถูกเก็บรักษาให้รอดพ้นจากการถูกทำลายจากผู้ครอบครองของหลายชาติได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งประตูทางเข้าโบสถ์นี้จะเล็กกว่าปกติ และผิดสัดส่วนจากขนาดของตัวอาคาร เพราะว่าภายหลังดินแดนแห่งนี้ถูกครอบครองโดยพวกครูเสดก็ได้มีการต่อเติม และทำประตูให้มีขนาดเล็กลงสำหรับคนต้องก้มเดินเข้าไปได้เพียงคนเดียว เพื่อเป็นการป้องกันมิให้พวกโจรอาหรับขี่ม้าเข้ามาปล้น ภายในโบสถ์มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ทางเดินที่ประดับลวดลายของโมเสค และภาพสีน้ำมันตามผนังตลอดจนเพดาน จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังทุ่งหญ้าคนเลี้ยงแกะ (Shepherd’s Field) ที่ทูตสวรรค์มาบอกข่าวการประสูติของพระเยซูท่ามกลางคนเลี้ยงแกะที่ยากจนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นพวกแรกที่ได้รับข่าวการประสูตินี้
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) เมืองที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัวทั้งชาวยิว,ชาวมุสลิม และ คริสเตียน ตั้งอยู่บนที่ราบของภูเขายูดาห์ (Judaean Mountains) ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลเดดซี เยรูซาเลมเป็นเมืองที่พระยาห์เวห์ (Yahweh) ทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นป้อมแห่งความเชื่อถึงพระเป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียว เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล นำท่านเดินทางสู่เมืองเก่าเยรูซาเลม (Old City) ให้ท่านได้ชมกำแพงร้องไห้ (Wailing Wall) ซึ่งเป็นกำแพงด้านตะวันตกของพระวิหารหลังที่สองที่เหลืออยู่หลังจากถูกพวกโรมันทำลาย ปัจจุบันชาวยิวทั่วโลกถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และโดยเฉพาะวันสำคัญทางศาสนา จะมีชาวยิวมากมายเดินทางมาสวดมนต์ อธิษฐานร้องไห้คร่ำครวญกับพระเจ้าอย่างเนืองแน่น และจากลานหน้ากำแพงศักดิ์สิทธิ์นี้ จะมีทางเดินเลาะเลียบทางขวาที่ไต่ระดับสูงขึ้นไปสู่ภูเขาวิหาร(Temple Mount ) อันเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร ที่ได้ถูกทำลายไปถึง 2 ครั้ง จะเหลืออยู่ก็แค่บางส่วนของกำแพง ซึ่งในปัจจุบันภูเขาวิหาร เป็นที่ตั้งของศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของศาสนาอิสลาม เพราะว่าในช่วงปี ค.ศ. 688 กาหลิบโอมาร์ ที่เป็นผู้นำชาวมุสลิม ได้นิมิตประหลาดว่าภูเขาวิหารนี้เป็นสถานที่ที่ศาสดาโมหะหมัดได้เสด็จสู่สวรรค์ โดยประทับยืนบนก้อนหินก้อนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเชื่อว่าเป็นก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ ส่วนชาวคริสต์เชื่อว่า พระเยซูได้ถูกซาตานนำมาประทับบนก้อนหินนี้ เพื่อให้ทอดพระเนตรนครเยรูซาเล็ม ในขณะที่จำศีลอดอาหาร และชาวยิวเชื่อว่า อับราฮัมได้นำลูกชายมาฆ่า เพื่อบูชาพระเจ้าบนก้อนหินก้อนนี้ ต่อมาจึงได้สร้างสุเหร่าไม้ขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้ โดยคร่อมก้อนหินศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ ซึ่งเรียกว่า สุเหร่าแห่งโอมาร์ (Mosque of Omar) แต่ปัจจุบันนี้ได้ถูกสร้างเป็นสุเหร่าทรง 8 เหลี่ยมที่มีหลังคาทรงกลม ทำด้วยทองบริสุทธ์ 24 กระรัต โดยได้รับความช่วยเหลือจากกษัตริย์ฮุสเซนแห่งจอร์แดน และมีชื่อเรียกว่า โดมแห่งหินผา (Dome of the Rock) และบริเวณผนังด้านในประดับด้วยโมเสคลวดลายงดงามมาก (ไม่สามารถเข้าไปชมภายในได้ ) จากนั้นนำท่านเดินเท้าไปตามถนนเวีย โดโลโรซ่า (Via Dolorosa) เป็นสถานที่ซึ่งทิ้งร่องรอยสุดท้ายของพระเยซูจากการถูกตรึงไม้กางเขน ซึ่งเป็นเส้นทางที่พระเยซูถูกไต่สวนที่ศาลปรีโทเรีย จนถูกบังคับให้แบกไม้กางเขนไปสู่โกลโกธา (Korakotha Mountain) และตรึงพระองค์ไว้บนไม้กางเขน ตามเส้นทางทั้งหมด 14 แห่ง จากนั้นนำท่านชม สุสานศักดิ์สิทธิ์ (Church of The Holy Sepulcher) ซึ่งในปัจจุบันเป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์ เป็นอุโมงค์ที่สกัดไว้ในศิลาที่ใช้เก็บพระศพของพระเยซูหลังจากเชิญพระศพลงมาจากไม้กางเขน ให้ท่านเดินทางเพื่อบรรลุถึงความทุกข์ทรมานของพระผู้เป็นเจ้า ถนนแห่งประวัติศาตร์นี้มีการค้นพบทางโบราณคดีตลอดหลายศตวรรษ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CAESAR JERUSALEM HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่เมืองเทล อาวีฟ (Tel Aviv) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศอิสราเอล มีประชากรอาศัยอยุ่ประมาณ 405,000 คน ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ พาณิชย์และการท่องเที่ยว เมืองเทลอาวีฟ ยังมีอีกชื่อนึงว่า เทล อาวีฟ-จัฟฟา เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1909 บนเขตพื้นที่รอบนอกของเมืองท่าโบราณจัฟฟา (Jaffa) ความเจริญของเทลอาวีฟได้ก้าวไปไกลกว่าเมืองจัฟฟาที่ในตอนนั้นเป็นของอาหรับอยู่ จนเทลอาวีฟและจัฟฟาถูกรวมเป็นเมืองเดียวกันในปี ค.ศ. 1950 สองปีหลังจากการก่อตั้งรัฐอิสราเอล นครสีขาวแห่งเทลอาวีฟได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2003 ถือเป็นการรวมกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชมเมืองเก่าจัฟฟา (Old Jaffa) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าที่เก่าแก่ อายุกว่า 3,000 ปี ชื่อเดิมของเมืองนี้คือ ยาโฟ (Yafo) ในภาษาฮิบรูว์ แปลว่า สวยงาม ในประวัติศาสตร์เมืองนี้ถูกครอบครองมาหลายยุคหลายสมัยปัจจุบันรัฐอิสราเอลได้อนุรักษ์เมืองนี้ไว้ แล้วอนุญาตให้ศิลปิน พักอาศัย ทำงานสร้างสรรค์ และขายผลงานของตนเองแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ให้ท่านได้ชมหอนาฬิกา (The Clock Tower) ที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของเมือง จัฟฟา เป็น 1 ใน 7 ของหอนาฬิกาที่ถูกสร้างโดยพวกออตโตมานที่เข้ามาปกครองในบริเวณนี้ ถูกสร้างขึ้น โดยสุลต่านอับดุล ฮามิด ที่ 2 ในราวปี ค.ศ.1900-1903 ส่วนที่เหลืออีก 6 แห่ง คือที่ ซาเฟ็ด, เอเคอร์, นาซาเรธ, ไฮฟา, นาบลุส และเยรูซาเล็ม ซึ่งทั้งหมดได้เสียหมด บนหอนาฬิกาเรือนนี้ยังใช้งานได้ดี และที่ด้านบนจะมีแผ่นหินสลักเป็นที่ระลึกถึงการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้เมืองนี้ในปี ค.ศ.1948
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร


ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
22.45 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินแอล อัล อิสราเอลแอร์ไลน์ (LY) เที่ยวบินที่ LY 081

14.00 น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา