อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ได้รับการสนใจมากในปัจจุบัน ด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งมีภูมิอากาศที่มีฤดูหนาวเย็นและยาวนานใกล้เคียงกับทวีปยุโรปโดยไม่ต้องบินข้ามทวีปกันเลยทีเดียว และยังมีระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี อาทิเช่น การจัดการขยะ การอนุรักษ์ธรรมชาติ

รวมถึงเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จึงก่อให้เกิดวัฒนธรรมอันดีงาม แถมยังมีภาษา ที่สละสลวย ฟังดูแล้วอ่อนไหวและอ่อนน้อมมากจนคล้อยตาม และที่สำคัญคง เป็นเรื่อง อาหาร ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ได้รับการยกย่องติดอันดับแรกๆของโลก ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ, เท็มปุระ, สุกียากี้, ยะกิโทะริ,ทงกะสึ, ราเม็ง, ซาซิมิ และ โซบะ ฟังดูแล้วหิวเลยใช่มั้ย

พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องพูดถึงก็คือออนเซ็น หรือ การแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางอากาศที่หนาว เพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น แถมมีประโยชน์อีกมากมาย อาทิเช่น ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น ช่วยเรื่องการนอนหลับขับของเสียในชั้นผิวหนังลดบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ และผ่อนคลายความเครียด เป็นยังไงล่ะ ประโยชน์เยอะขนาดนี้ จะพลาดกันไม่ได้เด็ดขาดที่สักครั้งในชีวิต หากคุณไปเยือนประเทศญี่ปุ่น แล้วต้องลงไปแช่ออนเซ็น เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่น่าลองจริงๆ

ภาพจาก:www.wegointer.com/2018/05/17-japan-onsen-map-the-guide-to-japanese-hot-springs/


1.“NoboribetsuOnsen” (登別温泉)ที่ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็น จึงเป็นแหล่งแช่ออนเซ็นที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยที่เมืองโนโบริเบทสึออนเซ็น เป็นเมืองกลางหุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ว่ากันว่าที่นี่เป็นเหมือน “ห้างสรรพสินค้า” ของออนเซ็นเลยทีเดียว เพราะเขาบอกว่าน้ำแร่ของที่นี่ มีความแตกต่างกันถึง 9 แบบ ซึ่งแร่ธาตุที่มีอยู่ก็เช่น กำมะถัน, เกลือ, โซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นต้น เลือกแช่กันตัวเปื่อยได้เลย

ที่ชื่อว่า “หุบเขานรก” ก็มาจากภาษาญี่ปุ่น จิโกคุ=นรก, ดานิ=หุบเขา นั่นเอง คือ เดินๆ สามารถเห็นพื้นดินที่มีควันไอน้ำร้อนพุ่งเป็นระยะๆ เปรียบเหมือนว่าเดินอยู่ในนรก

2.“TakayuOnsen” (高湯温泉)มีประวัติอันยาวนานประมาณ 400 ปี ธรรมชาติในพื้นหลังของคุณจะผ่อนคลายประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณอย่างแน่นอน คุณยังสามารถสัมผัสกับความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ในความลึกของธรรมชาติ จากน้ำพุร้อนมีน้ำตกและลานชมวิวที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่า

ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 750 เมตรบนเนินเขาของเทือกเขาอะซูมะ บ่อออนเซ็นแบบเปิดโล่งของที่นี่จึงสามารถมองเห็นวิวของภูเขา ต้นไม้ ท้องฟ้า และในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมไปทั่วคล้ายกับก้อนเมฆที่ลอยตัวอยู่ เหมือนกับได้แช่อยู่บนสวรรค์กันเลยทีเดียวความพิเศษอีกอย่างคือน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง และลักษณะน้ำที่เจือด้วยกำมะถัน ทำให้น้ำขุ่นเหมือนกับน้ำนม บางแห่งเป็นสีฟ้าสดและมีกลิ่นกำมะถันอันเป็นเอกลักษณ์ กำมะถันไม่เป็นอันตรายใดๆแต่ดีต่อผิวของคุณมากๆ เมื่อคุณแช่น้ำพุร้อนของที่นี่ผิวของคุณจะเนียนและลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ที่อยู่: Takayu, Machiniwasaka, Fukushima-shi, Fukushima

3.“NyutoOnsen” เป็นแหล่งเรียวกังออนเซนในภูเขาฝั่งทิศตะวันออกของจังหวัดอากิตะ เรียวกังแต่ละแห่งค่อนข้างเรียบง่ายเป็นสไตล์ดั้งเดิม และเปิดให้บริการมามากกว่า 300 ปี ทั้งหมด 8 แห่ง โดยเรียวกังสุรุโนยุ(Tsurunoyu) เป็นออนเซนในนิวโตะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุด

น้ำออนเซ็นของที่นี่มีแร่ธาตุ กัมมะถัน เกลือโซเดียมคลอไรด์ และไฮโดรเจนคาร์บอเนต ละลายอยู่ในน้ำ น้ำเลยมีสีขุ่นๆ อย่างที่เห็น ซึ่งอีก กลิ่นไม่ฉุนมากนักเมื่อเทียบกับออนเซ็นที่อื่น

4.“KusatsuOnsen, one of Kanto, Japan’s less discovered gems” “Kusatsu”อยู่กึ่งกลางรอบ yubatake (แหล่งน้ำร้อนอย่างแท้จริง) ที่น้ำพุร้อนอุดมสมบูรณ์ไหลผ่านภาชนะไม้ที่เย็นตัวลงก่อนที่จะกระจายไปยังโรงแรมและเก็บแร่ธาตุที่บรรจุในวัสดุ จำกัดผู้เข้าชมเพื่อสร้างประสบการณ์ Kusatsuนี้กลับบ้าน Yubatakeนั้นมีสีดำและสีเทอร์ควอยส์ตัดกันเพื่อให้เป็นทิวทัศน์ของเมืองที่เป็นเอกลักษณ์และจุดถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยม

Yubatakeถือเป็นสัญลักษณ์ของ Kusatsu-onsenสามารถเดินทางมาได้โดยทางรถไฟมายังสถานีNaganoharakusatsuguchiแล้วต่อรถบัสของJRอีกประมาณ 25 นาที เป็นแหล่งน้ำพุร้อนหลักของเมือง โดยน้ำพุร้อนจะถูกส่งไปตามท่อไม้เพื่อลดอุณหภูมิ ไปยังที่พักที่เป็นออนเซ็นรวมทั้งห้องอาบน้ำสาธารณะต่างๆ ถือเป็นแหล่งผลิตน้ำพุร้อนที่มีปริมาณมากที่สุดในญี่ปุ่น ได้รับการยกย่องติดอันดับ 1 ใน 3 ของออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น จึงทำให้กลายเป็นแหล่ท่องเที่ยวที่สำคัญของคนญี่ปุ่น จะมีบ่อออนเซนสำหรับให้แช่เท้าฟรีตั้งอยู่โดยรอบอีกด้วย

5.“Yamashiro Onsen” เป็นหนึ่งในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในเมือง Kagaจังหวัด Ishikawa ซึ่งเป็นพื้นที่ในภูมิภาค Hokuriku ซึ่งหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นYamashiro Onsenมีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปีและยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี "Soyu" (โรงอาบน้ำสาธารณะ) ในใจกลางเมืองของพื้นที่ที่เรียกว่า "Yunogawa"

"Yunogawa" ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (1603-1867) มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งมีการจัดแสดงตัวอย่างที่ดีในพิพิธภัณฑ์ เรียวกังเก่าที่มีโครงหลังคาสีแดงและบ้านแบบดั้งเดิมให้ความรู้สึกที่แท้จริงของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เป็นศิลปะขณะแช่ออนเซ็น

6.“OgotoOnsen” โอะโงะโตะ ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ในจังหวัดชิงะ (Shiga) เป็นอนเซ็นที่มีอายุเก่าแก่ถึง 1,200 ปี และเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดชิงะ ในบริเวณนี้มีวัดฮิเอซังเอนเรียคุจิ (HieizanEnryakuji Temple) วัดพุทธในนิกายเทนไดของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว

โอะโงะโตะ อนเซ็น (OgotoOnsen) มีน้ำร้อนสีออกขุ่นเล็กน้อยช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อได้เป็นอย่างดี ทำให้อนเซ็นแห่งนี้กลายเป็นอนเซ็นยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของคันไซ และยังสามารถใช้บริการบ่อแช่เท้าคลายเมื่อยได้ฟรีที่ สวนสาธารณะโอะโงะโตะ อนเซ็น คังโค (OgotoOnsen Kanko Park)

7.“NagaragawaOnsen” (長良川温泉), GifuNagaragawaOnsenเป็นกลุ่มออนเซ็นที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Nagaraในกิฟูจังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น แหล่งที่มาของออนเซ็นอยู่ทางตอนเหนือของเมืองใกล้ MitaboraShinbutsuOnsenกลุ่มนี้รวมอยู่ในรายการ Top 100 Onsenของญี่ปุ่น

รีสอร์ทที่มีน้ำพุร้อนที่แพร่กระจายในแม่น้ำNagaraเต็มไปด้วยน้ำสะอาด Kinkasanซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท Gifu, เขตรอบนอก แหล่งที่มาวาดที่โรงแรมโรงแรมริมฝั่งแม่น้ำ Nagaraของแม่น้ำในฤดูใบไม้ผลิแร่ที่ทะลักออกมาใน Mitahoraในระยะทาง 3.5 กม. ทางทิศเหนือ มันเป็นฐานที่สมบูรณ์แบบของการท่องเที่ยวตกปลานกอ้ายงั่วและเที่ยวชมเมือง สปริงน้ำแร่ด้วย 15 องศา ว่ากันว่ามันมีประสิทธิภาพในโรคประสาท, ปวดข้อ, บรรเทาความเมื่อยล้า ได้ดีเลยดีเดียวเชียว

ที่อยู่: Nagara, Gifu, 502-0817 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 58-297-2122

8.“DogoOnsen” โดโกะอนเซ็นอยู่ห่างจากตัวเมืองมัตสึยะมะ (Matsuyama City) ออกไป 30 นาที เป็นแหล่งอนเซ็นเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นมาเยือนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงอาบน้ำโดโกออนเซ็นฮงคัง (DogoOnsenHonkan) ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมชิ้นสำคัญของญี่ปุ่นเลยทีเดียว อีกทั้งปัจจุบันยังคงเปิดให้ผู้คนเข้าไปใช้บริการอาบน้ำได้ น้ำแร่ที่นี่ให้สัมผัสเบาใสและเรียบลื่น ซึ่งหลังอาบน้ำเสร็จเราจะได้เข้าไปพักผ่อนในห้องที่ตกแต่งไว้อย่างมีสไตล์ หากมีโอกาสมาเยือนโดโกะอนเซ็น (DogoOnsen) แนะนำว่าควรจะต้องมาถ่ายรูปคู่กับตัวอาคารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมของที่นี่ให้ได้

โดโกออนเซ็นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆอีกมากมายหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวจะได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติอันงดงาม เช่น ซากปราสาทยุซุกิ สวนสาธารณะโดโกะ (The Ruin of Yuzuki-jo Castle Site / Dogo Koen Park) และจุดถ่ายรูปที่ระลึกอย่าง โซะระโนะซัมโปะมิจิ (Sora no Sanpomichi) เป็นต้น ที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เรียวกังหรูหราเก่าแก่ไปจนถึงที่พักแบบอบอุ่นสบายๆ นอกจากนี้ยังสามารถสวมชุดยูกาตะเดินเล่นในโดโกออนเซ็นแห่งนี้ได้อีกด้วย

9.“KurokawaOnsen” (黒川温泉) เมืองออนเซ็นคุโรคาวะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาเอโซะ(Aso Mount)ในจังหวัดคุมาโมโต้ ที่อยู่ทางตอนกลางของเกาะคิวชู(Kyushu) ที่บอกได้เลยว่าเป็นเมืองออนเซนที่ฮอตตลอดกาลของญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงเมืองออนเซ็นจะต้องมีชื่อเมืองคุโรคาวะ(Kurokawa)ติดอันดับต้นๆอยู่ตลอดๆ ด้วยความมีเสน่ห์จากบรรยากาศที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เข้ามาปุ๊บจะเห็นเลยว่าจะไม่มีอาคารแนวทันสมัยหรือป้ายไฟอะไรๆแบบที่เห็นตามเมืองใหญ่ๆเลยนะคะ ด้วยความที่ชาวเมืองรวมตัวกันรักษาสภาพความเป็นเมืองเก่าเอาไว้ได้ ตึกอาคารบ้านเรือนเน้นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นหลัก ทำให้คุโรคาวะเป็นเมืองที่ยังคงความเป็นขลังของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณและธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้ได้มาก เมืองมีขนาดเล็กๆที่เดินได้รอบแบบสบายๆ เพราะมีเส้นทางเดินที่เป็นไม้และหิน มีแม่น้ำไหลผ่านและดูมีทั้งมีความชนบทและย้อนยุคไปพร้อมๆกัน

คุโรคาวะออนเซ็นได้รับความนิยมในด้านทิวทัศน์ของเมืองแม้จะอยู่ในสถานที่ห่างไกลกลางภูเขาทางตอนเหนือของเกาะคิวชู (เป็นที่รักของซามูไรและนักเดินทางในยุคเอโดะเพื่อเป็นสถานที่รักษาบาดแผล) สถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีเรียงรายตลอดบริเวณนี้และน้ำพุร้อนได้รับรางวัลสองดาวจากคู่มือมิชลินในบรรยากาศที่เหมาะต่อการบำบัดอีกด้วย

ข้อแนะนำสำหรับการแช่ออนเซ็น
1. เริ่มจากการไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดเสียก่อน ซึ่งถือเป็นข้อปฏิบัติทั่วไปก่อนลงแช่ออนเซ็น การแช่ออนเซ็นไม่อนุญาตให้สวมเครื่องแต่งกายใดๆ แต่สามารถพกผ้าขนหนูผืนเล็กของทางออนเซ็นลงไปในบ่อเพื่อโปะศีรษะไม่ให้ร้อนเกินไป
2.สำหรับการแช่ออนเซ็นคือไม่เกิน 15 นาที แล้วต้องขึ้นมาพัก ไม่เช่นนั้นความร้อนอาจทำให้หน้ามืดได้ หลังจากแช่บ่อรวมด้านนอก ผู้เขียนก็ขึ้นมาพักตากลมหนาวให้ร่างกายเย็นลงเล็กน้อย จากนั้นลองไปแช่ในบ่อในร่มต่อ เนื่องจากบ่อในร่มไม่ได้โดนความเย็นจากอากาศด้านนอก ดังนั้นน้ำจึงร้อนกว่าด้านนอกมาก