โปรแกรม 3 วัน 2 คืน : เดินทางโดยสายการบินBangkok Air
วันที่ 1 กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)-ย่างกุ้ง(สนามบินมิงกาลาดง) หงสาวดี-วัดไจ้คะวาย-เจดีย์ชเวมอดอว์-พระราชวัง อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
06.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์Fโดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ
08.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้งโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์เที่ยวบินที่PG701
09.40 น. เดินทางถึงสนามบินมิงกาลาดงกรุงย่างกุ้งผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
นำท่านเดินทางสู่เมืองหงสาวดี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ1.30ชั่วโมง)
นำท่านตักบาตรพระสงฆ์กว่า1,000 รูปที่วัดไจ้คะวายสถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไปศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมากท่านสามารถนำสมุดปากกาดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้
กลางวัน - รับประทานอาหารกลางวันณภัตตาคาร(กุ้งแม่น้ำย่างคนละ1 ตัว)
จากนั้นนำท่านสักการะพระเจดีย์ชเวมอดอว์เจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์แห่งหงสาวดีและนับเป็น1ใน5สิ่ง
ศักดิ์สิทธิ์ของพม่าคนไทยนิยมเรียกว่า“พระธาตุมุเตา”ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งครั้งก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ก่อนออกศึกของบูรพกษัตริย์ในสมัยโบราณกาลไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์มอญหรือพม่ารวมทั้งพระเจ้าบุเรงนองด้วยและเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระนางสุพรรณกัลยาทรงประทับอยู่ในหงสาวดีก็เคยเสด็จมานมัสการพระเจดีย์องค์นี้ยังเคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง4 ครั้งทำให้ปลียอดของเจดีย์องค์นี้หักพังลงมาแต่ด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้จึงได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอว์ขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2497 ด้วยความสูงถึง374 ฟุต (ตอนแรกที่สร้างสูง70 ฟุต) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่าส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไหว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบันท่านจะได้นมัสการณจุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป
จากนั้นนำท่านชมพระราชวังบุเรงนองสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2109เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการปีพ.ศ. 2142ในสมัยพระเจ้านันทบุเรงซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวประกันมีการค้นพบเสาและกำแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ในดินรัฐบาลพม่าจึงได้ทำการขุดค้นและสร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่โดยถอดแบบจากของเดิมซึ่งพระตำหนักที่ประทับบรรทมสีทองเหลืองอร่ามที่ดูโดดเด่นชวนมองในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่าและท้องพระโรงที่ใช้ออกว่าการก็ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าสีทองเหลืองอร่ามทั้งภายนอกและภายใน**วันที่10-20 เมษายนของทุกปี(เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) พระราชวังปิดไม่ให้เข้าชมปรับโปรแกรมไปยังวัดพระไฝเลื่อนแทน***
นำท่านออกเดินทางสู่คิมปูนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้ก์โท) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงระหว่างทางท่านจะเห็นแม่น้ำสะโตงซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมหาราชพระองค์สามารถยิงพระแสงปืนข้ามแม่น้ำที่กว้างใหญ่นี้ไปต้องแม่ทัพพม่าจนได้รับชัยชนะถึงคิมปูนแค้มป์หยุดพักเปลี่ยนรถเป็นรถบรรทุกหกล้อขึ้นบนภูเขาไจ้ก์โทเพื่อเดินทางสู่โรงแรมที่พักระหว่างทางชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง
(นั่งรถบรรทุกขึ้นไปจนถึงจุดบนสุดของภูเขาไจ้ก์โทที่เป็นที่ตั้งของพระธาตุอินทร์แขวนในกรณีคณะทัวร์เดินทางไม่ถึง 15 ท่านสำหรับรถบรรทุกขึ้นบนพระธาตุอินทร์แขวนทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิใช้รถร่วมกับคณะอื่นซื่งอาจใช้เวลาพอสมควร)
พิเศษ!!!! เพิ่มฟรีนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน(1 เที่ยว) เพื่อบริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปไหว้พระธาตุสะดวกสบายขึ้นใช้เวลาเพียง 10 นาทีจากสถานีเขาฤษีขึ้นไปถึงสถานีองค์พระธาตุ (ในกรณีที่กระเช้าปิดจะทำการนั่งรถขึ้นถึงจุดสูงสุดตามปกติและไม่มีการคืนค่าใช้จ่ายใดๆให้)
เชิญชมทัศนียภาพงดงามตื่นตาตื่นใจกับ“พระธาตุอินทร์แขวน” (ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมากใช้เวลาเดินเพียง 10 นาที)พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่ที่เมืองไจ้โทอำเภอสะเทิมเขตรัฐมอญของประเทศพม่าอยู่บนยอดเขาเหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุตมีลักษณะเด่นเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมานับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะและยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ (สุนัข) ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักการะครั้งหนึ่งในชีวิต
ค่ำ - รับประทานอาหารค่ำณภัตตาคาร
ที่พัก - เดินทางเข้าสู่ที่พักYOE YOE LAY HOTEL หรือKYAIKHTO HOTEL
หลังอาหารเย็นเชิญท่านไปสักการะพระธาตุตามอัธยาศัยนมัสการเทพทันใจพระธาตุอินทร์แขวนซึ่งเป็นนักพรตที่มีความศักดิ์สิทธ์อีกแห่งหนึ่งท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืนถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้โทควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือกันลมหรือผ้าห่มผ้าพันคอเบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมากพระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืน (แต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษที่เข้าไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00น.)พระธาตุอินทร์แขวนนี้เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ปีพุทธศักราช 2534 มาลาคำจันทร์ที่แต่งวรรณกรรมเรื่อง“เจ้าจันท์ผมหอมนิราศพระธาตุอินทร์แขวน”
วันที่ 2 พระธาตุอินทร์แขวน-หงสาวดี-พระนอนชเวตาเลียว-เจดีย์ไจ๊ปุ่น-ย่างกุ้ง-พระนอนตาหวาน-เจดีย์ชเวดากอง อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้าตรู่
เชิญท่านสักการะ พระธาตุอินทร์แขวนหรือถวายอาหารพระธาตุอินทร์แขวน ท่านจะพบกับบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่น ทิวทัศน์งดงาม ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพรอบ ๆ พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมาการที่ก้อนหินสีทองวางหมิ่นเหม่บนหน้าผามานานนับพันปี โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์
เช้า- บริการอาหารเช้าณห้องอาหารของโรงแรม
เก็บสัมภาระพร้อมออกเดินทางกลับสู่ หงสาวดีตามเส้นทางเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
กลางวัน-รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองหงสาวดี (กุ้งแม่น้ำย่างคนละ 1 ตัว)
นำท่านสักการะพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาทต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม เมื่อครั้งก่อนพระพุธรูปองค์นี้ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมจนกลายเป็นเพียงกองอิฐท่ามกลางป่ารก จนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า จึงได้พบพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 หลังพม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ โดยทาสีและปิดทองใหม่ จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ไม้จันทร์หอม ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพิมพ์เป็นรูปต่างๆ
จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบมอญ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม (ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้), พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก)และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก)สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดพังทลายและได้มีการบูรณะใหม่ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะสวยงามแตกต่างไปจากองค์อื่นๆ
ท่านเดินทางกลับสู่เมืองย่างกุ้ง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
หลังจากนั้นนำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่าที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย
นำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่าจะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา
ค่ำ - รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก - นำคณะเข้าสู่ที่พัก GRAND MERCURE หรือ SULE SHANGRI-LA หรือเทียบเท่า (ระดับ 5 ดาว)
เชิญท่านสักการะ พระธาตุอินทร์แขวนหรือถวายอาหารพระธาตุอินทร์แขวน ท่านจะพบกับบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่น ทิวทัศน์งดงาม ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพรอบ ๆ พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมาการที่ก้อนหินสีทองวางหมิ่นเหม่บนหน้าผามานานนับพันปี โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์
เช้า- บริการอาหารเช้าณห้องอาหารของโรงแรม
เก็บสัมภาระพร้อมออกเดินทางกลับสู่ หงสาวดีตามเส้นทางเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
กลางวัน-รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองหงสาวดี (กุ้งแม่น้ำย่างคนละ 1 ตัว)
นำท่านสักการะพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาทต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม เมื่อครั้งก่อนพระพุธรูปองค์นี้ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมจนกลายเป็นเพียงกองอิฐท่ามกลางป่ารก จนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า จึงได้พบพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี พ.ศ. 2491 หลังพม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ โดยทาสีและปิดทองใหม่ จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ไม้จันทร์หอม ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพิมพ์เป็นรูปต่างๆ
จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบมอญ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม (ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้), พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก)และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก)สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดพังทลายและได้มีการบูรณะใหม่ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะสวยงามแตกต่างไปจากองค์อื่นๆ
ท่านเดินทางกลับสู่เมืองย่างกุ้ง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
หลังจากนั้นนำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่าที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย
นำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่าจะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา
ค่ำ - รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก - นำคณะเข้าสู่ที่พัก GRAND MERCURE หรือ SULE SHANGRI-LA หรือเทียบเท่า (ระดับ 5 ดาว)
วันที่ 3 ย่างกุ้ง-เจดีย์โบตะทาวน์ (เทพทันใจ)-เทพกระซิบ-ช้อปปิ้งตลาดสก๊อต-ย่างกุ้ง อาหาร (-/กลางวัน/เย็น)
เช้า - บริการอาหารเช้าณห้องอาหารของโรงแรม
นมัสการเจดีย์โบตะทาวน์ซึ่งโบตะทาวน์แปลว่าเจดีย์นายทหาร 1,000 นายได้สร้างเจดีย์โบตะทาวน์นี้และทรงนำพระเกศธาตุไว้ 1 เส้นก่อนที่จะนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆเมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์คือพระพุธรูปทองคำประดิษฐานในวิหารด้านขวามือเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนักตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปีพ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในอินเดียทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ตและด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้นนัตโบโบยีหรือเทพทันใจซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชาด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจจากนั้นนำท่าน
สักการะเทพกระซิบ“อะมาดอว์เมี๊ยะ”ตามตำนานกล่าวว่านางเป็นธิดาของพญานาคที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีลไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วการบูชานั้นจะต้องกระซิบขอพรที่ข้างหูเบาๆและบูชาด้วยมะพร้าวกล้วยนากที่เขาจัดไว้เป็นชุดแล้วนอกจากนี้ยังนิยมบูชาด้วยน้ำนมและข้าวตอกรวมทั้งดอกไม้ซึ่งมักจะเป็นดอกมหาหงส์ที่คนพม่านิยมใช้บูชาพระกันทั่วไป
กลางวัน - รับประทานอาหารกลางวันณภัตตาคาร ( เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร )
**วันที่ 10-20 เมษายนของทุกปีร้านหยุดทำการจะเปลี่ยนไปทานร้านอื่นแทนและปรับเป็นเมนูปกติ**
บ่าย - จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ตลาด“สก๊อตมาร์เก็ต”ซึ่งสร้างเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษให้ท่านได้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองมากมายในราคาถูกเช่นไม้แกะสลักพระพุทธรูปไม้หอมแกะสลักแป้งทานาคาผ้าปักพื้นเมืองเครื่องเงินไข่มุกและหยกพม่า
***ตลาดสก็อตจะปิดช่วง 10-20 เม.ย. ของทุกปี(เวลาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง) จะเปลี่ยนแปลงโปรแกรมโดยนำคณะไปยังห้างสรรพสินค้าของย่างกุ้งแทน**
18.20 น. ออกเดินทางย่างกุ้ง(สนามบินมิงกาลาดง)-กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (PG704 : 18.20-20.15) โดยสายการบินบางกอกแอร์แอร์เวย์เที่ยวบินที่PG704 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
20.15 น. คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมด้วยความประทับใจ
นมัสการเจดีย์โบตะทาวน์ซึ่งโบตะทาวน์แปลว่าเจดีย์นายทหาร 1,000 นายได้สร้างเจดีย์โบตะทาวน์นี้และทรงนำพระเกศธาตุไว้ 1 เส้นก่อนที่จะนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆเมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์คือพระพุธรูปทองคำประดิษฐานในวิหารด้านขวามือเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนักตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปีพ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในอินเดียทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ตและด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้นนัตโบโบยีหรือเทพทันใจซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชาด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจจากนั้นนำท่าน
สักการะเทพกระซิบ“อะมาดอว์เมี๊ยะ”ตามตำนานกล่าวว่านางเป็นธิดาของพญานาคที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีลไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วการบูชานั้นจะต้องกระซิบขอพรที่ข้างหูเบาๆและบูชาด้วยมะพร้าวกล้วยนากที่เขาจัดไว้เป็นชุดแล้วนอกจากนี้ยังนิยมบูชาด้วยน้ำนมและข้าวตอกรวมทั้งดอกไม้ซึ่งมักจะเป็นดอกมหาหงส์ที่คนพม่านิยมใช้บูชาพระกันทั่วไป
กลางวัน - รับประทานอาหารกลางวันณภัตตาคาร ( เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร )
**วันที่ 10-20 เมษายนของทุกปีร้านหยุดทำการจะเปลี่ยนไปทานร้านอื่นแทนและปรับเป็นเมนูปกติ**
บ่าย - จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ตลาด“สก๊อตมาร์เก็ต”ซึ่งสร้างเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษให้ท่านได้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองมากมายในราคาถูกเช่นไม้แกะสลักพระพุทธรูปไม้หอมแกะสลักแป้งทานาคาผ้าปักพื้นเมืองเครื่องเงินไข่มุกและหยกพม่า
***ตลาดสก็อตจะปิดช่วง 10-20 เม.ย. ของทุกปี(เวลาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง) จะเปลี่ยนแปลงโปรแกรมโดยนำคณะไปยังห้างสรรพสินค้าของย่างกุ้งแทน**
18.20 น. ออกเดินทางย่างกุ้ง(สนามบินมิงกาลาดง)-กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (PG704 : 18.20-20.15) โดยสายการบินบางกอกแอร์แอร์เวย์เที่ยวบินที่PG704 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
20.15 น. คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมด้วยความประทับใจ