TOKYO OARAI FUJI ซุปตาร์ ใบไม้แดง..แปร๊ด

สถานที่ทัวร์:
ญี่ปุ่น
ระยะเวลา:
6 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Thai Airasia X

TOKYO OARAI FUJI ซุปตาร์ ใบไม้แดง..แปร๊ด6 วัน 4 คืน

฿0

กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น

ออกจากกรุงเทพฯ
23.45
ถึงญี่ปุ่น
08.00

ญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ

ออกจากญี่ปุ่น
09.15
ถึงกรุงเทพฯ
13.45

โปรแกรม 6 วัน 4 คืน : เดินทางโดยสายการบินThai Airasia X

20.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

23.45 น. เหิรฟ้าสู่ เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ600

08.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ

นำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น อิบารากิซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโตเกียว เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามมากมาย โดยเฉพาะเทศกาลที่เกี่ยวกับดอกไม้ ที่มีให้ชมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นเจังหวัดที่มีการผลิตนัตโตะ หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น มากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)

จากนั้นเข้าชม สวนฮิตาจิ ซีไซด์ (Hitachi Seaside Park) เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ 1.9 ล้านตารางเมตร มีดอกไม้บานให้ชมตลอดทั้งปี โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงเวลาสำคัญๆ ดังนี้
1. ปลายมีนาคม ถึง กลางเมษายน ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นดอกนาร์ซิวซัส (Narcissus)
2. กลาง ถึง ปลายเมษายน เต็มไปด้วยดอกทิวลิป (Tulip) หรือเรียกว่าช่วง Tulip World
3. ปลายเมษายน ถึง ปลายพฤษภาคม เต็มไปด้วยดอกเนโมฟิลา (Nemophila) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Baby Blue Eyes
4. ปลายกันยายน ถึง ตุลาคม พุ่มดอกโคเชีย (Kochia) หรือที่เรียกว่าช่วง Kochia Carnival

เรียกได้ว่าสวนแห่งนี้ สามารถเข้าไปชมดอกไม้สวยๆ ได้หลากหลายพันธุ์ ในหลายๆ ช่วงเวลา อิสระ ให้ท่านถ่ายรูปกับดอกไม้ตามฤดูกาลตามอัธยาศัย

จากนั้นออกเดินทางสู่ ตลาดปลาโออาไร (Oaraicho) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ท่านสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงมาจากท่าเรือประมงโออาไร อาทิ ข้าวหน้าปลาดิบ หรืออาหารทะเลปิ้งย่าง นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลตากแห้งที่ทำเองโดยชาวประมง ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของฝากอีกด้วย อิสระรับประทานอาหารทะเลสดๆ แบบปิ้งย่าง เพลิดเพลินกับหลากหลายเมนู ปลาสดๆ เช่น ปลาอังโค ปลาชิราสุ (ปลาข้าวสาร) ตามแต่ฤดูกาล หอยเชลล์ หอยตลับ หอยนางรม หมึกย่างเนย และกุ้ง เป็นต้น

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ตลาดปลาโออาไร (1) Cash Back 1500Yen/Person (By Guide)
เดินทางสู่ คาเนฟุคุ เมนไต ปาร์ค (Kanefuku Mentai Park Oarai) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-10 นาที) หรือ พิพิทธภัณฑ์เมนไทโกะ “เมนไทโกะ (Mentaiko) คือ ไข่ปลาทาระ หรือปลาค็อดที่นำมาหมักและปรุงรส ส่วนใหญ่จะมีรสเผ็ด ถูกปากคนไทย นอกจากนี้ยังนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผสมในเมนูอาหารญี่ปุ่น เช่น โอนิกิริ เป็นต้น” ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ตลาดขายผลิตภัณฑ์เมนไทโกะ โรงงานผลิตเมนไทโกะ และศูนย์อาหาร ในส่วนของโรงงาน ท่านสามารถเข้าชมขั้นตอนการผลิตไข่ปลาเมนไตโกะ ได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถลองชิมได้อีกด้วย

เดินทางสู่ ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-10 นาที) ศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นหนึ่งในเสาโทริอิขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคคันโต ถูกเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งจังหวัด และได้รับความเชื่อถือมาอย่างยาวนานในฐานะเทพเจ้าผู้ให้ความคุ้มครองการคมนาคมทางทะเล และความสงบสุขภายในครอบครัว นำท่านรับพลังงานบวก ณ เสาโทริแห่งคามิอิโซะ (Kamiiso no Torii) โทริอิสีเทาที่นิ่งสงบ บนโขดหินท่ามกลางฟองคลื่นสีขาวที่สาดกระเซ็น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าโอนามุจิโนะมิโคโตะ และ เทพเจ้าสุคุนะฮิโคนะโนะมิโคโตะ สร้างขึ้นตั้งแต่ 29 ธันวาคม ค.ศ.856 รวมทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเฝ้าคอยเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาที่แสงตะวันสาดส่องขึ้นสู่ขอบฟ้า

เดินทางสู่ ชายหาดโออาไร (Oarai Sun Beach) เป็นชายหาดน้ำตื้น กว้างสุดลูกหูลูกตา อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศริมชายหาด และหากวันไหนโชคดี มีน้ำขึ้นท่วมเต็มบริเวณชายหาดและมีสภาพอากาศและเวลาที่เหมาะบริเวณชายหาดนี้จะเกิดเป็น Reflection beach หรือภาพสะท้อนบนผิวน้ำ ซึ่งถือเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทาสู่ เมืองนาริตะ เพื่อเข้าสู่ที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2)

ที่พัก Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)

10.40 น. เดินทางถึง ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง) ที่มีความสูงเหนือจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติได้มอบมาให้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นตลอดทุกฤดูกาล นำท่านขึ้นสู่ชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ (ขอสงวนสิทธิ์ไม่ขึ้น ในกรณีที่อากาศไม่เอื้ออำนวย หรือ ทางขึ้นปิด) ที่ทุกท่านจะได้เห็นถึงความสวยงามของตัวภูเขาและวิวโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ ให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายบรรยากาศได้อีกด้วยอิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)

นำท่านขึ้น กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ (Mt. Fuji Panoramic Ropeway) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) คือ กระเช้าที่ขึ้นสู่ยอดเขาเทนโจ ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบคาวากุจิ ตัวกระเช้าเป็นกระจกใส สามารถมองวิวได้โดยรอบ และเมื่อถึงด้านบนภูเขาเท็นโจมีจุดชมวิวแบบพาโนราม่าที่มีระดับความสูง 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีการตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนจากนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่อง “Kachi Kachi Yama” ของ Dazai Osamu ซึ่งเกี่ยวกับกระต่ายและทานูกิ โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาทั้งทะเลสาบคาวากูจิและภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายอาหารและของที่ระลึกอีกด้วย

จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย และจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

นำท่านสู่ อุโมงค์ใบเมเปิ้ล (Momiji Corridor or Momiji Kairo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25นาที) จุดชมใบไม้เปลี่ยนที่สวยงามบริเวณทะเลสาบคาวากูชิโกะ ต้นเมเปิ้ลที่ขึ้นอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของคลองน้ำจะเปลี่ยนสีทั้งส้มและแดง ใบที่แห้งแล้วก็จะร่วงหล่นลงที่คลอง ทำให้ทั้งด้านบนและด้านล่างเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ล จึงดูเหมือนกับเป็นอุโมงค์ใบเมเปิ้ล ในตอนกลางคืนจะมีไฟ illumination เปิดประดับยาวตามทางเดินไปตลอดแนวอีกด้วย (**หมายเหตุ เทศกาล Fuji Kawaguchiko Autumn Leaves Festival จะจัดขึ้นในช่วงราวๆ กลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และสำหรับปี 2022 ยังไม่ประกาศออกมาอย่างแน่ชัด)

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที) เป็นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอีกสถานที่หนึ่ง โดยมีวิวภูเขาไฟฟูจิสีขาวตัดกับพื้นหลังสีฟ้า และใบไม้เปลี่ยนสี สีเหลือง แดง ส้ม เป็นภาพที่สวยงามมาก โอชิโนะฮักไกเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะ กับทะเลสาบยามานาคาโกะ บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และซุ้มรอบๆบ่อ ที่ขายทั้งผัก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (5) พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับ บุฟเฟ่ต์ขาปู

ที่พัก Sun Plaza Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

เดินทางสู่ หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) คือ หุบเขาภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุของภูเขาคามิ ในช่วงที่ภูเขาไฟฮาโกเนะระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน ดังนั้น ทำให้บริเวณนี้มีแร่กำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ไฮไลท์!!! ชิม ไข่ดำ (Kuro-Tamago) ซึ่งเป็นไข่ต้มสุกในบ่อของหุบเขาโอวาคุดานิแห่งนี้ ว่ากันว่ากินไข่ดำหนึ่งฟอง จะอายุยืนขึ้นไปอีกเจ็ดปี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) ณ ทะเลสาบอาชิ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ให้ท่านได้ล่องเรือชมความงามของทัศนียภาพสองข้างทาง รวมถึงวิวภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25-30 นาที)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)

เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง)

จากนั้น นมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “Kaminari Mon หรือ ประตูฟ้าคำรณ” บริเวณทางเข้าสู่ตัววิหารจะมี ถนนนากามิเซะ (Nakamise Shopping Street) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย เช่น หน้ากาก ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก และขนมนานาชนิด ทั้ง เมล่อนปังในตำนาน ดังโงะหนึบหนับ ขนมนิงเงียวยากิไส้ถั่วแดง และน้องปลาขนมไทยากิ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก

ใกล้กันพาท่านเดินไปถ่ายรูปคู่กับ หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกอย่างหนึ่งของกรุงโตเกียว บริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นหอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.2012 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโทรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ทิวทัศน์ของ หอคอยโตเกียวสกายทรี ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอโดะ (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย)

เดินทางสู่ ฮาราจุกุ (Harajuku) ย่านแห่ง ป๊อปคัลเจอร์ เราจะเห็นคนญี่ปุ่นในชุดคอสเพลย์ได้ที่นี่ เป็นสถานที่ ที่ผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมวัยรุ่นจะเที่ยวได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมี Laforet HARAJUKU ที่ครบครันด้านแฟชั่น ทั้งร้านเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นต่างๆ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย รวมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมหรู หรือจะเป็นบริเวณ ถนนทาเคชิตะ (Takeshita-dori) ที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย เช่น ร้านอาหาร ร้านเครปญี่ปุ่นที่โด่งดัง รวมไปถึงคาเฟ่น่ารักๆ และย่านฮาราจูกุแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine or Meiji Jingu) ศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาไหว้ขอพรในช่วงวันปีใหม่จำนวนมาก ฮาราจูกุถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศไม่ควรพลาด

18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (8)

ที่พัก Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)

จากนั้นนำท่านเข้า ตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยแบบ RT-PCR หรือ Real Time PCR ตามมาตรการของรัฐบาล (ราคารวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10)

นำท่านช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้งชินจุกุ (Shinjuku) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว

เดินทางสู่ ย่านโอไดบะ (Odaiba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) คือเกาะที่สร้างขึ้นไว้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงต่างๆ ในอ่าวโตเกียว ได้รับการปรับปรุงให้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในช่วงหลังของปี 1990 นอกจากมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตั้งอยู่มากมายแล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียว ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (Diver City Tokyo Plaza) เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เดินทางสู่ อิออน มอลล์ นาริตะ (Aeon Narita Mall) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade และซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย

ที่พัก Narita Gateway Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)

09.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601

13.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**

14.40 น. หลังจาก ผ่านขั้นตอนการการกลับเข้าประเทศไทย และรับกระเป๋าสัมภาระต่างๆ เรียบร้อยแล้ว นำท่านเข้าสู่กระบวนการกักตัวแบบ Test & Go โดยจะมีรถที่ประสานงานกับทางโรงแรมที่พักมารับ ณ จุดรับส่ง เพื่อนำท่านไปยังโรงแรมสำหรับตรวจคัดกรองเชื้อโควิด 19 พร้อมนอนรอฟังผล อีก 1 คืน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องพักภายในโรงแรม (12)

ที่พัก โรงแรมเกรซ กรุงเทพฯ (Grace Hotel Bangkok) เทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องพักภายในโรงแรม (13)

รอผล Test & Go หากผลตรวจไม่ติดเชื้อ แยกย้ายกลับบ้านพร้อมความประทับใจ

**แต่ทว่าผลตรวจติดเชื้อโควิด เข้ารักษาและปฏิบัติตัวตามมารตรการของรัฐบาลต่อไป

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา